‘เวียดนาม’ ส่งออกข้าวครึ่งปีแรก 67 ทะลุ 2.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกข้าวในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 4.68 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) และมูลค่า 2.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 32%YoY ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวของเวียดนามในชวงครึ่งปีแรก พบว่าพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าว 3.48 ล้านเฮกตาร์ เพิ่มขึ้น 0.5%YoY และผลผลิตข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 6.7 ตันต่อเฮกตาร์ เพิ่มขึ้น 0.7 ตันต่อเฮกตาร์ ส่งผลให้ผลผลิตรวมอยู่ที่ 23.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.6%YoY ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ 670 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศกัมพูชาและอินเดีย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-earns-298-billion-usd-from-rice-exports-in-h1-post289412.vnp

‘สหรัฐฯ’ ยืนยันสถานะทางเศรษฐกิจเวียดนาม หนุนโอกาสส่งออก

ในช่วงต้นเดือน พ.ค.67 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จัดการประชุมการยอมรับทางเศรษฐกิจแบบตลาดของเวียดนาม พบว่าเวียดนามแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะบรรุหลักเกณฑ์ 6 ข้อที่ไว้ในการเป็นเศรษฐกิจแบบตลาดของประเทศ รวมถึงดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่สหรัฐฯ กำหนดไว้ และอื่นๆ ซึ่งจากการปะเมินของนักวิเคราะห์ ได้เห็นถึงศักยภาพของเวียดนามที่เปิดรับหลักเกณฑ์ต่างๆ ของสหรัฐฯ ได้ดีและเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศมากกว่าอินโดนีเซีย แคนาดาและฟิลิปปินส์

ในขณะเดียวกัน นาง Nguyen Thi Thu Trang ผู้อำนวยการศูนย์ WTO และหอการค้าและการอุตสาหกรรมของเวียดนาม (VCCI) กล่าวว่าการที่เวียดนามคว้าโอกาสจากการยอมรับสถานะทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ ถือว่าเป็นโอกาสครั้งสำคัญของผู้ประกอบการเวียดนาม โดยเฉพาะธุรกิจการผลิตและการส่งออก เนื่องจากได้รับการลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ ผู้ประกอบการสหรัฐฯ ก็สามารถกระจายห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจได้มากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/early-us-recognition-of-market-economy-to-increase-opportunities-for-vietnamese-exports-post288493.vnp

กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่ม GFT โต 20% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาเปิดเผยรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 มิ.ย.) ว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2024 กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าเพื่อการเดินทาง (GFTs) มูลค่ารวมกว่า 4.969 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับมูลค่า 4,129 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับการส่งออกสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าและสิ่งทอมีมูลค่าการส่งออกรวม 3.628 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จาก 2.960 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกสินค้ากลุ่ม รองเท้า มีมูลค่าการส่งออกรวม 615 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และ สินค้าเพื่อการเดินทางมูลค่าการส่งออกรวม 726 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.8 ด้านธนาคารโลก (WTO) ได้ระบุเสริมว่าภาคอุตสาหกรรม GFT ของกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ 5.8 ในปีนี้ ซึ่งตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของภาคส่วนดังกล่าวต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501503300/cambodia-sees-20-pct-rise-in-export-of-garments-footwear-and-travel-goods-in-first-five-months/

กัมพูชาส่งออกมูลค่ารวมเกือบ 220 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

สหพันธ์ข้าวแห่งกัมพูชา (CRF) เปิดเผยในรายงานว่า 5 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาสามารถส่งออกข้าวได้ปริมาณรวมกว่า 302,592 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับปริมาณ 278,184 ตัน ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้เข้าประเทศถึง 219 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากมูลค่า 191 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่งออกไปยัง 63 ประเทศ ผ่านบริษัทผู้ส่งออก 48 แห่ง ซึ่งจีนถือเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ที่ปริมาณการนำเข้ารวม 73,322 ตัน คิดเป็นมูลค่า 46 ล้านดอลลาร์ สำหรับการส่งออกข้าวไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 26 ประเทศ มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 136,528 ตัน คิดเป็นมูลค่า 104 ล้านดอลลาร์ ส่วนการส่งออกไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน 7 ประเทศ มีปริมาณ 65,412 ตัน คิดเป็นมูลค่า 46 ล้านดอลลาร์ และยังมีการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ อีกราว 27,330 ตัน คิดเป็นมูลค่า 22.9 ล้านดอลลาร์ ด้านสหพันธ์ข้าวแห่งกัมพูชา ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวทั้งปี 2023 ไว้ที่ 750,000 ตัน และเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านตัน ภายในปี 2025

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501502343/cambodia-nets-close-to-220-million-from-rice-exports-in-first-five-months/

