เศรษฐกิจเวียดนามไตรมาสที่ 1/2568 โตชะลอที่ 6.93%YoY คาด Reciprocal Tariffs กระทบเชิงลบต่อ GDP 1.5% แต่มีปัจจัยบวกหากการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ สำเร็จ

เศรษฐกิจเวียดนามไตรมาส 1/2568 เติบโตอยู่ที่ระดับ 6.93%YoY ชะลอจากไตรมาสที่ 4/2567 ที่ 7.55%YoY เนื่องจากการนำเข้าที่เร่งตัวขึ้นถึง 16.9%YoY ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนำเข้าเครื่องจักรที่เพิ่มขึ้น หลังพายุไต้ฝุ่นยางิสร้างความเสียหายให้กับฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรม

เวียดนามเป็นประเทศที่ถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ในอัตรา 46% และเสี่ยงส่งผลกระทบเชิงลบต่อ GDP สูงถึง 1.5%จากการที่เศรษฐกิจเวียดนามพึ่งพาการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดสหรัฐฯ ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศอาเซียนอื่น ๆ

ในเบื้องต้น Reciprocal Tariffs คาดส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตชะลอลงมาที่ 5.3% แต่ยังมีปัจจัยบวกหากการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ประสบผลสำเร็จ

อ่านต่อ : https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/economy/Pages/Vietnam-GDP-EBR4144-KR-08-04-2025.aspx

‘ภาษีสหรัฐฯ’ กระทบส่งออกหนัก กดดันเศรษฐกิจเวียดนาม

บรรดานักเศรษฐศาสตร์และผู้นำทางธุรกิจ แสดงความกังวลกับการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นอัตราภาษีในอัตรา 46% กับสินค้าเวียดนาม เริ่มมีผลวันที่ 9 เมษายน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาคการส่งออกและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ไมเคิล โคคาลารี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของวินาแคปปิตอล (VinaCapital) กล่าวว่าการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรในครั้งนี้ ‘เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง’ และจากการวิเคราะห์ แสดงให้เห็นว่าการขึ้นภาษีดังกล่าว ทำให้การบรรลุเป้าหมาย GDP ของเวียดนาม ขยายตัว 8% ในปีนี้ เป็นเรื่องที่ยาก

ในขณะที่นายฝ่าม ซาน ห่ง (Pham Xuan Hong) ประธานสมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในเมืองโฮจิมินห์ กล่าวว่าตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 40% ของการส่งออกทั้งหมดของอุตสาหกรรมนี้ โดยสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในปัจจุบัน เสียอัตราภาษี 16% หากมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 46% ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแข่งขันได้ ดังนั้น ทางสมาคมฯ หวังว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งและความพยายามในการเจรจาของรัฐบาลเวียดนาม จะช่วยลดอัตราภาษีที่เสนอขึ้นได้ ในระหว่างนี้ ธุรกิจต่างๆ จะใช้กลยุทธ์การการกระจายตลาด เพื่อลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1695360/us-tariffs-threaten-viet-nam-s-exports-economic-growth.html

‘เวียดนาม’ เผย CPI ไตรมาสแรกปี 68 พุ่ง 3.22% ยังคุมเงินเฟ้อได้

นางเหงียน ทิ ห่ง (Nguyen Thi Huong) สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม กล่าวว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเวียดนามในไตรมาสแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 3.22% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 3.01% และได้อธิบายไว้ว่าในไตรมาสแรก สถานการณ์มีความผันผวนอย่างมากในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก เนื่องจากปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อความตึงเครียดทางการค้าและกระทบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก รวมถึงอุปสงค์โลกและการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

นอกจากนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการมาตรการต่างๆ และสร้างเสถียรภาพให้กับห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงลดดอกเบี้ยเงินกู้ เร่งการลงทุนภาครัฐฯ และปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมกับทำให้แน่ใจว่าภาครัฐฯ ยังสามารถรักษาความมีเสถียรภาพของตลาดและควบคุมเงินเฟ้อได้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/cpi-rises-322-inflation-remains-under-control-in-q1-post312955.vnp

