เวียดนามส่งสัญญาสภาพธุรกิจปรับตัวดีขึ้น ช่วงต้นปี 64

ตามผลการสำรวจของ Nikkei และ IHS Markit เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในภาคการผลิต (PMI) ของเวียดนามเดือน ม.ค. อยู่ที่ 51.3 ลดลงจาก 51.7 ในเดือน ธ.ค. ชี้ให้เห็นถึงสภาพการดำเนินธุรกิจปรับตัวดีขึ้นในช่วงต้นปี 2564 “ภาคการผลิตของเวียดนามพยายามดิ้นรนเพื่อรักษาโมเมนตัมในช่วงต้นปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และภาวะหยุดชะงักด้านซัพพลายเชน” ทั้งนี้ ในเดือน ม.ค. ภาพรวมของอุตสาหกรรมการผลิตอยู่ในระดับไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่ ยอดคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นในบางธุรกิจ แต่ว่าธุรกิจอื่นยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้การผลิตลดลง อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตอุตฯ ยังคงรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร โดยบางบริษัทก็จ้างแรงงานเพิ่มขึ้น จากการที่ยอดคำสั่งซื้อใหม่สูงขึ้น

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-signals-soft-improvement-in-business-condition-at-start-of-2021-316119.html

Prudential ร่วมกับ PCCBank พัฒนาภาคประกันฯ ในกัมพูชา

พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (กัมพูชา) และ PPCBank ได้ประกาศถึงความร่วมมือระหว่างกัน ภายใต้ชื่อ Bancassurance เพื่อตอบสนองต่อความต้องการความคุ้มครองของชาวกัมพูชา โดยความร่วมมือซึ่งได้รับการอนุมัติจากทั้งธนาคารแห่งชาติกัมพูชาและกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน จะขยายการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้กับชาวกัมพูชามากขึ้นเพื่อช่วยปกป้องและรักษาความปลอดภัยในอนาคตของคนภายในประเทศ ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ดีที่สุดของ พรูเด็นเชียล (กัมพูชา) ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านเครือข่ายและสาขาของ PPCBank ในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้สนใจทำประกันฯ ซึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจในประเทศกัมพูชาในช่วงปี 2013 พรูเด็นเชียล (กัมพูชา) ได้อนุมัติกรมธรรม์มูลค่ารวมกว่า 11.1 ล้านดอลลาร์ และได้ออกกรมธรรม์มากกว่า 250,000 ฉบับ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2020 ภายในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50809583/prudential-and-ppcbank-insurance-partnership/

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากความสามารถในการผลิตน้ำมันของกัมพูชา

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่ารายได้จากการขุดเจาะน้ำมันจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในระยะสั้น น้อยกว่าภาคธุรกิจดั้งเดิมอื่น ๆ จากคำกล่าวของนายกฮุนเซน ซึ่งหลุมขุดเจาะแรกได้ดำเนินการมาแล้ว 33 วัน และสกัดน้ำมันได้ที่ 1,236 บาร์เรลต่อวัน รวม 40,788 บาร์เรล ตั้งแต่ได้มีการขุดเจาะ โดยหากน้ำมันหนึ่งถังมีราคาอยู่ที่ 50 ดอลลาร์ ในหนึ่งปีสำหรับการขุดเจาะและทำการสกัดน้ำมันจะสร้างรายได้ให้กับประเทศได้เพียง 30 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งน้อยกว่ารายได้จากวีซ่าการท่องเที่ยวที่ออกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เคยได้รับในช่วงปกติเสียด้วยซ้ำ โดยนายกฮุนเซนคาดว่ากัมพูชาจะสามารถผลิตน้ำมันได้มากกว่า 7,000 ถึง 7,500 บาร์เรลต่อวันเมื่อมีการขุดเจาะบ่อน้ำมันทั้งหมดที่กำลังจะเริ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้กว่า 4 แห่ง ซึ่งทางการกัมพูชาได้ร่วมกับบริษัท KrisEnergy Ltd. ของสิงคโปร์ ในการดำเนินการโครงการนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50809405/oil-revenue-no-short-term-fix-to-economic-growth-pm/

โรงงาน Suzuki ในย่างกุ้ง ยังเดินสายการผลิตตามปกติ

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ Suzuki ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Thilawa ยังเปิดดำเนินการตามปกติแม้จะมีข่าวลือแพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดียในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 64 ว่าจะปิดตัวลงท่ามกลางความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ แต่ตัวแทนจากคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษ Thilawa (SEZ) ได้ออกมาสยบข่าวลือดังกล่าว กระนั้นการผลิตได้หยุดชะงักในช่วงสั้น ๆ เนื่องจากขาดการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแต่ได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ยังยืนยันด้วยว่า บริษัท โตโยต้า กำลังจะมีพิธีเปิดดำเนินการในเดือนนี้ คณะกรรมการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่านักลงทุนใน Thilawa SEZ ไม่มีแผนที่ถอนการลงทุนอย่างแน่นอน โดยบริษัท ซูซูกิ ได้ลงทุนราว 800 – 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเมียนมาและคาดว่าการผลิตแบบ CKD (Completely Knocked-Down) จะเริ่มขึ้นเมื่อโรงงานแห่งใหม่เสร็จสมบูรณ์ในปี 66