ยอดส่งออกพัลส์เมียนมาทะลุ 470,000 ตัน มูลค่า 412 ล้านดอลลาร์สหรัฐสหรัฐฯ

สถิติของกระทรวงพาณิชย์เมียนมาเผยว่า เมียนมาสร้างรายได้จากการส่งออก 412 ล้านดอลลาร์สหรัฐสหรัฐจากผลผลิตพัลส์มากกว่า 470,000 ตันในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เดือนเมษายน-พฤษภาคม ของปีการเงินปัจจุบันปี 2567-2568 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน แบ่งเป็นการส่งออกพัลส์ทางทะเลกว่า 460,800 ตัน คิดเป็นมูลค่า 397.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านผ่านพรมแดนทางบก กว่า 17,000 ตัน มูลค่า 14.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2566-2567 ที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกพัลส์ของเมียนมามีมูลค่ามากกว่า 1.484 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสหรัฐ จากมากกว่า 1.76 ล้านตัน (เมษายน-มีนาคม) ซึ่งประกอบด้วยการค้าทางทะเล 1.6 ล้านตัน มูลค่า 1.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสหรัฐ และผ่านด่านชายแดน 157,400 ตัน มูลค่า 141.38 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี เมียนมาส่งออกถั่วดำ ถั่วเขียว และถั่วแระไปยังตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ในจำนวนนี้ ถั่วดำและถั่วแระจะถูกส่งไปยังอินเดียเป็นหลัก ในขณะที่ถั่วเขียวจะถูกส่งออกไปยังจีนและยุโรป นอกจากนี้ ตามบันทึกความเข้าใจระหว่างเมียนมาและอินเดียที่ลงนามเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2564 อินเดียจะนำเข้าถั่วดำจำนวน 250,000 ตัน และถั่วลันเตา (tur) จำนวน 100,000 ตันจากเมียนมาเป็นเวลาห้าปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564-2565 ถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569 ซึ่งสนธิสัญญา G-to-G นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโควตาประจำปีของพัลส์ที่อินเดียกำหนด และผู้ส่งออกของเมียนมายังมีสิทธิ์ส่งพัลส์ไปยังอินเดียภายใต้โควต้าประจำปีนั้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/pulse-exports-cross-470000-tonnes-worth-us412m-in-apr-may/

เมียนมาส่งออกยางกว่า 19,000 ตันไปยังตลาดต่างประเทศในเดือนพฤษภาคม

ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์ เมียนมาจัดส่งยางมากกว่า 19,400 ตัน มูลค่า 26.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับคู่ค้าต่างประเทศในเดือนพฤษภาคม โดยส่งออกผ่านช่องทางการค้าทางทะเลไปยังจีน 8,270 ตัน ไปยังมาเลเซียกว่า 6,670 ตัน ไปยังเวียดนาม 2,190 ตัน ไปยังอินโดนีเซีย 500 ตัน ไปยังญี่ปุ่น 360 ตัน ไปยังอินเดีย 315 ตัน  ไปยังเกาหลีใต้กว่า 100 ตัน และส่งออกไปยังศรีลังกาและบังคลาเทศอีกเล็กน้อย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รวมกว่า 17,300 ตัน มูลค่า 23.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 1 ถึง 24 พฤษภาคม เมียนมาส่งมอบยางให้กับประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางด่านชายแดน มากกว่า 1,610 ตันให้กับไทย และ 516 ตันให้กับจีน รวมกว่า 2,120 ตัน มูลค่า 2.93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ตามสถิติกระทรวงพาณิชย์เผยอีกว่า เมียนมาส่งออกถั่วดำ ถั่วแระ และถั่วเขียว จำนวน 147,170 ตัน มูลค่าประมาณ 131.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤษภาคม แบ่งเป็นถั่วดำ 66,036 ตัน มูลค่า 64.48 ล้านเหรียญสหรัฐ ถั่วเขียว 53,630 ตัน มูลค่า 34.787 ล้านเหรียญสหรัฐ และถั่วแระกว่า 27,500 ตัน มูลค่า 32.26 เหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-19000-tonnes-of-rubber-to-foreign-markets-in-may/

