ชาวสวนพริก เฮ! ราคาพุ่ง สร้างผลกำไรงาม

ชาวสวนพริกจากอำเภอปยอ-บแว จังหวัดยะแม่ที่น เขตมัณฑะเลย์ ได้เฮหลังราคาพริกพุ่งสูงขึ้นในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว นาย U Khin Maung Tint ชาวสวนพริกจากหมู่บ้าน Khin Gyi Ya ให้ข้อมูลว่าได้ปลูกพริกบนพื้นที่สองเอเคอร์ โดยใช้เวลาสามเดือน ก็เริ่มเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้สัปดาห์ละครั้งและแต่ละครั้งได้ผลผลิตพริกแห้งได้ประมาณ 100 เม็ด ซึ่งหากดูแลให้ดีผลผลิตอาจเพิ่มได้อีกห้าหรือหกเท่า ในช่วงต้นฤดูพริกของปีนี้ ราคาพริกในตลาดปยอ-บแว อยู่ที่ 2,800 จัตต่อ viss (1 viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ในขณะที่พริกแห้งขายในราคา 3,300 จัตต่อ viss ชาวสวนพริกส่วนใหญ่ตากพริกด้วยแสงแดด มีเพียงไม่รายที่ใช้เตาอบพริกแห้ง ทั้งนี้เมียนมายังส่งออกพริกสดไปยังจีนและไทย และส่วนใหญ่ส่งออกพริกสดไปยังไทยผ่านชายแดนเมียวดี

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/chilli-growers-earn-high-profits-as-chilli-prices-soar/#article-title

ปีงบฯ 63-64 การค้าระหว่างประเทศของเมียนมา ลดฮวบ 7.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา การค้าระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.63 ถึง 30 ก.ย.64 ในปีงบประมาณ 2563-2564 อยู่ที่ 29.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงกว่า 7.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 36.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบันเมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ในขณะที่นำเข้าสินค้าทุน วัตถุดิบอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค การส่งออกของประเทศพึ่งพาภาคการเกษตรและการผลิตมากขึ้น กระทรวงพาณิชย์เมียนมาจึงพยายามลดการขาดดุลการค้า ส่งเสริมการส่งออก และเน้นกระจายตลาดให้มากขึ้น

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/external-trade-down-7-15-bln-this-fy/#article-title

ครม.คุมเข้มนำเข้ารถผิดกฎหมาย

รัฐบาลได้มีคำสั่งให้ดำเนินการกับบุคคลและธุรกิจที่นำเข้ายานพาหนะอย่างผิดกฎหมายและเพื่อป้องกันการใช้ยานพาหนะทุกประเภทอย่างไม่เหมาะสมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่ามีการชำระภาษีศุลกากรและภาษีอื่น ๆ อย่างถูกต้อง คำสั่งดังกล่าวมีคำสั่งให้กระทรวง องค์กรเทียบเท่ากระทรวง และหน่วยงานท้องถิ่นทุกระดับป้องกันและแก้ไขปัญหาการนำเข้าและใช้งานยานพาหนะอย่างผิดกฎหมาย ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเข้า ใช้ แลกเปลี่ยน และขายยานพาหนะให้เป็นไปตามกฎหมาย และยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการบรรลุวาระแห่งชาติในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_
Govt202.php

ทางการกัมพูชารายงานถึงการลดลงของโครงการการลงทุนในช่วง Q3

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ รวม 134 โครงการ ลดลงร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติมีมูลค่ารวม 3.3 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจากโครงการทั้งหมดมี 101 โครงการ ตั้งอยู่นอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ และ อีก 33 โครงการตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยโครงการลงทุนทั้งหมด 111 โครงการ ลงทุนในภาคอุตสาหกรรม และ อีก 12 โครงการ ลงทุนไปยังอุตสาหกรรมเกษตร เป็นสำคัญ ซึ่งคาดว่าโครงการลงทุนจะช่วยสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นจำนวน 85,572 ตำแหน่ง โดยปีที่แล้ว CDC อนุมัติโครงการลงทุนรวม 238 โครงการ มูลค่ารวม 8.2 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50951600/investment-projects-declined-in-first-three-quarters-this-year/

