สปป.ลาวเผยขาดดุลการค้า 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม 2563

สปป.ลาวขาดดุลการค้า 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม 2563 ตามข้อมูลล่าสุดจาก เว็บไซต์ the Lao people’s Democratic Republic  Trade Portal โดยรายงานระบุว่าการส่งออกของสปป.ลาวในช่วงเดือนธันวาคมมีมูลค่า 468 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 546 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ ได้แก่ แร่ทองแดง กล้วย เยื่อไม้และเศษกระดาษ ชิ้นส่วนกล้อง ทองแดงและผลิตภัณฑ์ทองแดงเสื้อผ้า ยาง กาแฟ มันสำปะหลังและข้าว สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ยานพาหนะทางบกซึ่งไม่รวมรถจักรยานยนต์เครื่องจักรกล (ไม่รวมยานยนต์) อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า ดีเซล ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์รวมทั้งกระจกและโซ่ เหล็กเส้นและเหล็กแปรรูป ผลิตภัณฑ์พลาสติกและผลิตภัณฑ์เคมี ซึ่งจีนยังคงเป็นประเทศ การส่งออกอันดับต้น ๆ ของสปป.ลาว ตามด้วยเวียดนามและไทย ในขณะที่ประเทศหลักในการนำเข้าคือไทย จีนและเวียดนาม  ทั้งนี้ตัวเลขเหล่านี้ไม่รวมรายได้จากการส่งออกไฟฟ้าและจะอัปเดตเมื่อมี

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/02/03/laos039-trade-deficit-reaches-us78mil-in-december-2020

เปิดแผนเมกะโปรแจ็คต์สปป.ลาว ส่งออกโคเนื้อไปจีน

โครงการทำฟาร์มมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ที่วางแผนไว้ซึ่งได้รับทุนจากกระทรวงและบริษัทในท้องถิ่นมีเป้าหมายเพื่อส่งออกโคเนื้อและผลิตภัณฑ์จากโคแปรรูปไปยังประเทศจีนรวมทั้งตอบสนองความต้องการเนื้อในตลาดสปป.ลาว แผนกการผลิตทางการเกษตรภายใต้แผนกโลจิสติกส์ทั่วไปของกระทรวงป้องกันประเทศและ Chang Jiang Investment Lao Sole Co. , Ltd. ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมทุนในโครงการนี้ ภายใต้ข้อตกลงทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อการผลิตทางการเกษตรครบวงจรสำหรับการส่งออกโคเนื้อไปยังประเทศจีน โดยวางแผนที่จะลงทุนทั้งหมด 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะมีการจัดตั้ง ดำเนินการฟาร์มโค ศูนย์กักกันสัตว์ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสัตว์ โรงฆ่าสัตว์ที่ทันสมัย โรงงานแปรรูป ตลาดขายโคเนื้อและศูนย์สาธิตการเลี้ยงสัตว์และการเกษตร เป้าหมายของโครงการคือการขายโคเนื้อ 400,000 ตัวต่อปีให้กับจีน โดยมีกระทรวงป้องกันประเทศถือหุ้น 20 % และอีก 80 % ที่เหลือ เป็นของ Chang Jiang Investment Lao Sole Co. , Ltd. หลังจากลงนามในสัญญาร่วมทุนแล้วทั้งสองฝ่ายจะยื่นข้อเสนอการลงทุนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงการจดทะเบียนบริษัทร่วมทุน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent /FreeConten_Planned19.php

เมียนมาลุ้นส่งออกน้ำผึ้งไป EU ภายในปีนี้

สมาคมการเลี้ยงผึ้งเมียนมาและกระทรวงพาณิชย์เผย ผู้เลี้ยงผึ้งอยู่ในช่วงเตรียมการเพื่อส่งออกน้ำผึ้งไปยังตลาดสหภาพยุโรปคาดว่าสิ้นปีนี้สามารถส่งออกได้กว่า 50% และส่งออกได้ถึง 800 ตันในปีงบประมาณ 63-64 ปัจจุบันตลาดหลักคือญี่ปุ่น อุตสาหกรรมส่งออกน้ำผึ้งสร้างรายได้ให้กับประเทศประมาณ 4 ดอลลาร์สหรัฐ มีฟาร์มผึ้งประมาณ 670 เฮกตาร์ที่สามารถผลิตน้ำผึ้ง 4,000 ถึง 5,000 ตันต่อปี ซึ่งทั่วประเทศมีโรงงานทำน้ำผึ้ง 6 แห่งโดยจะส่งออกระหว่าง 2,000 ถึง 3,000 ตันไปยังญี่ปุ่นและจีนในทุกๆ ปี ทั้งนี้ผู้เลี้ยงผึ้งต้องปฎิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น การวิเคราะห์อันตรายและจุดควบคุมวิกฤต (HACCP) โดยการสนับสนุนของกระทรวงพาณิชย์และศูนย์การค้าระหว่างประเทศในการจัดหลักสูตร HACCP และส่วนแบ่งการตลาดสำหรับผู้เลี้ยงผึ้ง นอกจากนี้น้ำผึ้งยังสามารถผลิตได้จากน้ำหวานที่เก็บจากไนเจอร์ งา ดอกทานตะวัน สะระแหน่ เถาวัลย์ ถั่วแระ ดอกไม้ป่า และต้นลิ้นจี่

