‘เวียดนาม’ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของบริษัทระดับโลก

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไหลเข้าประเทศ มีมูลค่า 13.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพื่อให้เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาตินั้น ทางหน่วยงานได้เสนอให้รัฐบาลแก้ไขหรือปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพของการลงทุนจากต่างประเทศ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งนี้ ธนาคารโลก (WB) ได้ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เวียดนามประสบความสำคัญในแง่ของการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน ความมั่งคงทางการเมืองและศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เติบโตอยู่ในระดับสูง อีกทั้ง บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก อาทิเช่น ซัมซุง (Samsung), แอลจี (LG) และ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) มีแผนที่จะย้ายสายการผลิตแห่งใหม่ในเวียดนาม

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-remains-leading-destination-of-fdi-businesses-post1031393.vov

นายกฯ มาเลเซียเยือน สปป.ลาว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี

การมาเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ ของนายกรัฐมนตรี Datuk Seri Anwar Ibrahim นายกฯ มาเลเซีย ในช่วงวันที่ 26-27 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันหลัง สปป.ลาว จะต้องเป็นประธานในการจัดการประชุมอาเซียนในปีหน้าที่จะต้องรับตำแหน่งต่อจากอินโดนีเซีย โดยผู้นำทั้งสองพร้อมที่จะเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoC) ระหว่าง Keretapi Tanah Melayu Berhad (KTMB) และรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งชาติ สปป.ลาว (LNRSE) รวมถึง Mutiara Perlis Sdn Bhd (MPSB) ขณะที่ท่าเรือบกท่านาแล้ง (TDP) กล่าวว่า การค้าทวิภาคีระหว่างมาเลเซียและ สปป.ลาว เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 425 จากมูลค่าการค้ารวม 48.7 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 เป็น 255.6 ล้านดอลลาร์ ในปี 2022 เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของมาเลเซียที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งมาเลเซียยังคงเป็นกลุ่มประเทศผู้เข้ามาลงทุนโดยตรงมายัง สปป.ลาว (FDI) รายใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ รองจากจีน ไทย และเวียดนาม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในโครงการลงทุนภาคพลังงาน เขตการค้าเสรี ยานยนต์ และการธนาคาร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten122_PM_Anwar_y23.php

CDC อนุมัติโครงการลงทุนเพิ่ม 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 15 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 3 โครงการ ด้วยเงินทุนรวม 15.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งโครงการแรกเป็น บริษัท BOLITO GARMENT CO., LTD., XIN LI AN SHOES CO., LTD. และ NEW HM KNITTING CLOTHING (CAMBODIA) CO., LTD. โดยได้กล่าวไว้ในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) โดยทั้งสามบริษัทจะลงทุนในการจัดตั้งโรงงานผลิตเสื้อผ้าในจังหวัดกันดาลและกัมปงสปือ รวมถึงจัดตั้งโรงงานผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนรองเท้าในเมืองหลวงอย่างกรุงพนมเปญ ซึ่งคาดว่าจะมีการสร้างงานในท้องถิ่นมากกว่า 3,000 ตำแหน่ง จากการจัดตั้งโครงการลงทุน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501299554/cdc-approves-three-more-investment-projects-worth-over-15-million/

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปี 66 ดึงดูดเม็ดเงินทุน FDI แตะ 10.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ (FIA) เปิดเผยข้อมูลเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามายังเวียดนามตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงวันที่ 20 พ.ค.66 รวมถึงการลงทุนใหม่ การปรับเพิ่มเงินลงทุนและการซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ พบว่ามีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นราว 10.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 10.6 จุดเมื่อเทียบกับตัวเลขในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้

ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่ามากกว่า 6.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาภาคการเงินธนาคาร อสังหาริมทรัพย์และวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี ในขณะที่สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ลงทุนไปกว่า 2.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยญี่ปุ่นและจีน อีกทั้ง ฮานอย (Hanoi) เป็นเมืองที่ได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด มีมูลค่ากว่า 1.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 17.2% ของเงินลงทุนรวม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1544340/viet-nam-s-five-month-fdi-reached-nearly-us-10-86-billion.html

‘อุตฯ เมียนมา’ เผยเดือน เม.ย. ดึงดูดเม็ดเงินลงทุน 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและการบริหารจัดการของเมียนมา (DICA) เปิดเผยข้อมูลทางสถิติในเดือน เม.ย. 2566 ว่าภาคอุตสาหกรรมของเมียนมาดึงดูดเงินลงทุนกว่า 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการปรับเพิ่มเงินลงทุนจากผู้ประกอบการในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการจีนรายหนึ่งที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมของเมียนมา ด้วยมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เมียนมาดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) รวมทั้งสิ้น 1.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2565-2566 (เม.ย.-มี.ค.) การลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่า 271.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมกระจุกตัวอยู่ในสินค้าเสื้อผ้าและสิ่งทอ มีโรงงานผลิตกว่า 541 แห่งที่อยู่ภายใต้สมาคมผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-manufacturing-sector-attracts-3-7-mln-in-april/#article-title

