‘เวียดนาม’ ทำลายสถิติส่งออกกาแฟ 4.7 พันล้านดอลลาร์ หนุนความต้องการตลาดสหรัฐ – ยุโรป

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าการส่งออกกาแฟในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีความต้องการของตลาดส่งออกหลัก เช่น สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา และหากพิจารณาเฉพาะในเดือน พ.ค. 2568 พบว่าการส่งออกกาแฟ มีปริมาณราว 149,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 60.5% และเพิ่มขึ้นเกือบ 2.2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ถึงแม้ว่าปริมาณการส่งออกในช่วง ม.ค. – พ.ค. จะหดตัวเล็กน้อย 0.6% แต่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดที่ 63.2%

ทั้งนี้ สหภาพยุโรปยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยมีการนำเข้ากาแฟมากกว่า 367,000 ตัน มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาสหรัฐอเมริกา ปริมาณ 54,310 ตัน มูลค่า 299 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี แนวโน้มการส่งออกกาแฟของเวียดนาม ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระดับโลก และราคากาแฟที่มีทิศทางลดลง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/coffee-exports-hit-record-on-eu-us-demand-post320946.vnp

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรก ยอดส่งออกเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ พุ่ง 17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนาม (VITAS) เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอของเวียดนาม อยู่ที่ 17.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่การนำเข้า 10.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้าประมาณ 6.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ นาย Truong Van Cam รองประธานและเลขาธิการของ VITAS กล่าวว่าถึงแม้จะมีความท้าทายอย่างต่อเนื่อง เช่น อุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวได้ช้า และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลก อย่างไรก็ดี ธุรกิจแห่งแห่งยังคงสามารถรักษาระดับการผลิตให้มีเสถียรภาพได้ รวมถึงปรับปรุงการผลิต เจาะตลาดเฉพาะกลุ่มในการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-garment-textile-exports-top-17-billion-usd-in-five-months-post320689.vnp

กัมพูชาส่งออกไปยังประเทศกลุ่ม RCEP โตเกือบ 8% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี

ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิก RCEP มูลค่า 3,616 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 จากปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 9,311 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวกว่าร้อยละ 18.8 ทำให้มูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 12,927 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 65.6 ของเป้าหมายการค้าระหว่างประเทศในปี 2025 ด้าน Penn Sovicheat ระบุว่าการส่งออกไปยังประเทศกลุ่ม RCEP ที่มีการขยายตัว เป็นผลมาจากอัตราภาษีศูนย์หรือบางรายการสินค้ามีอัตราภาษีที่ต่ำมาก ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกและนำเข้า โดยกลุ่มประเทศดังกล่าวเป็นตลาดหลักสำหรับสินค้าและบริการของกัมพูชา สำหรับเป้าหมายการส่งออกกัมพูชาคาดว่าการส่งออกจะโตร้อยละ 9.4-18 ในปีนี้ ส่งผลให้เศรษฐกิจกัมพูชาขยายตัวร้อยละ 2.0-3.8

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501696874/kingdoms-exports-to-rcep-up-nearly-8-in-first-4-months/

อินโดนีเซียเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของเมียนมาในปีงบประมาณ 2024-2025