‘PMI’ ภาคการผลิตเวียดนาม ขยายตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนามในเดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 50.5 จากระดับ 49.2 ในเดือนกุมภาพันธ์ แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นเล็กน้อย และดัชนีฯ อยู่ในระดับสูงกว่า 50.0 เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนในเดือนมีนาคม รวมถึงเพิ่มขึ้นในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทั้งนี้ นาย Andrew Harker ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ S&P Global Market Intelligence กล่าวว่า ภาคการผลิตของเวียดนาม เริ่มฟื้นตัวในเดือนมีนาคม โดยเห็นจากผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2568 และหวังว่าบริษัทต่างๆ จะสามารถฟื้นตัวดีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน ผู้ผลิตยังคงระมัดระวัง ส่งผลให้ลังเลที่จะจ้างพนักงาน หรือซื้อปัจจัยการผลิตมากขึ้น ซึ่งอาจสะท้อนถึงความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลก

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1695094/output-rises-for-first-time-in-three-months-pmi.html

ธุรกิจเวียดนามในเมียนมา รับศึกหนัก! หลังรับแรงกระแทกจากแผ่นดินไหว

สำนักงานการค้าเวียดนามในเมียนมา รายงานว่าแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงขนาด 7.7 ริกเตอร์ ในเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม กิจการและบริษัทต่างๆ ของเวียดนาม ทั้งหมดปลอดภัย แต่กิจกรรมการค้ายังคงเผชิญกับอุปสรรคหลากประการ ทั้งนี้ คุณเหงียน เซือง เกียน (Nguyen Duong Kien) ที่ปรึกษาด้านการค้าของสำนักงานการค้าเวียดนามในเมียนมา กล่าวว่าความเสียหายทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กำแพงถล่ม และไฟฟ้าดับ ส่งผลต่อระบบโทรคมนาคม ซึ่งสร้างอุปสรรคต่อการค้าระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ เศรษฐกิจเมียนมา มีความเปราะบางจากความขัดแย้งภายในประเทศ รวมถึงปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า ทำให้ธุรกิจต่างๆ จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องผลิตไฟฟ้าที่มีราคาแพง ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-companies-in-myanmar-face-more-challenges-after-earthquake-post312531.vnp

‘เวียดนาม’ ทำสถิติส่งออกปลาทูน่าเป็นประวัติการณ์

สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารทะเลเวียดนาม (VASEP) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมปลาทูน่าของเวียดนาม ประสบความสำเร็จในการส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ยังคงเผชิญกับกฎระเบียบการค้าที่เข็มงวดจากตลาดสำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ในขณะที่กรมศุลกากรเวียดนาม รายงานว่าการส่งออกปลาทูน่าในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ราว 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับปีก่อน และทำสถิติยอดการส่งออกสูงสุดในรอบ 5 ปี

อย่างไรก็ดี ในเรื่องกฎระเบียบ การทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลของเวียดนาม ดังนั้น อุตสาหกรรมปลาทูน่าจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากภาครัฐและผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อปรับปรุงกรอบกฎหมาย เสริมสร้างกลไกการตรวจสอบ และให้ความช่วยเหลือแก่ชาวประมงในการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล

ที่มา : https://borneobulletin.com.bn/vietnam-tuna-exports-hit-record-sales/

‘Highlands Coffee’ เครือข่ายร้านกาแฟรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม กำไรโต 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Highlands Coffee เครือข่ายร้านกาแฟรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เปิดเผยว่าในปี 2567 กิจการมีอัตรากำไรสุทธิ EBITDA อยู่ที่ 1.05 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยกำไรจาก EBITDA ของ Highlands Coffee คิดเป็น 36% ของกำไรของบริษัท Jollibee Foods Corporation (JFC) ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังที่สุดของประเทศฟิลิปปินส์

ที่มา : https://www.retailnews.asia/vietnams-largest-coffee-chain-highlands-coffee-posts-41m-in-profit/