กัมพูชาส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น 25% สำหรับในช่วงเดือน ม.ค. 2024

สหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) รายงานการส่งออกข้าวของกัมพูชาในช่วงเดือน ม.ค. 2024 ที่ปริมาณข้าวสารรวม 46,221 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรวม 32.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ในแง่ของมูลค่าการส่งออก โดยส่งออกไปยัง 42 ประเทศทั่วโลก ซึ่งสหภาพยุโรปเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดในช่วงเดือน ม.ค. ด้วยปริมาณ 25,005 ตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 54 ของการส่งออกข้าวสารทั้งหมด ตามมาด้วยประเทศในกลุ่มอาเซียนปริมาณรวม 11,999 ตัน ขณะที่การนำเข้าของจีนรวมอยู่ที่ 5,171 ตัน โดยข้าวที่ได้รับความนิยมในตลาดสากลของกัมพูชา ได้แก่ ข้าวหอม ข้าวอินทรีย์ ข้าวขาว ข้าวนึ่ง และข้าวจาโปนิกา ด้านนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต ได้เสนอกลยุทธ์ในการผลักดันอุตสาหกรรมการเกษตร ด้วยการปรับปรุงตลาด การขยายตลาดใหม่ ผ่านข้อตกลงการค้าเสรี และการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคอยติดตามระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำและระบบชลประทานอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าเกษตรกรจะทำเกษตรกรรมได้ต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501438196/rice-exports-up-25-percent-in-january/

EXIM Bank ร่วม CCC ผลักดันการค้าการลงทุนระหว่าง ไทย-กัมพูชา

ความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและกัมพูชา คาดว่าจะได้รับการส่งเสริมอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง EXIM BANK และหอการค้ากัมพูชา (CCC) เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย ร่วมกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของบันทึกความเข้าใจคือการอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการปรึกษาหารือระหว่าง EXIM BANK และ CCC ในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ ที่มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยไทยถือเป็นคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา ควบคู่ไปกับจีน สหรัฐฯ และเวียดนาม สำหรับในปี 2022 โดยปริมาณการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา ทะลุ 8 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นการส่งออกของไทยไปยังกัมพูชามูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่การนำเข้าจากกัมพูชามีมูลค่ารวม 1.6 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501437767/partnership-between-exim-thailand-and-ccc-to-drive-thai-cambodian-trade-and-investment/

2023 มูลค่าการค้ารวมระหว่าง กัมพูชา-RCEP เกือบแตะ 3 หมื่นล้านดอลลาร์

การค้าระหว่างกัมพูชาและอีก 14 ประเทศ ในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาไปยังกลุ่มประเทศดังกล่าวที่มูลค่ารวม 8.172 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 28  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 2.129 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงกว่าร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ของประเทศ โดยหลังจากการลงนามในข้อตกลงดังกล่าวส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของกัมพูชาไปยังกลุ่มสมาชิค RCEP เพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น อินโดนีเซียจากการเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 12 ของกัมพูชาในช่วงก่อนหน้านี้ ปรับมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 6 ของปีที่แล้ว โดยมีปริมาณการค้าทวิภาคีเกือบ 1.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายปีก่อนเกือบร้อยละ 15 คิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 92.74 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 151.7

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501437300/cambodia-rcep-members-trade-hits-nearly-30-bn-in-2023/

