การซื้อขายงาดำในตลาดมัณฑะเลย์ เริ่มกลับมาคึกคัก

ผู้ค้างาดำในตลาดมัณฑะเลย์ก เผย ธุรกิจการค้างาดำในฤดูเก็บเกี่ยวเริ่มคึกคัก จากเดิมราคางาดำอยู่ที่ 185,000 จัตต่อถุง (3 ตะกร้า) ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 225,000 จัตต่อถุงในปีนี้ โดยผลผลิตทั้งงาดำและงาขาวกำลังไหลทะลักเข้าสู่ตลาดมัณฑะเลย์ เมล็ดงาเหล่านี้ปลูกร่วมกับเครือข่ายชลประทานของแม่น้ำมู บางชนิดปลูกโดยใช้น้ำบาดาล อีกทั้งงาดำยังได้รับไฟเขียวในการส่งออก ในปีนี้งาประมาณร้อยละ 95 ถูกส่งออกไปจีนซึ่งเป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ของเมียนมา โดยงามีการปลูกในประเทศตลอดทั้งปีเขตมะกเวถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตเมล็ดงารายใหญ่ของประเทศ และยังปลูกในพื้นที่อื่นๆ เช่น เขตมัณฑะเลย์ และเขตซะไกง์ ทั้งนี้การปลูกงาดำใช้เวลาเพาะปลูกเพียง 100 วัน ก็สามารถที่จะเก็บเกี่ยวและวางขายได้

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/newly-harvested-black-sesame-trade-bustling-in-mandalay-market/

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข้อมูล วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ย้ำฟื้นฟูการท่องเที่ยว

หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวให้คำมั่นที่จะขจัดอุปสรรคและปรับปรุงบรรยากาศของธุรกิจการท่องเที่ยวในปีหน้า เพื่อดึงดูดการลงทุนจากภายในลาวและจากต่างประเทศ ลาวมีศักยภาพมหาศาลในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้น อันเนื่องมาจากความงามตามธรรมชาติของประเทศ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ Suanesavanh Vignaket รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข้อมูล วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว รายงานต่อรัฐสภาเมื่อวันพุธ ได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของโครงการ Lao Green Travel Zone ระหว่างการระบาดของโควิด ซึ่งเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความท้าทายที่รุนแรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เธอกล่าวว่า “เราทุกคนต้องทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะวิกฤติและบรรลุเป้าหมายของเรา ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะประสบความสำเร็จ” นอกจากนี้ยังมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและการเกษตรให้มากขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นและสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เธอกล่าวเสริม ความร่วมมือนี้จะส่งเสริมลาว Thaio Laos ในวงกว้างมากขึ้น เพื่อพยายามฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Minister109.php

กัมพูชาเปิดตัวบริการขนส่งทางทะเลร่วมกับซีแอตเทิล

บริการการขนส่งของท่าเรือพนมเปญ ไปยังจุดหมายปลายทาง เวียดนาม ณ นครโฮจิมินห์ และซีแอตเทิล ที่เพิ่มขึ้น คาดว่าจะช่วยให้ผู้ใช้บริการด้านการขนส่งสินค้าในกัมพูชาสามารถเข้าถึงชายฝั่งทางด้านตะวันตกของสหรัฐฯ โดยใช้เวลาเพียง 25 วัน เร็วกว่าผู้ให้บริการรายอื่นที่ได้ให้บริการในปัจจุบัน ด้วยการลดการพึ่งพารถบรรทุกข้ามพรมแดนที่มีราคาแพง ในเส้นทางระหว่างกัมพูชาไปยังท่าเรือโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่ง UWL ได้ทำสัญญากับ Swire Shipping ผู้ให้บริการเดินเรือทางทะเล เพื่อให้บริการลากจูงตู้คอนเทนเนอร์และเรือบรรทุกสินค้าจากพนมเปญไปยังโฮจิมินห์ โดยคอนเทนเนอร์จะถูกโหลดเข้าสู่หน่วยบริการ Sun Chief เพื่อเป็นการย่นระยะเวลาในการขนส่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501090276/ocean-transportation-service-linking-cambodia-with-seattle-launched/