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-export-honey-eu-year.html

PPSEZ ส่งออกไปยังสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และอาเซียน เพิ่มขึ้นในปี 2020

การส่งออกจากเขตเศรษฐกิจพิเศษพนมเปญ (PPSEZ) ภายใต้ FTA อาเซียน – สหภาพยุโรป และโครงการ GSP / MFN (Generalized System of Preferences / Most-Favored Nation) ของสหรัฐฯ มีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ประมาณ 507 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 76 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเสื้อผ้า สิ่งทอ รองเท้า และสินค้าสำหรับการเดินทาง ไปยังสหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น คิดเป็นการส่งออกเสื้อผ้ารวม 20.34 ล้านดอลลาร์ สินค้าที่เกี่ยวกับการเดินทาง 4.637 ล้านดอลลาร์ และรองเท้าคิดเป็นมูลค่า 826,504 ดอลลาร์ ไปจนถึงหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ คิดเป็น 481.68 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในปีนี้จะขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ COVID-19 นั้นจะอยู่ในทิศทางใด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50805264/ppsez-exports-to-us-eu-and-asean-up-substantially-in-2020/

เวียดนามส่งออกทุเรียนไปจีน ผ่านช่องทางหลัก

เวียดนามเร่งเจรจาข้อตกลงทางการค้า เพื่อที่จะส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีน ในจำนวนที่มากขึ้นผ่านช่องทางหลัก ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่จีนก็ยังเป็นผู้บริโภคทุเรียนของเวียดนามรายใหญ่ที่สุดในปีที่แล้ว เมื่อพิจารณาจากตัวเลขสถิติ พบว่าจีนนำเข้าทุเรียนทั่วโลกอยู่ที่ 397,000 ตัน เป็นมูลค่า 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.8% เมื่อเทียบกับปี 2562 อย่างไรก็ตาม การนำเข้าทุเรียนของเวียดนาม ลดลง 66.3% ในช่วง 8 เดือนแรกของปีที่แล้ว ทั้งนี้ เวียดนามส่งออกทุเรียนแบบปอกเปลือกและทุเรียนแช่แข็งไปยังตลาดจีนเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ผ่านช่องทางไม่เป็นทางการ อย่างไรก็ตาม จีนเพิ่งระงับช่องทางไม่เป็นทางการชั่วคราว เนื่องจากกลัวการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ส่งออกในประเทศลำบาก นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ได้เร่งเจรจากับทางจีนเพื่อส่งออกสินค้าเกษตรผ่านช่องทางที่เป็นทางการ โดยจะให้ความสำคัญกับสินค้าเกษตร อาทิ ทุเรียน มันเทศ รังนก ส้มโอ เสาวรส อะโวคาโด และอื่นๆ เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-to-export-durians-to-china-via-official-channels-830589.vov

FTA ดันส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมไปตลาดโลกโต 5%

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศภายใต้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า เอฟทีเอหนุนส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทย 11 เดือน ปี 2563 ขยายตัว 5% มูลค่าส่งออกกว่า 516 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย 94% เป็นการส่งออกไปประเทศคู่          เอฟทีเอ พบว่านมและผลิตภัณฑ์นมซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าดาวรุ่งของไทยมีการพัฒนาและยังปรับตัวได้ดีท่ามกลางกระแสการค้าโลกที่มีความท้าทายสูง ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยไปตลาดโลกเพิ่มขึ้น      คืออุตสาหกรรมนมและผลิตภัณฑ์นมของไทยมีศักยภาพในการผลิตและมีคุณภาพที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน สินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยจึงเป็นที่นิยมและมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมนมในอาเซียน ทั้งนีความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันซึ่งภายใต้ความตกลงการค้าเสรีของไทยสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมทุกรายการที่ส่งออกจากไทยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าแล้วจาก 14 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี และฮ่องกง ส่วนอีก 4 ประเทศ ได้ลดภาษีนำเข้าสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมให้ไทยบางส่วนแต่ยังเก็บภาษีนำเข้าในบางสินค้า เพื่อสร้างโอกาสขยายการส่งออกและขยายตลาดให้กับสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยได้เพิ่มขึ้น กระทรวงพาณิชย์มีแผนจะจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการโคนมแปรรูปของไทยกับผู้นำเข้า ผู้กระจายสินค้า ผู้แทนห้างค้าส่ง/ค้าปลีก ในตลาดจีนเพื่อขยายมูลค่าการค้าของผลิตภัณฑ์นมให้สูงขึ้น

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/beco/3189424

เวียดนามประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการส่งออกข้าว แม้มีการหยุดชะงัก