VinaCapital มองเวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนจากต่างประเทศ

Michael Kokalari หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุน Vinacapital กล่าวว่าการกำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไปยังเวียดนาม เนื่องจากความเป็นจริงที่ว่าแรงจูงใจทางด้านภาษีไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัจจัยในการดึงดูดให้มีการตั้งโรงงานในเวียดนาม ตามการวิเคราะห์บ่งชี้ให้เห็นว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยง 2 ประการที่อาจมีผลกระทบต่อการไหลเข้าของ FDI ในอนาคต ดังต่อไปนี้ ประการแรก เวียดนามอาจสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันในฐานะจุดหมายปลายทาง FDI เมื่อเทียบกับประเทศอินเดีย มาเลเซียและอินโดนีเซีย ประการที่สอง คือ อัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกฉบับใหม่ที่จะลดความน่าดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ โดยจำกัดการจูงใจทางด้านภาษีแก่นักลงทุน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1541981/viet-nam-will-continue-to-be-prime-destination-for-fdi-vinacapital.html

แห่ขอบีโอไอไตรมาสแรก 1.8 แสนล้าน เพิ่ม 77% “เกาหลีใต้” ลงทุนมากสุด

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่าสถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรก (ม.ค. – มี.ค.) ปี 2566 มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 397 โครงการ เพิ่มขึ้น 9% และมีมูลค่าเงินลงทุน 185,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป เคมีภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วน ตามลำดับ

ทั้งนี้ ตัวเลข FDI ในช่วงไตรมาสแรก มีโครงการลงทุนจากเกาหลีใต้และสิงคโปร์เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีโครงการใหญ่ที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการใหม่ในปีนี้ ขณะที่ตัวเลขการลงทุนจากจีนและญี่ปุ่น แม้จะอยู่ในอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ แต่ก็เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติที่เลือกใช้ไทยเป็นฐานผลิตสำคัญในภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ การออกบัตรส่งเสริม ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใกล้เคียงการลงทุนจริงมากที่สุดก็เพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกัน โดยในไตรมาสแรก มีจำนวน 431 โครงการ เพิ่มขึ้น 25% เงินลงทุนรวม 123,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เป็นสัญญาณที่ดีว่าในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า จะมีเม็ดเงินลงทุนเกิดขึ้นจริงมากขึ้น

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1298638

4 เดือนแรกของปี กัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนมูลค่ารวม 588 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 65 โครงการ มูลค่าการลงทุนมากกว่า 588 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศจีนเป็นสำคัญ คิดเป็นกว่าร้อยละ 73.5 ของ FDI ทั้งหมดที่ได้เข้ามาลงทุนยังกัมพูชา ด้าน Chea Vuthy รองเลขาธิการ CDC กล่าวเสริมว่า FDI มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชา รวมถึงก่อให้เกิดการสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น และเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยการลงทุนของจีนที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ อีกทั้งสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ไปจนถึงกัมพูชายังมีข้อตกลงการค้าเสรีในระดับทวิภาคีอีกหลายฉบับ อาทิเช่น FTA กัมพูชา-จีน, FTA กัมพูชา-เกาหลี และ RCEP

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501294135/588m-investment-projects-approved-in-four-months/

“เวียดนาม” เผย ม.ค.-เม.ย. ดึงดูด FDI เข้าประเทศ 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยข้อมูล ณ วันที่ 20 เม.ย. พบว่าเวียดนามดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการเบิกจ่ายเงินทุน FDI มูลค่า 5.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สิ่งเหล่านี้ได้ส่งสัญญาเชิงบวกท่ามกลางความผันผวนของการลงทุนจากต่างประเทศ หลังจากมีการกำหนดภาษีเงินได้นิติบุคคลทั่วโลก (Global Minimum Tax : GMT) ที่อัตรา 15% ของกลุ่มบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีรายได้เกินกว่า 750 ล้านยูโร หรือประมาณ 829.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ณ วันที่ 20 เม.ย. 2566 โครงการที่ได้รับอนุญาตใหม่มีจำนวน 37,100 โครงการ ด้วยเงินทุนจดทะเบียนรวม 445.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 279.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 62.8% ของจำนวนเงินทุนที่จดทะเบียนโครงการใหม่ทั้งหมด

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20230425/foreign-investors-pledge-nearly-89bn-to-vietnam-in-janapr/72817.html

“เวียดนาม” เผย ม.ค.-ก.พ. ยอดทุนต่างชาติไหลเข้า 2.55 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 4.9%YoY

กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (MPI) เปิดเผยว่าการเบิกจ่ายเงินทุนของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเวียดนามในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 2.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้ง จำนวนเม็ดเงินทุนจากการเบิกจ่ายในอนาคต ลดลง 38% คิดเป็นมูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 เดือนเช่นเดียวกัน โดยเงินทุนข้างต้นส่วนใหญ่กว่า 70% ลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ในขณะที่ 12.8% ลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/business/vietnam-jan-feb-fdi-inflows-seen-down-49-y-y-255-billion-planning-ministry-3307936