‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปีนี้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4.6 ล้านคน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศกว่า 4.6 ล้านคน ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 12.6 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลง 6.9% จากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการเปิดพรมแดนอีกครั้งของเวียดนามและการเปิดกิจกรรมการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 2565 ทำให้เวียดนามตั้งเป้าที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 ล้านคนในปี 2565 แต่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพียง 3.66 ล้านคน ด้วยเหตุนี้ เวียดนามได้ตั้งเป้าที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 ล้านคนในปีนี้ แต่ตั้งเป้าไว้ก่อนที่จีนจะประกาศเปิดอย่างเป็นทางการอีกครั้งในต้นเดือน ก.พ. และอนุญาตกรุ๊ปทัวร์ไปเวียดนามในกลางเดือน มี.ค.

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vn-received-4-6mil-foreign-visitors-in-five-months-over-half-the-year-s-target-2148761.html

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปีนี้ เกินดุลการค้า 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยตัวเลขการค้าระหว่างประเทศในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ พบว่ามูลค่าการนำเข้าและส่งออกของเวียดนาม อยู่ที่ราว 262.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 14.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ที่มีการส่งออก 136.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 126.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 11.6% และ 17.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามลำดับ ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้าประมาณ 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ โครงสร้างการส่งออกสินค้าของเวียดนาม พบว่าสินค้าอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปทำรายได้จากการส่งออกมากที่สุด คิดเป็นมูลค่า 120.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นสัดส่วนราว 88.3% ของการส่งออกรวม รองลงมาสินค้าการเกษตร ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและเชื้อเพลิง

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-posts-trade-surplus-of-9-8-billion-usd-in-five-months-2148607.html#vnn_source=news&vnn_medium=listtin11

‘งานแสดงสินค้าเมียนมา-จีน’ ดันการดำเนินธุรกิจของบริษัทเมียนมา

การจัดงานแสดงสินค้าเมียนมา-จีน ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ค.จัดขึ้นที่กรุงเนปยีดอ เมืองหลวงของเมียนมา โดยเป็นการดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนทั้งสองประเทศและการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือทั้งสินค้าเกษตร อาหาร น้ำอัดลม ยาและเวชภัณฑ์ เครื่องใช้ในครัวเรือน และยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น ทางด้านคุณ U Khin Aung Thet ผู้จัดการบริษัท Six Six Eight Co. Ltd. ได้ร่วมลงนามข้อตกลงกับบริษัทจีนและมองว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะสร้างโอกาสให้กับบริษัทที่จะขายถั่วและถั่วพัลส์ไปยังตลาดจีน ซึ่งงานแสดงสินค้ามีความสำคัญอย่างมากต่อบริษัทในการหาลูกค้า ในขณะที่คุณ Daw Cho Cho Aye เจ้าของร้านหยกและเครื่องประดับของบริษัท Myat San กล่าวว่าบริษัทมีความต้องการที่จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อที่จะนำเสนอสินค้าครั้งแรกที่งานแสดงสินค้าในฐานะความร่วมมือระหว่างจีนและเมียนมา

ที่มา : https://english.news.cn/asiapacific/20230530/b3e8edcbefd7435cbd3ed7f9e835dc30/c.html

เวียงจันทน์ เป็นเจ้าภาพจัดงานฉลองวันท่องเที่ยวภูเขานานาชาติ ครั้งที่ 5

งานเฉลิมฉลองวันท่องเที่ยวภูเขานานาชาติ ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงเวียงจันทน์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 พ.ค.) โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวและผู้สื่อข่าวหลายร้อยคนจากทั้ง สปป.ลาว จีน และประเทศอื่นๆ เข้าร่วม ซึ่งได้ร่วมกันหารือบนหัวข้อ “เพลิดเพลินไปกับสิ่งมหัศจรรย์แห่งขุนเขา แบ่งปันชีวิตที่สวยงาม และร่วมกันส่งเสริมการฟื้นฟูการท่องเที่ยว” ถือเป็นโอกาสสำหรับ สปป.ลาว ในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้าน Ountuang Khaophan รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ในนามของรัฐบาล สปป.ลาว กล่าวขอบคุณ International Mountain and Tourism Alliance ที่เลือก สปป.ลาว ในการจัดงานวันท่องเที่ยวภูเขาสากลประจำปี 2023

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten102_Vientiane_y23.php

โรงงานจักรยานไฟฟ้า มูลค่าลงทุน 2 ล้านดอลลาร์ เริ่มเปิดดำเนินการในกัมพูชา

Verywords Co., Ltd. ซัพพลายเออร์ผู้ผลิตรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจากเกาหลีใต้ ได้เปิดโรงงานประกอบสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในจังหวัดกันดาลของกัมพูชา ด้วยมูลค่าลงทุน 2 ล้านดอลลาร์ สร้างการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่น 50 คน ในระยะแรก คาดว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ที่สำคัญสำหรับตลาดสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของกัมพูชา ด้าน Andy Chun ผู้อำนวยการทั่วไปของ Verywords คาดว่าจะประกอบรถได้ประมาณ 3,000 คันต่อปี ในระยะแรก และมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิต เป็นมากกว่า 5,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งวางแผนพิจารณาที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปไปยังตลาดต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย เวียดนาม และมาเลเซีย โดยตั้งราคาไว้ต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ต่อคัน เพื่อแข่งขันกับสินค้าที่มีอยู่ในตลาดอย่าง Honda Scoopy ซึ่งมีราคาประมาณ 2,500 ดอลลาร์ต่อคัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501298595/2-million-electric-bike-plant-launched-in-kandal-province/