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/business-usual-suzuki-facility-yangon.html

การเมืองเมียนมายังน่าห่วง ผู้ค้าข้าวใน Bayintnaung หยุดการซื้อขายชั่วคราว

ผู้ค้าส่งข้าวศูนย์ค้าระงับการซื้อขายส่งพร้อมทั้งจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองของเมียนมาอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร นาย U Than Oo เลขานุการของ Bayintnaung Wholesales Center กล่าวว่าการสื่อสารรวมถึงรถบรรทุกถูกตัดขาดจึงต้องหยุดการค้าขายไว้ก่อน ส่วนที่ถูกส่งขายไปแล้วจำเป็นต้องลดราคา 500 จัตต่อถุงเพื่อระบายสินค้า ขณะนี้ผู้ค้ากำลังเฝ้าสังเกตสถานการณ์และรอคำชึ้แจงเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 64 พบว่ายอดขายสินค้าของซูเปอร์มาร์เก็ตรวมไปถึงตลาดในย่างกุ้งเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้คนกักตุนอาหารและสิ่งจำเป็นในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนนี้

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/bayintnaung-rice-wholesalers-halts-trade-observe-situation.html

ถ้ำจอมอ๋องที่ยาวที่สุดเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ มีพิธีเปิดตัวถ้ำจอมอ๋องในแขวงอุดมไซอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของแขวงอุดมไซ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นถ้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยหวังว่าถ้ำจอมอ๋องจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชมได้จำนวนมาก ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเยือนสปป.ลาวไม่ได้ ทำให้รัฐบาลต้องพยายามกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อเข้ามาทดแทนชาวต่างชาติที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ  ซึ่งถ้ำจอมอ๋องจะเป็นสถานที่สำคัญด้านการท่องเที่ยวที่หนึ่งที่จะทำให้การท่องเที่ยวของสปป.ลาวกระเตื้องขึ้น รัฐบาลได้ตระหนักถึงศักยภาพของแขวงอุดมไซในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวและพิจารณาว่าการพัฒนาทรัพยากรเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและระบบคมนาคมเพื่อสนับสนุนความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยวและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Longest_22.php

นักลงทุนมองข้อตกลงการค้าเสรี คือส่วนสำคัญด้านการค้าของกัมพูชา

นักลงทุนต่างชาติและผู้ประเมินเครดิตอิสระต่างสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในกัมพูชาจากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ทั้งที่เสร็จสมบูรณ์และกำลังดำเนินการโดยรัฐบาลของกัมพูชา ตามการบรรยายของ ASEAN Briefing (AB) โดยกล่าวว่า FTAs อาจทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2030 ซึ่งประกอบไปด้วยตลาดผู้บริโภคที่มีมูลค่าประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ขับเคลื่อนโดยแนวโน้มด้านประชากรที่แข็งแกร่ง เช่น ร้อยละ 65 ของประชากรอาเซียนจำนวน 600 ล้านคน อยู่ในสถานะชนชั้นกลาง สะท้อนถึงกำลังซื้อของประชากร รวมถึงการเพิ่มการลงทุนจากต่างประเทศในภูมิภาค ระดับรายได้ที่เพิ่มขึ้น และความก้าวหน้าทางดิจิทัล อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา กล่าวว่าข้อตกลงพหุภาคีและทวิภาคีจะมีความสำคัญต่อกัมพูชาในอนาคตอันใกล้ ในด้านของการค้าระหว่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50809206/regional-free-trade-deals-key-to-cambodian-and-asean-success/

สถานการณ์สินเชื่อส่วนบุคคลในกัมพูชาเริ่มดีขึ้น

สถานการณ์ด้านเครดิตของสินเชื่อส่วนบุคคลภายในประเทศมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ตามรายงานของ Credit Bureau Cambodia (CBC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลเครดิตโซลูชัน การวิเคราะห์และบริการรายงานเครดิตแก่ธนาคาร สถาบันการเงินรายย่อย บริษัทให้กู้ยืม ผู้ให้บริการสินเชื่อ และผู้บริโภคในกัมพูชา ตามรายงานจำนวนการขอสินเชื่อเพื่อการบริโภคเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ (สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต และสินเชื่อที่อยู่อาศัย) ในทุกภูมิภาคในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 โดยจำนวนการชำระคืนล่าช้าภายใต้กำหนด 30 วัน (30+ DPD) ลดลงทั่วประเทศกว่าร้อยละ 1.91 ทุกภูมิภาคในกัมพูชา ทั้งรายงานระบุว่าการขอสินเชื่อผู้บริโภคโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 การเพิ่มขึ้นที่สำคัญที่สุดคือการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 33 จากไตรมาสก่อนหน้า (ไตรมาสที่ 3/2020) ซึ่ง ณ เดือนธันวาคม 2020 จำนวนบัญชีสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.63 จากไตรมาสที่ 3/2020 โดยจำนวนบัญชีเงินกู้ทั้งหมดในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1.28 ล้านบัญชี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50809008/consumer-credit-performance-improving/