ปริมาณสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคในกัมพูชาเพิ่มขึ้นกว่า 5% ในไตรมาสก่อน

การขอสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคในกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 สำหรับในช่วงไตรมาส 4 ปี 2023 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า โดยปริมาณสินเชื่ออุปเพื่อโภคบริโภคทั้งหมดเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.51 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะมูลค่าสินเชื่อรวมกว่า 15.01 พันล้านดอลลาร์ สำหรับจำนวนบัญชีสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 1.76 ล้านบัญชี โดยร้อยละ 80.27 อยู่ในหมวดการเงินส่วนบุคคล รองลงมาร้อยละ 11.53 อยู่ในหมวดสินเชื่อจำนอง และร้อยละ 8.20 อยู่ในหมวดบัตรเครดิต ซึ่งการเพิ่มขึ้นของปริมาณบัญชีสินเชื่ออุปโภคบริโภคสูงสุดในช่วง 5 ไตรมาสที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับคุณภาพของสินเชื่อผู้บริโภคที่วัดด้วยอัตราส่วน 30+ DPD (เกินกำหนดชำระมากกว่า 30 วัน) เพื่อบ่งชี้ความน่าเชื่อถือทางเครดิตและความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ มีการเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.14 บ่งชี้ว่าคุณภาพสินเชื่อลดลงเล็กน้อย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501434280/consumer-loan-applications-go-up-by-5-in-q4-last-year/

IMF รายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชาโต 5.3% ในปี 2023

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในช่วงปี 2023 เติบโตกว่าร้อยละ 5.3 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการส่งออกที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่ม อย่างไรก็ตามความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่มาก โดยเฉพาะการเติบโตที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ซึ่งครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 40 ของการส่งออกของกัมพูชาอีกทั้งเศรษฐกิจจีนยังคงมีความเสี่ยงในหลายด้าน นอกจากนี้ ภาวะการเงินที่ตึงตัวของสหรัฐฯ และระดับหนี้ภาคเอกชนในกัมพูชาที่สูงอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของประเทศ ภายใต้ภาวะขาดดุลทางด้านการคลัง โดยคาดว่านับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปการขาดดุลของกัมพูชาจะขาดดุลลดลง ตามความมุ่งมั่นของทางการกัมพูชาที่ได้กำหนดไว้ ภายใต้มาตรการที่กำหนดไว้อย่างอย่างครอบคลุม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501434518/cambodias-economy-projected-to-have-grown-by-5-3-in-2023-imf/

ไทยจับตาข้อตกลง 4 ชาติเพื่อนบ้าน หวังผลักดันยกเว้นวีซ่าเชงเก้น

ประเทศไทยกำลังวางแผนที่จะร่วมมือกับเวียดนาม กัมพูชา ลาว และมาเลเซีย จัดการเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อเปิดตัวรายการวีซ่าต่างตอบแทน นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยจะขอการสนับสนุนจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างข้อตกลงให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางอย่างเสรีระหว่าง 5 ชาติอาเซียน หลังจากได้รับวีซ่าเข้าประเทศแล้ว เขากล่าวว่าเวียดนามขอความช่วยเหลือจากไทย โดยเฉพาะเพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว ประเทศไทยจะนำการเจรจาให้นักท่องเที่ยวต้องมีวีซ่าเข้าประเทศเพื่อเดินทางร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ หากรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ประเทศ เห็นพ้องกันอย่างเป็นทางการ รัฐบาลไทยก็มุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้ในการเจรจากับสหภาพยุโรป เพื่อขอยกเว้นวีซ่าเชงเก้นตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

ที่มา : https://www.nationthailand.com/thailand/tourism/40035307?fbclid=IwAR3NaDaOsc_k-GirkTZkYPnJXoAboLJZTt8NlE7eTe1zghWuU5UZ4n3S–g

รัฐบาลกัมพูชาตั้งคณะทำงานศึกษาการจัดทำนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า

รัฐบาลกัมพูชาได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาสิ่งอำนวยความสะดวก และพัฒนากรอบนโยบาย เพื่อการส่งเสริมภาคยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายในประเทศ ภายใต้การดำเนินงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน (MEF) กล่าวโดย Aun Pornmoniroth รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี MEF รวมถึงเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน (EFPC) ซึ่งได้ประกาศอย่างเป็นทางการในการจัดตั้งทีมนโยบาย EV ประกอบด้วยสมาชิก 27 ท่าน นำโดย Ros Seilava รัฐมนตรีต่างประเทศ MEF โดยเน้นไปที่การพัฒนากลยุทธ์เพื่อส่งเสริมภาค EV ของประเทศ การลดต้นทุนการผลิต EV ซึ่งจะส่งผลทำให้ประชาชนมีต้นทุนในการเข้าถึง EV ที่ต่ำลง รวมถึงการเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานของชิ้นส่วนอะไหล่ ส่วนประกอบ และวัตถุดิบ ตลอดจนการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงโรงไฟฟ้าและการเชื่อมต่อโครงข่าย เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501433183/govt-forms-policy-working-group-to-promote-evs/

ม.ค. 2024 กัมพูชาดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศกว่า 187 ล้านดอลลาร์

กัมพูชาดึงดูดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรจากต่างประเทศมากกว่า 187 ล้านดอลลาร์ สำหรับในเดือนมกราคม 2024 รายงานโดยสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ซึ่งผ่านการอนุมัติโครงการลงทุนทั้งสิ้น 32 โครงการ คาดว่าจะเกิดการจ้างงานภายในประเทศเกือบ 29,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ โครงการที่โดดเด่นยังรวมถึงโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โรงงานประกอบจักรยานไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ โรงงานเหล็ก โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าและสิ่งทอ และอื่นๆ ซึ่งเงินลงทุนมากกว่าร้อยละ 78 ในเดือนมกราคมมาจากประเทศจีน, ร้อยละ 9.65 มาจากสิงคโปร์, ร้อยละ 5.34 มาจากสหรัฐฯ, ร้อยละ 3.55 มาจากเกาหลีใต้ และร้อยละ 2.73 จากแหล่งที่มาในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501433460/cambodia-attracts-over-187-mln-investment-in-january/

รัฐบาลกัมพูชาพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมเกษตรขึ้นเป็นอุตสาหกรรมหลักของชาติ

รัฐบาลกัมพูชา (RGC) ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการเกษตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดภายในประเทศ ภูมิภาค และต่างประเทศ กล่าวโดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ในระหว่างการเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมประจำปี 2023 ของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ซึ่งอุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากบริษัทต่างชาติอย่าง สิงคโปร์ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลที่ได้เพิ่มการลงทุนไปยังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างระบบชลประทาน ระบบการขนส่งในชนบท โลจิสติกส์ ไฟฟ้าและกระบวนการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล อีกทั้งรัฐบาลยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างทุนมนุษย์และให้สิ่งจูงใจทางด้านการเงินเพื่อปรับปรุงคุณภาพประสิทธิภาพ ผลผลิต และความปลอดภัย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์เกษตรในตลาดภายในประเทศ ภูมิภาค และต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501432466/agricultural-modernisation-govts-top-priority-says-pm/

กัมพูชาจับตาจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชากำลังพิจารณาสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่ โดยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ในระหว่างการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “โครงการพิเศษเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดพระสีหนุ 2024” ในจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งเน้นย้ำถึววิสัยทัศน์ของรัฐบาลสำหรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในอนาคต เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่หลากหลายในระยะต่อไป และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย รัฐบาลได้กำหนดนโยบายและดำเนินโครงการนำร่องภายในเขตเศรษฐกิจอย่างจริงจัง โดยเน้นไปที่การดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยีสีเขียว อุตสาหกรรมที่ยั่งยืน และภาคดิจิทัล เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501432763/cambodia-eyes-establishing-special-economic-zone-by-countries-says-pm/

จำนวนธุรกรรมการชำระเงินผ่านมือถือภายในกัมพูชาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2023

ปริมาณการชำระเงินผ่านระบบมือถือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2023 ตามรายงานของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) โดยในรายงานระบุเสริมว่าสถาบันบริการชำระเงิน (PSI) 33 แห่ง และสถาบันการเงินและธนาคาร (BFI) 2 แห่ง ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจการชำระเงินในปีที่แล้ว โดยมีผู้ใช้บัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ลงทะเบียนแล้วทั้งหมด 19.7 ล้านราย ซึ่งจำนวนธุรกรรมการชำระเงินผ่านมือถือทั้งหมดเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.7 หรือคิดเป็นจำนวน 601.3 ล้านครั้ง ในปี 2023 โดยมีมูลค่ารวม 75.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 ด้าน CheaSerey ผู้ว่าการ NBC กล่าวว่าบริการชำระเงินดิจิทัลมีส่วนช่วยยกระดับการเข้าถึงบริการทางการเงิน ส่งเสริมนวัตกรรม และมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยแก่ผู้ใช้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501432035/cambodias-mobile-payments-continue-to-rise-in-2023/

ประชาชนคนกัมพูชาฝากเงินเพิ่มขึ้น 13% ในปี 2023

การออมเงินกับธนาคารของคนกัมพูชาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยมีเงินฝากเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 สำหรับในปี 2023 ตามการรายงานของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ซึ่งคิดเป็นสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่มูลค่าสะสมรวม 57.6 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว ภายใต้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคสินเชื่อสำหรับอุตสาหกรรมโรงแรมและภัตตาคารเกือบทรงตัว โดยมีการเติบโตร้อยละ 0.6 ในขณะที่ภาคการค้าส่งปริมาณสินเชื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 การจำนองเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 กิจกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9 และภาคการก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 อย่างไรก็ตามการเติบโตของสินเชื่อโดยรวมชะลอตัวลงร้อยละ 4.8 ต่ำสุดในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในภาคธนาคารและภาคการเงินรายย่อยเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 และ 6.7 ตามลำดับ ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501431741/cambodians-saved-13-more-in-2023/

2023 NBC อัดฉีดเงิน 139 ล้านดอลลาร์ รักษาเสถียรภาพสกุลเงินเรียล

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) อัดฉีดเงินเข้าระบบกว่า 139.1 ล้านดอลลาร์ เพื่อรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเรียล และเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภายใต้ความร่วมมือของ NBC กับสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ เพื่อลดสัดส่วนเงินสกุลดอลลาร์ และเพิ่มสัดส่วนสกุลเงินเรียลในระบบเศรษฐกิจของกัมพูชา สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของเรียลต่อดอลลาร์อยู่ที่ 4,110 ในปีที่แล้ว และในเดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียว สกุลเงินเรียลแข็งค่าขึ้นเป็น 4,081 เรียล สะท้อนให้เห็นว่ามูลค่าเงินเรียลเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022 ด้าน NBC ตัดสินใจที่จะเข้าแทรกแซงสกุลเงินเรียลอย่างต่อเนื่องเนื่อง จากปัจจัยตามฤดูกาลและความกดดันของเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดต่างประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501431035/nbc-injected-139-million-to-stabilise-riel-in-2023/