2023 วิสาหกิจกัมพูชากว่า 5 หมื่นแห่ง เข้าจดทะเบียนกับกระทรวงแรงงาน

ปี 2023 วิสาหกิจกัมพูชากว่า 49,075 แห่ง เข้าจดทะเบียนกับกระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพ สะท้อนถึงการจ้างงานภายในประเทศมากกว่า 1.7 ล้านตำแหน่งในระบบ กล่าวโดย Hun Manet นายกรัฐมนตรีกัมพูชาถึงตัวเลขดังกล่าวขณะเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมประจำปีของกระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมวิชาชีพ ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ โดยปัจจุบันวิสาหกิจในกัมพูชาจ่ายค่าจ้างรายปีรวมกว่า 5.18 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งในจำนวนนี้จะสูงขึ้นหากรวมรายได้จากแรงงานนอกระบบและการส่งเงินกลับของแรงงานกัมพูชาในต่างประเทศอีกประมาณกว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2023 โดยนายกรัฐมนตรียังได้ขอให้กระทรวงและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงสภาพการทำงานและเพิ่มการฝึกอบรมสายอาชีพสำหรับคนงานและลูกจ้าง พร้อมทั้งสนับสนุนให้ธุรกิจนอกระบบลงทะเบียนในระบบมากขึ้น เพื่อรับสิทธิพิเศษและความช่วยเหลือตามความเหมาะสม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501437274/registered-economic-enterprises-reach-nearly-50000-employing-some-1-7-million-people/

ADB พร้อมสนับสนุนการผลักดันโครงข่ายไฟฟ้าในระดับภูมิภาคของกัมพูชา

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) สนับสนุนการผลักดันของกัมพูชาในการจัดตั้งโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน (APG) ซึ่งมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ในการยกระดับความมั่นคงด้านพลังงานสีเขียวของภูมิภาค โดยหัวข้อนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาอภิปรายระหว่างทีมงานของ ADB นำโดยผู้อำนวยการบริหาร Rachel Thompson หลังเข้าพบ Keo Rattanak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกัมพูชา ซึ่งทางการคาดว่าโครงการ APG จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมพลังงานของกัมพูชา โดยจำเป็นต้องลดพลังงานที่ได้จากถ่านหินและเพิ่มแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้ามาทดแทน ขณะที่ความคิดริเริ่มของโครงการ APG ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญในแผนแม่บทความเชื่อมโยงของอาเซียน ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างกลไกการเชื่อมต่อโครงข่ายพลังงานในระดับภูมิภาค ภายใต้เงื่อนไขทวิภาคีข้ามพรมแดน จากนั้นจะค่อยๆ ขยายไปสู่ระดับอนุภูมิภาค นำมาสู่การรวมกลุ่มบูรณาการในระบบโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียนเป็นขั้นสุดท้าย ซึ่งการเชื่อมต่อโครงข่ายในระดับทวิภาคีหลายแห่งได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น การเชื่อมโยงโครงข่ายของสิงคโปร์กับมาเลเซีย และการเชื่อมโยงไทยกับมาเลเซีย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501436267/cambodias-regional-power-grid-bid-gets-adb-support/

CDC ยอมรับข้อเสนอ UK ในการจัดตั้ง Green SEZ

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) เห็นชอบต่อคำขอจากเอกอัครราชทูตอังกฤษให้จัดตั้ง “เขตเศรษฐกิจพิเศษสีเขียว (Green SEZ)” และพร้อมที่จะช่วยส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนยังกัมพูชา โดยคำร้องขอดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการเข้าเยี่ยมคารวะโดยคณะผู้แทนซึ่งนำโดย Dominic Williams เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกัมพูชา เข้าพบ Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานลำดับที่ 1 ของ CDC เพื่อปรับปรุงความยั่งยืนทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ภายใต้การรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ โดยเน้นไปที่การให้ลำดับความสำคัญ คือการปรับปรุงถนนแห่งชาติหมายเลข 5, การก่อสร้างทางด่วนพนมเปญ-บาเว, การตรวจสอบบนทางด่วนพนมเปญ-เสียมราฐ-ปอยเปต รวมถึงการปรับปรุงทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ (PPSV) และโครงการฟูนันเตโช ซึ่งจะเป็นโครงการประวัติศาสตร์ของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501436295/cdc-consents-to-uk-proposal-for-establishing-green-sez/

EXIM BANK ร่วมกับหอการค้ากัมพูชาส่งเสริมการค้าการลงทุน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และหอการค้ากัมพูชา (CCC) โดยมี ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และเนก โอคนา คิท เม้ง ประธานหอการค้ากัมพูชา เป็นผู้ลงนาม โดยทั้งสองหน่วยงานจะแลกเปลี่ยนข้อมูลและบริการด้านข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการพัฒนาอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ การค้าระหว่างกัมพูชาและไทยมีมูลค่าสูงกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยเป็นคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา นอกเหนือจากจีน สหรัฐฯ และเวียดนาม การส่งออกของไทยไปกัมพูชาในปี 2566 มีมูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้าของไทยจากกัมพูชามีมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่สำคัญของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs เป็นผลมาจากนโยบายเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนจากต่างประเทศ ธุรกิจของไทยที่ดำเนินการในกัมพูชาครอบคลุมหลายภาคส่วน