รมว.พาณิชย์เมียนมา ร่วมประชุมประสานงานส่งเสริมการส่งออก

วานนี้ ที่สำนักงานเขตย่างกุ้ง ได้มีการประชุมประสานงานส่งเสริมการส่งออก โดยมี U Tun Ohn รัฐมนตรีสหภาพพาณิชย์ เจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคจากกระทรวงการค้าและกรมกิจการผู้บริโภค เลขานุการคณะกรรมการทำงานด้านการกำกัลดูแลการไหลเวียนของการค้าและสินค้า และเจ้าหน้าที่จากการท่าเรือเมียนมา , สหพันธ์ข้าวเมียนมา และสมาคมพ่อค้าถั่ว ถั่ว ข้าวโพด และเมล็ดงาเมียนมา ในระหว่างการประชุม รัฐมนตรีสหภาพได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศและส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป้าหมายสำหรับปีงบประมาณ 2567-2568 ได้มีการตั้งไว้แล้ว รวมถึงเป้าหมายการส่งออกข้าว ถั่ว ข้าวโพด และยางพาราในแต่ละเดือน รวมทั้งรัฐมนตรีสหภาพยังย้ำถึงความสำคัญของความพยายามร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการส่งออกเหล่านี้ นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบทุกคนดูแลห่วงโซ่อุปทานสำหรับการส่งออกข้าวที่ราบรื่น ตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงการจำหน่าย เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาดภายนอก ลำดับความสำคัญอื่นๆ ที่ระบุไว้ ได้แก่ การส่งออกถั่วและข้าวโพดที่เพิ่มขึ้น การรักษาเสถียรภาพของตลาดพืชผลในประเทศ การส่งเสริมการส่งออกเสื้อผ้า CMP ปลา กุ้ง และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำอื่นๆ การให้ความสำคัญกับเรือส่งออกข้าวเพื่อจอดเทียบท่าที่ท่าเรือ และการจัดการกับข้อกำหนดด้านโลจิสติกส์ เช่น เป็นตู้คอนเทนเนอร์และรถบรรทุกเพื่อรองรับความต้องการของท่าเรือ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/union-commerce-minister-attends-export-promotion-coord-meeting/

เมียนมาตั้งเป้าการค้าต่างประเทศบรรลุมูลค่า 33 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณ 2567-2568

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุเป้าหมายการค้าต่างประเทศมูลค่า 33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2567-2568 ซึ่งประกอบด้วยเป้าการส่งออกมูลค่า 16.7 พันล้านดอลลาร์และการนำเข้ามูลค่า 16.3 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า มูลค่าการค้าต่างประเทศของเมียนมา ณ วันที่ 17 พฤษภาคม ในปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2567-2568 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน มีมูลค่าสูงถึงกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยการส่งออกมูลค่า 1.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้ามูลค่า 1.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแบ่งเป็นการค้าทางทะเลมีมูลค่ารวม 2.85 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่มูลค่าการค้าชายแดนมีมูลค่า 684.56 ล้านดอลลาร์ มีดุลการค้ารวมอยู่ที่ 3.116 พันล้านดอลลาร์ โดยที่เมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ในขณะที่นำเข้าสินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง วัตถุดิบที่นำเข้าโดยวิสาหกิจ CMP และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/foreign-trade-targeted-to-achieve-us33b-in-fy2024-2025/#article-title

กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่ม GFT เพิ่มขึ้น 17% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี

กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋าเดินทาง (GFT) มูลค่ารวม 3,763 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2024 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากมูลค่าราว 3,211 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าประเภทเสื้อผ้าและสิ่งทอ มีการส่งออกมากที่สุดคิดเป็นมูลค่า 2,748 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 ขณะที่การส่งออกรองเท้ามีการส่งออกมูลค่ารวม 453.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 และการส่งออกกระเป๋าเดินทางมีการส่งออกมูลค่า 562 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ซึ่งภาคอุตสาหกรรม GFT ถือเป็นแหล่งรายได้เงินด้านการส่งออกที่สำคัญที่สุดของกัมพูชา ด้านธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่าภาค GFT จะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจกัมพูชาเติบโตร้อยละ 5.8 ภายในปี 2024 สำหรับภาคอุตสาหกรรม GFT ยังเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ โดยมีโรงงานและสาขาประมาณ 1,680 แห่ง จ้างแรงงานราว 918,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501489411/cambodia-records-17-pct-rise-in-garment-footwear-travel-goods-export-in-first-four-months/

การส่งออกของกัมพูชาไปยังประเทศสมาชิก RCEP เพิ่มขึ้น 16% ใน 4 เดือน

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิกเขตเศรษฐกิจครอบคลุม (RCEP) มูลค่ากว่า 3.36 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 16.2 จากมูลค่า 2.89 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ซึ่งคาดว่าการเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากภาษีศุลกากรทางด้านการค้าที่ลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ ส่งผลให้ผู้ส่งออกสามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้า กระตุ้นให้การส่งออกและนำเข้าจากกัมพูชาปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านความตกลงเขตการค้าเสรี RCEP มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2022 โดยสามอันดับแรกของประเทศที่กัมพูชาส่งออกไปยัง RCEP ได้แก่ เวียดนาม ไทย และจีน โดยมีมูลค่าการส่งออก 1.25 พันล้านดอลลาร์, 958 ล้านดอลลาร์ และ 328 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ขณะที่แหล่งนำเข้าของกัมพูชายังคงมาจากจีนที่มูลค่ารวม 2.53 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังประเทศสมาชิก RCEP เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 6.34 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีกก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501489447/cambodias-exports-to-rcep-countries-up-16-percent-in-4-months/