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแถลงการณ์ว่าในปี 2563 เวียดนามส่งออกข้าวประมาณ 6.15 ล้านตัน หรือเป็นมูลค่า 3.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่าปริมาณการส่งออกข้าวจะลดลงราว 3.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากด้านความมั่งคงทางอาหารของประเทศ แต่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 9.3% อีกทั้ง ราคาส่งออกข้าวเฉลี่ยทั้งปี อยู่ที่ประมาณ 499 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับปี 2562 ข้อมูลข้างต้น ชี้ให้เห็นว่าเป็นราคาเฉลี่ยทั้งปีที่สูงที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลประโยชน์แก่ชาวเกษตรกรเวียดนาม อย่างไรก็ตาม โครงสร้างการส่งออกข้าวของเวียดนาม ยังคงใช้ข้าวที่มีคุณภาพสูง ด้วยราคาขายและมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ตามรายงานของสมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) ระบุว่าในปี 2563 เป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการส่งออกข้าวของเวียดนาม เหตุจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในหลายๆประเทศ และความสามารถทางการแข่งขันของเวียดนามที่ดีขึ้นในตลาดโลก ถึงแม้ว่าโควิด-19 ระบาดไปยังทั่วโลก แต่ผู้ส่งออกข้าวได้ทำการปรับเปลี่ยนกิจกรรมและแสดงหาตลาดใหม่ รวมถึงนำข้อได้เปรียบจากการที่ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ใช้ออกมาอย่างเต็มที่

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/vietnams-rice-exports-win-big-despite-one-month-interuption-27137.html

สปป.ลาวจะส่งออกข้าว 2,000 ตันไปยังจีนตามโควต้าที่ได้รับ

สปป.ลาวมีแผนส่งข้าวขัดมัน 2,000 ตันไปยังจีนในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโควต้าการค้าระหว่างรัฐบาลสปป.ลาวและจีน จากรายงานเวียงจันทน์ไทมส์เมื่อวันพุธ (6 ม.ค. ) โดยอ้างจากกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของสปป.ลาว ข้อตกลงการค้าข้าวขัดมันของสปป.ลาวกับจีนจะบรรลุเป้าหมายทั้งหมดภายในสิ้นปี 2564 ถึงแม้จะมีความท้าทายจากการระบาดของโรคโควิด -19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจีนเป็นตลาดส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสปป.ลาว รายได้ของสปป.ลาวจากการส่งออกข้าวขัดมันไปยังจีนจากกรอบความร่วมมือดังกล่าวช่วยทำให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/01/07/laos-to-export-2000-tonnes-of-rice-to-china-in-january

COVID-19 กระทบส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปยังไทย

ปีงบประมาณนี้ การส่งออกข้าวโพดของเมียนมาไปยังไทยอาจลดลงเนื่องจากการระบาดของโควิด -19 ตลาดจะหดตัวในปีหน้าความล่าช้าอาจเกิดขึ้นได้ในการขนส่งจากเมียวดีไปยังไทยในช่วงที่โควิด -19 ระบาด แนวทางการป้องกัน COVID-19 ผู้ขับรถบรรทุกต้องได้รับการกักกัน 14 วัน ดังนั้นจึงมีคนขับน้อยซึ่งทำให้ไม่เพียงพอ ทั้งยังได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการเมืองของไทย เนื่องจากการส่งออกไปยังประเทศจีนถูกระงับตั้งแต่ปี 61 ผลผลิตข้าวโพดถูกส่งออกไปไทยมากกว่าหนึ่งล้านตันเพิ่มขึ้นจาก 700,000 ตันในปีก่อนหน้า

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-maize-exports-thailand-take-hit-due-covid-19.html

เมียนมาพร้อมเจรจากับจีนเพื่อส่งออกโคสด

กระทรวงเกษตรปศุสัตว์และชลประทานของเมียนมากำลังเจรจากับสำนักงานการศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) เพื่อดำเนินการส่งออกโคสด GACC เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้และมีขั้นตอนใหม่และทั้ง 2 ประเทศต้องเจรจาให้เป็นไปตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ซึ่งการส่งออกต้องให้กรมสัตวบาลภายใต้ GACC ออกใบรับรองสุขภาพให้ นาย U Min Aung Aye ผู้อำนวยการ 105th Mile Border Trade Post ของเมืองมูเซภายใต้กระทรวงพาณิชย์ซึ่งรับผิดชอบในการออกใบอนุญาตการส่งออกกล่าวว่าการส่งออกไปยังจีนน่าจะกลับมาดำเนินการได้ในเดือนมกราคมปีหน้า ขณะนี้วัวและแพะมากกว่า 15,000 ตัวถูกขังไว้ที่ชายแดนเพื่อรอการส่งออกไปยังจีน ซึ่งเมียนมาอนุญาตให้ส่งออกโคมีชีวิตเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 60 ทั้งนี้นอกจากตลาดจีนแล้วยังมีบางส่วนส่งออกไปยังไทย อินเดีย และบังกลาเทศ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-talks-china-resume-live-cattle-exports.html