ที่มา : https://www.thebetter.co.th/news/business/13414

ADB ตกลงสนับสนุนผู้ประกอบการ MSMEs กัมพูชา

ธนาคารการค้าต่างประเทศแห่งกัมพูชา (FTB) เข้าร่วมโครงการการเงินการค้าและห่วงโซ่อุปทาน (TSCFP) ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อส่งเสริมทางด้านการเงิน การค้า สำหรับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก และขนาดกลาง (MSMEs) ในกัมพูชา โดยเป็นการลงนามระหว่าง Dith Sochal ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FTB และ JyotsanaVarma ผู้อำนวยการ ADB ประจำกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ ซึ่งคาดว่าจะเติมเต็มช่องว่างให้กับผู้ประกอบการ MSEMs ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านธนาคารพันธมิตร ด้าน MSMEs คิดเป็นกว่าประมาณร้อยละ 99 ขององค์กรทั้งหมดในกัมพูชา ขณะที่ TSCFP ได้ให้สินเชื่อและค้ำประกันแก่ธนาคารพันธมิตรมากกว่า 200 แห่งในหลายประเทศ เพื่อสนับสนุนการค้า ส่งเสริมการนำเข้าและส่งออก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501435837/cambodia-adb-agree-to-support-micro-small-and-medium-sized-enterprises/

2023 มูลค่าการส่งออก-นำเข้า ผ่าน SSEZ กัมพูชา แตะ 3.36 พันล้านดอลลาร์

ปริมาณการนำเข้าและส่งออกรวมของเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ) มีมูลค่า 3.36 พันล้านดอลลาร์ สำหรับในปี 2023 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 34.8 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยมูลค่าการค้าผ่าน SSEZ คิดเป็นประมาณกว่าร้อยละ 7.18 ของปริมาณการค้าทั้งหมดของกัมพูชา สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ SSEZ ถือเป็นโครงการเรือธงภายใต้โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งร่วมลงทุนโดยนักลงทุนจีนและกัมพูชา ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดพระสีหนุ โดยเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแง่ของขนาดและจำนวนผู้ประกอบการในเขต ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรและบริษัทเอกชนรวมกว่า 180 แห่ง จากทั้งทางฝั่งจีน ยุโรป สหรัฐฯ และจากภูมิภาคอื่นๆ สร้างการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่นเกือบ 30,000 ตำแหน่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501435871/ssezs-export-import-valued-at-3-36-billion-in-2023/

กัมพูชา-ไทย ตั้งเป้าการค้าระหว่างกันแตะ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในปี 2025

นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและไทย มีกำหนดการพบปะกันที่กรุงเทพฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับขั้นตอนในการส่งเสริมการค้าในระดับทวิภาคี รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน และการขจัดอุปสรรคระหว่างทั้งสองประเทศ โดยประเทศไทยถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของกัมพูชาเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มูลค่าการค้ารวม 3.71 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2023 ลดลงร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มูลค่า 4.47 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2022 ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชาไปยังไทย ได้แก่ สิ่งทอ สินค้าเกษตร อัญมณี วัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป ด้านสินค้านำเข้าจากไทย ได้แก่ ปลา เนื้อสัตว์ ผัก รถยนต์ ปุ๋ยอินทรีย์ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง เป็นสำคัญ สำหรับการเดินทางไปเมืองไทยของนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต จะเดินทางเยือนเมืองไทยในวันพุธนี้ (7 ก.พ.) ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งจะทำการเจรจาเกี่ยวกับความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีในประเด็นที่มีความสนใจร่วมกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501434816/cambodia-thailand-target-15-billion-trade-by-2025/