SMEs กัมพูชากว่า 1,834 ราย ได้รับเงินกู้รวมกว่า 221 ล้านดอลลาร์

ธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) แห่งกัมพูชา ระบุว่ามี SME กว่า 1,834 ราย ได้รับประโยชน์จากการปลอยเงินกู้ ภายใต้กรอบโครงการทางด้านการเงินระยะที่ 1-2 (SCFS I & II) ของธนาคาร ซึ่งได้ทำการปล่อยเงินกู้วงเงินรวม 221 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 92 ของกรอบวงเงินกู้ทั้งหมดที่ 240 ล้านดอลลาร์ โดย SCFS ครั้งที่ 1 มีงบประมาณรวม 100 ล้านดอลลาร์ (50 ล้านดอลลาร์ จาก SME Bank และอีก 50 ล้านดอลลาร์จาก PFI) ซึ่งได้จัดสรรให้กับ SME ราว 753 ราย ในระหว่างเดือนเมษายน 2020 ถึงตุลาคม 2020 ในขณะที่ SCFS ครั้งที่ 2 ได้มีการจัดสรรวงเงินกู้รวม 140 ล้านดอลลาร์ (70 ล้านดอลลาร์ จากธนาคาร SME และอีก 70 ล้านดอลลาร์จาก PFI) ซึ่งเริ่มปล่อยสินเชื่อตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501089865/over-1834-smes-benefit-from-221-million-loans/

พลังงานแจง “ราคาน้ำมัน” ไทย-อาเซียน ต่างกัน ยันน้ำมันไทยไม่ได้แพงที่สุด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ “ราคาน้ำมัน” ตลาดโลกยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ราคาพลังงานสูงขึ้นและบางประเทศขาดแคลนพลังงาน ส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยกำชับทุกฝ่ายให้ช่วยกันสร้างการรับรู้ให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องราคาน้ำมันของไทย เน้นย้ำว่า “ราคาน้ำมัน” ไทยไม่ได้แพงที่สุดในอาเซียน และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาพลังงานของประเทศให้ดีที่สุด ในขณะที่กระทรวงพลังงานชี้แจงเสริมว่า ท่ามกลางสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน  เป็นเหตุให้อุปทานพลังงานลดลง ประกอบกับสถานการณ์โควิดในหลายประเทศดีขึ้น ทำให้ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อราคาเชื้อเพลิงตลอดจนค่าครองชีพของประชาชนที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก หากเปรียบเทียบราคาน้ำมันของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจะพบว่าจุดที่ทำให้ราคาแตกต่างกันขึ้นกับโครงสร้างน้ำมัน ที่แต่ละประเทศมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/politics/1008983

ท่าเรือแห้งทนาเล้งได้รับทุนสนับสนุนยกระดับตามมาตรฐานสากล

ท่าเรือแห้งทนาเล้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์โลจิสติกส์แบบบูรณาการในนครหลวงเวียงจันทน์ ได้รับเงินทุนใหม่สำหรับการพัฒนาและต้นทุนอุปกรณ์เพื่อพัฒนาให้ทันสมัยและให้บริการระดับโลก International Finance Corporation (IFC) ได้จัดเตรียมเงินจำนวน 67 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเป็นทุนในการพัฒนา ก่อสร้าง และต้นทุนอุปกรณ์ของท่าเรือแห้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Vientiane Logistics Park แบบบูรณาการแห่งแรกของประเทศ (VLP) ท่าเรือแห้งและสวนโลจิสติกส์จะกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านลอจิสติกส์ของลาว และช่วยขับเคลื่อนการค้าข้ามพรมแดน ซึ่งส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากการค้าทางทะเลเป็นถนนและทางรถไฟสำหรับลาวที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ด้านลอจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าใช้จ่าย จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างศูนย์กลางการค้าแห่งใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้การจัดหาเงินทุนใหม่ IFC  โครงสร้างพื้นฐานด้านลอจิสติกส์ที่แข็งแกร่งเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของลาว ทำให้ลาวกลายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อระดับภูมิภาค สร้างงาน และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten18_Laosinter.php