รมว.ท่องเที่ยวกัมพูชา หารือผู้เชี่ยวชาญกำหนดยุทธศาสตร์เปิดการท่องเที่ยว

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาหารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญภาคการท่องเที่ยว กำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการเปิดประเทศใหม่ ภายใต้ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และแผนการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว ก่อนการเปิดพรมแดนตามแผนที่กำหนดไว้ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ โดยการประชุมมุ่งเน้นไปที่การร่างหนังสือ 2 ฉบับ ได้แก่ 1.แผนยุทธศาสตร์การเปิดการท่องเที่ยวใหม่อย่างปลอดภัย (วัคซีนทัวร์) และ 2.มาตรการส่งเสริมการเคลื่อนไหวการท่องเที่ยวภายในปี 2021-2023 ซึ่งเมื่อกัมพูชามีแผนเตรียมเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้วางแผนอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง โดยกัมพูชาสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปได้รับวัคซีนเข็มที่สาม เพื่อเป็นการต่อสู้กับสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งมีต้นต่อมากคนต่างชาติ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50951949/ministry-of-tourism-discusses-strategy-on-safe-reopening-of-tourism-sector/

‘ธนาคารโลก’ หั่น GDP เวียดนามปีนี้ 2-2.5%

ธนาคารโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP เวียดนามในปีนี้ลงเหลือ 2-2.5% เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 หดตัวลงอย่างมากและคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 สำหรับสภาวะตลาดแรงงานแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบจากการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อ ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เริ่มลดลง ทำให้เมืองฮานอยและหลายๆจังหวัดได้ผ่อนคลายข้อจำกัดที่เข็มงวด ทั้งนี้ เงินเฟ้อยังคงอ่อนตัว ท่ามกลางอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ ขณะที่เงินดองเวียดนามแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย การเติบโตของสินเชื่อชะลอตัว เนื่องจากความต้องการสินเชื่อลดลง ซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นอกจากนี้ ธนาคารโลกแนะนำให้รัฐบาลเวียดนามระดมตรวจเชื้อและเร่งฉีดวัตซีนในวงกว้าง ตลอดจนควรใช้นโยบายการคลังเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/wb-lowers-vietnams-gdp-growth-forecast-to-225-percent-this-year/209673.vnp

ราคาข้าวเวียดนามพุ่งแซงไทย

สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) เปิดเผยว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามพุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ แซงหน้าราคาข้าวไทย อินเดียและปากีสถาน โดยในช่วงกลางเดือน ส.ค. ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามลดลงเหลือ 385 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลง 100 เหรียญสหรัฐต่อตันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2563 ในขณะที่ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามอยู่ที่ 8 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าข้าวหัก 5% ของไทย แต่ยังสูงกว่าข้าวของอินเดียและปากีสถานอยู่ที่ 25 เหรียญสหรัฐ และ 40 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามในปัจจุบัน อยู่ที่ 433-437 เหรียญสหรัฐต่อตัน ถือว่าสูงกว่าของไทย อินเดียและปากีสถานอยู่ที่ 49, 68 และ 55 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-rice-price-surges-surpasses-that-of-thailand/

ปีงบฯ 63 –64 เมียนมาส่งออกสัตว์น้ำลดฮวบ 8.6%

กระทรวงพาณิชย์ .เผย มูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำของเมียนมาร์ในปีงบประมาณ 2563-2564 (ต.ค.-63-ก.ย.64) ลดลง 784.889 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 8.6 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อน ต่ำกว่าถึง 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกมูลค่า 858.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปีงบประมาณ 2562-2563 สหพันธ์ประมงแห่งเมียนมา (MFF) พยายามขยายการส่งออก แม้มีการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบในการส่งออกทางทะเล การปิดพรมแดน และความไม่แน่นอนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ด้าน Mawlamyine Commodity Center ระบุ ราคาปลาลดลง แต่ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น เช่น อวนจับปลา ราคาน้ำมัน ควบคู่ไปกับค่าเงินจัตที่อ่อนค่าของตลาดฟอเร็กซ์ MFF จึงหันไปมองตลาดบังคลาเทศและร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้การส่งออกเติบโตอย่างยั่งยืน ณ ปัจจุบันการส่งออกประมงผ่านพรมแดนจีน-เมียนมาต้องหยุดชะงักหลังผลกระทบของโควิด-19  ซึ่งตลาดจีนคิดเป็นร้อยละ 65 ของการส่งออกสินค้าประมงทั้งหมดของเมียนมา :ซึ่ง MFF ระบุว่ามีเพียงข้อตกลงแบบ G2G เท่านั้นที่สามารถจัดการกับปัญหาการส่งออกสินค้าประมงได้ ทั้งนี้เมียนมาส่งออกผลิตภัณฑ์ประมง เช่น ปลา กุ้ง และปู ไปยังตลาดใน 40 ประเทศ ได้แก่ จีน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไทย และประเทศในสหภาพยุโรป

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-aquaculture-exports-down-by-8-6-in-2020-2021fy/