ตามข้อมูลของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ในปีงบประมาณ 2024-2025 (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนถึง 31 มีนาคม) อินโดนีเซียเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของเมียนมา โดยมีปริมาณมากกว่า 605,000 ตัน รองลงมาคือ จีน เป็นผู้นำเข้าข้าวของเมียนมารายใหญ่เป็นอันดับสอง โดยนำเข้ากว่า 516,000 ตัน รองลงมาคือเบลเยียม 355,000 ตัน ฟิลิปปินส์ 134,000 ตัน บังกลาเทศ 105,000 ตัน เซเนกัล 96,600 ตัน โกตดิวัวร์ 60,800 ตัน โปแลนด์ 57,200 ตัน สเปน 48,600 ตัน โมซัมบิก 44,200 ตัน แคเมอรูน 27,100 ตัน อังกฤษ 22,800 ตัน เนเธอร์แลนด์ 20,000 ตัน โตโก 17,000 ตัน และอิตาลี 16,100 ตัน ตามลำดับ อย่างไรก็ดี สถิติของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ระบุว่าการส่งออกข้าวและข้าวหักของเมียนมาพุ่งสูงถึง 2.48 ล้านตันในปีงบประมาณ 2024-2025 ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าประมาณ 1.129 พันล้านดอลลาร์ จากเป้าหมายของสหพันธ์ที่จะส่งออกข้าวให้ได้ 2.5 ล้านตันในปีงบประมาณ 2024-2025 นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์กำลังทำงานร่วมกับสหพันธ์ต่างๆ หอการค้าและอุตสาหกรรมเมียนมา เพื่อบรรลุเป้าหมายการส่งออกรายเดือนและอำนวยความสะดวกในการส่งออก

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/indonesia-tops-myanmars-rice-import-chart-for-fy2024-25/#article-title

‘ภาษีทรัมป์’ ฉุดผู้ส่งออกเฟอร์นิเจอร์เวียดนาม แข่งขันกับเวลา 90 วัน

พอล หยาง รองประธานของโรงงานที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ของเวียดนามให้กับบริษัทชั้นนำ เช่น Williams-Sonoma และ Crate & Barrel Holdings ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าชาวอเมริกันให้ทำการจัดส่งเร็วขึ้นในช่วงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ก่อนที่ได้รับความเสี่ยงจากการจัดเก็บภาษีสินค้าเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะพุ่งสูงเกินควร สิ่งเหล่านี้เป็นโอกาสสุดท้ายในการสร้างรายได้จากฐานลูกค้าที่มีมูลค่าต่อเศรษฐกิจเวียดนาม 400 พันล้านดอง หรือประมาณ 525 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเวียดนามไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ก่อนที่สหรัฐฯ จะระงับเก็บภาษีสิ้นสุดลง

ที่มา : https://www.straitstimes.com/business/economy/us-china-trade-war-threatens-to-crush-vietnams-manufacturing-economy

กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่ม GFT เกือบ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2024

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชารายงานว่าในปี 2024 กัมพูชาสามารถส่งออกเสื้อผ้า สิ่งทอ รองเท้า และอุปกรณ์เดินทาง มูลค่ารวม 1.39 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากปีก่อน โดยแบ่งเป็นการส่งออกเสื้อผ้ามูลค่า 9.79 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 สินค้ากลุ่มสิ่งทอมูลค่า 499 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 สินค้ากลุ่มรองเท้ามูลค่า 1.68 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 และอุปกรณ์เพื่อการเดินทางมูลค่า 1.95 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.6 ด้าน Hoe EeKhor หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ AMRO ระบุว่า อุตสาหกรรมเสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์เดินทางยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจกัมพูชา โดยการเติบโตในปี 2024 มาจากความต้องการสินค้าบริโภคที่เพิ่มขึ้นในตลาดหลักของประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานผลิตสินค้ากลุ่มดังกล่าวรวมประมาณ 1,538 แห่ง และก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 913,000 คน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501627508/cambodias-exports-of-garments-textiles-shoes-travel-goods-hit-nearly-14-bln-in-2024/

