เรือ 8 ลำเทียบท่าเทียบท่าเพื่อส่งออกข้าว
กระทรวงพาณิชย์เมียนมาระบุ เรือ 8 ลำที่ถูกกำหนดไว้สำหรับขนส่งสินค้าข้าวถุงกำลังจอดเทียบท่าที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และมีแผนที่จะบรรทุกข้าวสารบรรจุถุงมากกว่า 135,000 ตัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกับสหภาพเมียนมา สหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรม สหพันธ์ข้าวเมียนมา สมาคมพ่อค้าถั่ว ถั่ว ข้าวโพด และเมล็ดงา สมาคมผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มแห่งเมียนมา สมาคมอุตสาหกรรมเมียนมา ชาวสวนยางและผู้ผลิตยางเมียนมา สมาคมผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ประมงและผู้ส่งออกเมียนมาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการส่งออกและอำนวยความสะดวกในการส่งออก ทั้งนี้ สหพันธ์มีเป้าหมายที่จะบรรลุการส่งออกข้าว 2.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีการเงิน 2567-2568 (เมษายน-มีนาคม) โดยคาดว่าจะส่งออกข้าว 12,500 ตัน ผ่านท่าเรือระหว่างประเทศ Ahlon และท่าเรือระหว่างประเทศย่างกุ้ง 10,000 ตันผ่านท่าเรือเมียนมา 9,800 ตันผ่านท่าเรือนานาชาติวิลมาร์ และ 91,120 ตันผ่านท่าเทียบเรือ Sule Pagoda รวมเป็น 135,920 ตัน และเรืออีก 4 ลำจะถูกเรียกไปยังท่าเรือย่างกุ้งเพื่อส่งออกข้าว 74,000 ตัน อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณ 2566-2567 ที่ผ่านมาการส่งออกข้าวไม่เป็นไปตามเป้าหมายโดยตลอดทั้งปีมีการส่งออกอยู่ที่ 1.6 ล้านตัน มูลค่า 845 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ประธานสมาพันธ์ข้าวเมียนมายืนยันว่านโยบายการเงินของธนาคารกลางเมียนมาในการควบคุมรายได้จากการส่งออกเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกข้าว ส่งผลเสียทางการเงินแก่ผู้ส่งออก รวมทั้ง สภาพอากาศเอลนิโญยังขัดขวางการส่งออกข้าวอีกด้วย
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/8-vessels-dock-at-port-terminals-for-rice-export/#article-title
เมียนมาส่งออกยางกว่า 19,000 ตันไปยังตลาดต่างประเทศในเดือนพฤษภาคม
ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์ เมียนมาจัดส่งยางมากกว่า 19,400 ตัน มูลค่า 26.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับคู่ค้าต่างประเทศในเดือนพฤษภาคม โดยส่งออกผ่านช่องทางการค้าทางทะเลไปยังจีน 8,270 ตัน ไปยังมาเลเซียกว่า 6,670 ตัน ไปยังเวียดนาม 2,190 ตัน ไปยังอินโดนีเซีย 500 ตัน ไปยังญี่ปุ่น 360 ตัน ไปยังอินเดีย 315 ตัน ไปยังเกาหลีใต้กว่า 100 ตัน และส่งออกไปยังศรีลังกาและบังคลาเทศอีกเล็กน้อย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รวมกว่า 17,300 ตัน มูลค่า 23.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 1 ถึง 24 พฤษภาคม เมียนมาส่งมอบยางให้กับประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางด่านชายแดน มากกว่า 1,610 ตันให้กับไทย และ 516 ตันให้กับจีน รวมกว่า 2,120 ตัน มูลค่า 2.93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ตามสถิติกระทรวงพาณิชย์เผยอีกว่า เมียนมาส่งออกถั่วดำ ถั่วแระ และถั่วเขียว จำนวน 147,170 ตัน มูลค่าประมาณ 131.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤษภาคม แบ่งเป็นถั่วดำ 66,036 ตัน มูลค่า 64.48 ล้านเหรียญสหรัฐ ถั่วเขียว 53,630 ตัน มูลค่า 34.787 ล้านเหรียญสหรัฐ และถั่วแระกว่า 27,500 ตัน มูลค่า 32.26 เหรียญสหรัฐ
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-19000-tonnes-of-rubber-to-foreign-markets-in-may/