ไบเดน ประกาศเว้นภาษีนำเข้าแผงโซลาร์ 4 ชาติอาเซียนรวมไทย 2 ปี

ไบเดน ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าแผงโซลาร์จาก 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา เวียดนามและมาเลเซีย 2 ปี พร้อมประกาศใช้กฎหมายผลิตเพื่อป้องกัน และใช้งบรัฐบาลกลางเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ เดินหน้านโยบายพลังงานสะอาด ลั่นไม่กระทบกระบวนการสอบสวนจีนใช้ 4 ประเทศเลี่ยงภาษีนำเข้า

ที่มา : https://www.prachachat.net/breaking-news/news-948618

ปริมาณการขนส่งสินค้าในกัมพูชาเพิ่มขึ้น คู่ขนานไปกับค่าขนส่งที่แพงขึ้น

ปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งขาเข้าและออกของกัมพูชาปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศ เพื่อทำการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ในเดือน พฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา หลังการปิดประเทศเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ด้าน Sin Chanthy ประธานสมาคมผู้ส่งสินค้าทางเรือกัมพูชา กล่าวว่า การส่งออกและนำเข้าของกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ เนื่องจากการขนส่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีอุปสรรคมาขวางกั้นเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่ในขณะเดียวกันค่าขนส่งกลับเพิ่มขึ้นกว่า 15-20% ตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ร่วมกับปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ ไปจนถึงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ผลักดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501089252/goods-transport-up-but-shipping-cost-too-rising/

Q1 การขนส่งผู้โดยสารทางอากาศในกัมพูชา เพิ่มขึ้นถึง 244%

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังกัมพูชาทางอากาศเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หลังจากที่รัฐบาลกัมพูชาได้ยกเลิกข้อจำกัดด้านการป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าวว่า สนามบินนานาชาติ 3 แห่ง ของกัมพูชารองรับผู้โดยสาร 131,864 คน ในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายนปีนี้ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 243.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญรองรับนักท่องเที่ยวมากที่สุดจำนวน 113,406 คน เพิ่มขึ้น 261.5% ขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐและท่าอากาศยานนานาชาติกงเก็ง (สีหนุ) รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 15,171 และ 3,287 คนตามลำดับ โดยในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดกัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 6.6 ล้านคน ในปี 2019 สร้างรายได้รวม 4.92 พันล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน Thong Khon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว กล่าวเสริมว่า ในปี 2022 กัมพูชาตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างน้อย 800,000 ถึง 1 ล้านคน ภายใต้กรอบกลยุทธ์ของรัฐบาลในการควบคุมสถานการณ์โควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501089249/intl-air-tourists-to-cambodia-surge-244-percent-q1/

“EVFTA” ดันยอดการส่งออกเครื่องเทศ ผักผลไม้เวียดนามไปยังสหภาพยุโรป

เวียดนามได้รับโอกาสอย่างมากจากมาตรการด้านภาษีภายใต้ความตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) ทำให้การส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามไปยังตลาดสหภาพยุโรปเพิ่มสูงขึ้น โดยก่อนที่ความตกลงการค้าเสรีข้างต้นจะบังคับใช้ การส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามไปตลาดอียู ภายใต้สิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) แต่ตัวเลขอัตราภาษีค่อนข้างอยู่ในระดับสูงที่ 10-20% อย่างไรก็ตาม หลังจากข้อตกลงการค้ามีผลบังคับใช้แล้ว สหภาพยุโรปประกาศลดภาษี 94% จากรายการสินค้าทั้งหมด 547 รายการ ส่งผลให้เวียดนามมีความได้เปรียบอย่างมากทางด้านการแข่งขันกับสินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะประเทศคู่แข่ง อาทิ ไทยและจีนที่ยังไม่ได้รับ FTA กับสหภาพยุโรป

นอกจากนี้ ตามข้อมูลของกรมศุลกากร เปิดเผยว่าการส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามไปยังตลาดยุโรปในปี 2564 อยู่ที่ 303 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/evfta-helps-push-up-vietnams-spice-fruit-vegetable-export-to-eu/229764.vnp