NPLs ภายในกัมพูชายังคงสามารถจัดการได้ ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ธนาคารและสถาบันการเงินรายย่อย (MFIs) ในประเทศกัมพูชา ยังคงรับมือกับสถานการณ์หนี้เสีย (NPLs) ภายในประเทศได้ ตามรายงานของ NBC ภายใต้สถานการณ์อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ในอุตสาหกรรมธนาคารและการเงินรายย่อยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.1 และร้อยละ 2.5 ในปี 2022 จากร้อยละ 2 และ 2.4 ตามลำดับในปีที่แล้ว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของธนาคารทั้งในแบบสกุลเงินเรียลและดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 12.2 และร้อยละ 10 ต่อปี ในปี 2022 จากร้อยละ 11.4 และร้อยละ 9.7 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั้งในสกุลเงินเรียลและดอลลาร์ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันเป็นร้อยละ 6.8 และ 5.4 จากร้อยละ 6.2 และ 4.7 ตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501298784/cambodias-npls-manageable-amid-rising-interest-rates/

“Deutsche Bank” เพิ่มการจัดสรรเงินทุนในเวียดนามเกือบ 2 เท่า กว่า 200 ล้านดอลล์

สำนักข่าว The Business Times รายงานว่า Deutsche Bank เพิ่มการจัดสรรเงินทุนในเวียดนามเกือบ 2 เท่า ทำให้เงินอัดฉีดรวมเป็นกว่า 200 ล้านดอลลาร์ Deutsche Bank กล่าวเมื่อวันจันทร์ (29 พ.ค.) ว่าการเพิ่มทุนจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธนาคารในเวียดนาม และช่วยให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้นสำหรับลูกค้า โดยสิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากรายได้ของสาขาเอเชียแปซิฟิกของธนาคารเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยเวียดนามเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญสำหรับภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ Alexander von zur Muehlen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Deutsche Bank กล่าวว่าการลงทุนในเวียดนามครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของเราต่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วของตลาดนี้และเส้นทางการเติบโตในระยะยาว เวียดนามเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา การเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถรองรับแผนการขยายธุรกิจของลูกค้าในประเทศได้ดีขึ้น และเช่นเดียวกันกับเศรษฐกิจเวียดนามในวงกว้าง

อีกทั้งการพัฒนาของเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก รวมถึง Adani Group ซึ่งมีรายงานว่ากำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการลงทุนมูลค่าสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์ ในโครงการท่าเรือและพลังงานหมุนเวียนในประเทศ

ที่มา : https://moneyandbanking.co.th/2023/41265/

เงินเฟ้อ ‘เวียดนาม’ เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.01%

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของเวียดนาม (CPI) เดือนพฤษภาคม ปี 2566 เพิ่มขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2.43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุสำคัญมาจากราคาอาหาร ค่าไฟฟ้าและน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานฯ ระบุว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อตั้งแต่ต้นปีนี้มีทิศทางที่ชะลอตัวลง โดยในเดือน ม.ค. อยู่ที่ 4.89%, เดือน ก.พ. 4.31%, เดือน มี.ค. 3.35%, เดือน เม.ย. 2.81% และเดือนพ.ค. 2.43%

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนพฤษภาคม ปี 2566 เพิ่มขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 4.83% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของดัชนีราคาผู้บริโภค 3.55%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/cpi-increases-by-001-in-may/253788.vnp

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปี 66 ยอดผู้โดยสารเข้าประเทศ พุ่ง 45.5 ล้านคน

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณผู้โดยสาร รวม 45.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 37.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยจากตัวเลขข้างต้น มีชาวต่างชาติ 12 ล้านคน และคนในประเทศ 33.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 679.6% และ 33.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามลำดับ ทั้งนี้ จากข้อมูตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. สายการบินเวียดนามให้บริการผู้โดยสาร รวมทั้งสิ้น 22.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 36.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดนั้น มีผู้โดยสารในประเทศ 16.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับปี 2565 และมีผู้โดยสารชาวต่างชาติ 5.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5,525.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังมีการจำกัดการเดินทางที่ยาวนานกว่า 2 ปี อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการสายการบินดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1544347/air-passenger-volume-soars-during-first-five-months.html

ความรู้สึกต่อต้านจีนพุ่งสูงขึ้นในเมียนมา หลังกระแสการประท้วงและการโจมตี

นาย ฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน หารือกับนาย มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นับเป็นครั้งแรกที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนพบปะกับผู้นำรัฐบาลเมียนมา ตั้งแต่รัฐประหารในปี 2564 โดยการเยือนของรัฐมนตรีต่างประเทศในครั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงมิตรภาพระหว่างเมียนมาและจีน แต่ยังสนับสนุนรัฐบาลปักกิ่งในเวทีโลก และหวังว่าเมียนมาและจีนจะคงรักษามิตรภาพ “ฉันพี่น้อง” ที่ยาวนาน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. เกิดการประท้วงในต่างประเทศ โดยชาวเมียนมาที่ชุมนุมประท้วงนอกสถานทูตจีนในลอนดอน ได้ชูป้ายที่มีข้อความว่าจีนช่วยให้กองทัพละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน รัฐบาลทหารของเมียนมาเป็นองค์กรก่อการร้าย หยุดสนับสนุนผู้ก่อการร้ายและทรัพยากรของเมียนมาไม่ใช่ของจีน นอกจากนี้ คณะประสานงานการหยุดงานประท้วง (GSCB) ซึ่งเป็นเครือข่ายของกองกำลังต่อต้านรัฐบาลเมียนมายังได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงชุมชนชาวจีนทั่วโลก ขอให้รัฐบาลจีนหยุดสนับสนุนรัฐบาลเมียนมาและแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อประชาชนชาวเมียนมา

ที่มา : https://www.irrawaddy.com/news/burma/anti-china-sentiment-surges-in-myanmar-with-wave-of-protests-and-attacks.html