เมียนมาตั้งเป้าส่งออกทะลุเป้าท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจ
กระทรวงพาณิชย์เมียนมา รายงานว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังช่วยแก้ไขปัญหาของบริษัทที่สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำโดยร่วมมือกับสมาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุและเกินเป้าหมายการส่งออกของประเทศ รวมถึงการส่งออกหลัก เช่น ข้าว ถั่ว ข้าวโพด และยางพารา ตามที่ ก.ล.ต. กำหนด เพื่อการส่งออกตามข้อกำหนดเป้าหมาย เจ้าหน้าที่ยังได้ช่วยแก้ไขปัญหาที่พบในการส่งออกโดยประสานงานกับสมาคมต่างๆ เช่น สหภาพเมียนมา สหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรม สมาพันธ์ข้าวเมียนมา ถั่ว ข้าวโพด และงา สมาคมพ่อค้าเมล็ดพันธุ์พืช, สมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปแห่งเมียนมา, สมาคมอุตสาหกรรมแห่งเมียนมา, สมาคมผู้ปลูกและผู้ผลิตยางแห่งเมียนมา และสมาคมผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ประมงและส่งออกแห่งเมียนมา อย่างไรก็ดี ในบรรดาการส่งออกต่างประเทศ ข้าว 2.5 ล้านตันถูกกำหนดให้ส่งออกในปีงบประมาณ 2567-2568 จากสถิติที่รายงานวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ซึ่งเรือบรรทุกข้าว 8 ลำจอดเทียบท่าที่ท่าเรือระหว่างประเทศ 8 แห่งเพื่อส่งออกข้าว โดยข้าวทั้งหมด 135,920 ตัน แบ่งเป็นข้าว 12,500 ตันจากท่าเรือ Alone International Port Termina 12,500 ตันจากท่าเรือนานาชาติย่างกุ้ง 10,000 ตันจากท่าเรือเมียนมา (เดิมชื่อท่าเรือโบ ออง จ่อ) 9,800 ตันจากท่าเรือนานาชาติวิลมาร์และท่าเรือ Sule Pagoda Wharves จำนวน 91,120 ตันจะถูกส่งออก นอกจากนี้ เรืออีก 4 ลำกำลังจะเทียบท่าที่ท่าเรือนานาชาติย่างกุ้งเพื่อส่งออกข้าว 74,000 ตัน
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-aims-to-surpass-national-export-targets-amid-economic-growth/
กระทรวงพลังงานเดินหน้าขุดเจาะบ่อน้ำมันลึกเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมัน
กระทรวงพลังงานได้ประกาศแผนการจัดหาเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญระดับสากลเพื่อเจาะบ่อน้ำมันเก่าให้ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันด้วยว่าจะมีการขุดเจาะหลุมใหม่ 2 หลุมในปีงบประมาณ 2567-2568 โดยมีบริษัท Myanma Oil and Gas Enterprise จะดูแลการขุดเจาะหลุมเหล่านี้ ด้วยความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญจาก MPRL E&P Company อย่างไรก็ดี หลุมที่ได้รับการอนุมัติเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะเข้าถึงระดับความลึกที่กระทรวงกำหนด และสร้างเหตุการณ์สำคัญใหม่ในประวัติศาสตร์การผลิตน้ำมัน เนื่องจากความพยายามก่อนหน้านี้ต้องดิ้นรนในการผลิตน้ำมันจากทรายที่มีไฮโดรคาร์บอนซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ดิน นอกเหนือจากความพยายามในการวิจัยและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มการผลิตในแหล่งน้ำมันที่สมบูรณ์แล้ว เจ้าหน้าที่ยังมุ่งเน้นไปที่การประสานงานและการแบ่งปันความรู้อีกด้วย รวมทั้งกระทรวงพลังงานกำลังดำเนินมาตรการเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และการขุดเจาะบ่อน้ำลึกในแหล่งน้ำมันเก่า ตลอดจนการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของยุทธศาสตร์
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moe-advances-deep-well-drilling-to-boost-oil-production/
รมว.พาณิชย์เมียนมา ร่วมประชุมประสานงานส่งเสริมการส่งออก