‘เวียดนาม’ ส่งออกข้าวไปยังสิงคโปร์ พุ่ง 25.45%

เวียดนามยังคงเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ในตลาดสิงคโปร์ ด้วยมูลค่าการส่งออก 128.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 28.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 และคิดเป็นสัดส่วน 28.25% ของตลาดข้าวสิงคโปร์ ทั้งนี้ อินเดียและไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุด ทำรายได้จากการส่งออกราว 148.19 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (32.48%) และ 137.75 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (30.19%) ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาผู้ส่งออกรายใหญ่ 3 ราย รวมกัน คิดเป็นสัดส่วน 90.93% ของตลาดข้าวในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ จากการประเมินชนิดของข้าวเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าข้าวเวียดนามหลายชนิดมีการเติบโตอย่างโดดเด่น ได้แก่ ข้าวเหนียว (14.25 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.6 เท่า) ข้าวหัก (2.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 113.63%) และข้าวกล้อง (44.89 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 65.73%) อย่างไรก็ดี ข้าวขาว เป็นกลุ่มข้าวหลักของเวียดนามในตลาดสิงคโปร์ แต่มีการเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 0.24% คิดเป็นมูลค่า 64.67 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnams-rice-exports-to-singapore-post-strong-growth-post143582.html

‘เวียดนาม’ ส่งออกข้าวครึ่งปีแรก 67 ทะลุ 2.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกข้าวในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 4.68 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) และมูลค่า 2.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 32%YoY ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวของเวียดนามในชวงครึ่งปีแรก พบว่าพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าว 3.48 ล้านเฮกตาร์ เพิ่มขึ้น 0.5%YoY และผลผลิตข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 6.7 ตันต่อเฮกตาร์ เพิ่มขึ้น 0.7 ตันต่อเฮกตาร์ ส่งผลให้ผลผลิตรวมอยู่ที่ 23.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.6%YoY ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ 670 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศกัมพูชาและอินเดีย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-earns-298-billion-usd-from-rice-exports-in-h1-post289412.vnp

‘สหรัฐฯ’ ยืนยันสถานะทางเศรษฐกิจเวียดนาม หนุนโอกาสส่งออก

ในช่วงต้นเดือน พ.ค.67 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จัดการประชุมการยอมรับทางเศรษฐกิจแบบตลาดของเวียดนาม พบว่าเวียดนามแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะบรรุหลักเกณฑ์ 6 ข้อที่ไว้ในการเป็นเศรษฐกิจแบบตลาดของประเทศ รวมถึงดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่สหรัฐฯ กำหนดไว้ และอื่นๆ ซึ่งจากการปะเมินของนักวิเคราะห์ ได้เห็นถึงศักยภาพของเวียดนามที่เปิดรับหลักเกณฑ์ต่างๆ ของสหรัฐฯ ได้ดีและเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศมากกว่าอินโดนีเซีย แคนาดาและฟิลิปปินส์

ในขณะเดียวกัน นาง Nguyen Thi Thu Trang ผู้อำนวยการศูนย์ WTO และหอการค้าและการอุตสาหกรรมของเวียดนาม (VCCI) กล่าวว่าการที่เวียดนามคว้าโอกาสจากการยอมรับสถานะทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ ถือว่าเป็นโอกาสครั้งสำคัญของผู้ประกอบการเวียดนาม โดยเฉพาะธุรกิจการผลิตและการส่งออก เนื่องจากได้รับการลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ ผู้ประกอบการสหรัฐฯ ก็สามารถกระจายห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจได้มากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/early-us-recognition-of-market-economy-to-increase-opportunities-for-vietnamese-exports-post288493.vnp

กัมพูชาส่งออกสินค้ากลุ่ม GFT โต 20% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาเปิดเผยรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 มิ.ย.) ว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2024 กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าเพื่อการเดินทาง (GFTs) มูลค่ารวมกว่า 4.969 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับมูลค่า 4,129 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับการส่งออกสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าและสิ่งทอมีมูลค่าการส่งออกรวม 3.628 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จาก 2.960 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกสินค้ากลุ่ม รองเท้า มีมูลค่าการส่งออกรวม 615 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และ สินค้าเพื่อการเดินทางมูลค่าการส่งออกรวม 726 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.8 ด้านธนาคารโลก (WTO) ได้ระบุเสริมว่าภาคอุตสาหกรรม GFT ของกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ 5.8 ในปีนี้ ซึ่งตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของภาคส่วนดังกล่าวต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501503300/cambodia-sees-20-pct-rise-in-export-of-garments-footwear-and-travel-goods-in-first-five-months/