วานนี้ ที่สำนักงานเขตย่างกุ้ง ได้มีการประชุมประสานงานส่งเสริมการส่งออก โดยมี U Tun Ohn รัฐมนตรีสหภาพพาณิชย์ เจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคจากกระทรวงการค้าและกรมกิจการผู้บริโภค เลขานุการคณะกรรมการทำงานด้านการกำกัลดูแลการไหลเวียนของการค้าและสินค้า และเจ้าหน้าที่จากการท่าเรือเมียนมา , สหพันธ์ข้าวเมียนมา และสมาคมพ่อค้าถั่ว ถั่ว ข้าวโพด และเมล็ดงาเมียนมา ในระหว่างการประชุม รัฐมนตรีสหภาพได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศและส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป้าหมายสำหรับปีงบประมาณ 2567-2568 ได้มีการตั้งไว้แล้ว รวมถึงเป้าหมายการส่งออกข้าว ถั่ว ข้าวโพด และยางพาราในแต่ละเดือน รวมทั้งรัฐมนตรีสหภาพยังย้ำถึงความสำคัญของความพยายามร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการส่งออกเหล่านี้ นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบทุกคนดูแลห่วงโซ่อุปทานสำหรับการส่งออกข้าวที่ราบรื่น ตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงการจำหน่าย เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาดภายนอก ลำดับความสำคัญอื่นๆ ที่ระบุไว้ ได้แก่ การส่งออกถั่วและข้าวโพดที่เพิ่มขึ้น การรักษาเสถียรภาพของตลาดพืชผลในประเทศ การส่งเสริมการส่งออกเสื้อผ้า CMP ปลา กุ้ง และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำอื่นๆ การให้ความสำคัญกับเรือส่งออกข้าวเพื่อจอดเทียบท่าที่ท่าเรือ และการจัดการกับข้อกำหนดด้านโลจิสติกส์ เช่น เป็นตู้คอนเทนเนอร์และรถบรรทุกเพื่อรองรับความต้องการของท่าเรือ
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/union-commerce-minister-attends-export-promotion-coord-meeting/
เมียนมาลงนาม MoU กับเวียดนาม หนุนภาคส่วนมะพร้าว
ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์ เมียนมาลงนามบันทึกความเข้าใจกับเวียดนามเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาภาคมะพร้าวที่ ในย่างกุ้งเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม และได้ไปศึกษาดูงานฟาร์มมะพร้าวในหมู่บ้านยินกาดิษฐ์ เมืองพันตานอว์ เขตอิรวดี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม โดยเมียนมาจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับโครงการ “ห่วงโซ่มูลค่าผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ (มะพร้าว)” ภายใต้กองทุน ACEMES-ROK ที่โรงแรม Pan Pacific บริษัท เมียนมา ออร์ชาร์ด จำกัด และสหกรณ์บริการการเกษตร Hoa Binh Hiep ของเวียดนาม ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อจัดหาต้นมะพร้าวและความช่วยเหลือด้านเทคนิคสำหรับสวนมะพร้าว ซึ่งในการประชุมเชิงปฏิบัติการ ผู้เชี่ยวชาญที่นำโดยนาง Nguyen Thi Kim Thanh ประธานสมาคมมะพร้าวเวียดนาม ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการปลูกมะพร้าวและวิธีการผลิต คาร์บอนเครดิต และการสร้าง Macapuno ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่างไรก็ดี ภายใต้กองทุน ACEMES-ROK โครงการ “ห่วงโซ่มูลค่าผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ (มะพร้าว)” ยังรวมหลักสูตรหัตถกรรมมะพร้าวในเขตอิรวดีระหว่างเดือนพฤษภาคม 2566 ถึงเมษายน 2567 ซึ่งหลักสูตรนี้จะนำเสนอแนวทางปฏิบัติในการเปลี่ยนกะลามะพร้าวเหลือทิ้งให้เป็นงานฝีมือที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เรียนรู้ทักษะการเลือกกะลามะพร้าว การออกแบบ ตัด ขัด ตากแห้ง และตกแต่งด้วยอุปกรณ์ทีละขั้นตอน มีวิชาการวาดภาพขั้นพื้นฐานรวมอยู่ด้วย
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-signs-mou-with-vietnam-to-bolster-coconut-sector/