CDC อนุมัติโครงการโรงงานผลิตกระเป๋ามูลค่า 2.4 ล้านดอลลาร์ ในกัมพูชา

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติโครงการโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งใหม่ในจังหวัดกันดาล เงินลงทุนราว 2.4 ล้านดอลลาร์ คาดว่าจะสร้างงานจำนวน 380 ตำแหน่ง สำหรับคนในท้องถิ่น โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา CDC ได้อนุมัติโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมเกือบ 80 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเน้นไปที่โรงงานผลิตเสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง และรองเท้า เป็นสำคัญ โดยปีที่แล้วมีโรงงานมากกว่า 101 แห่ง ปิดตัวลง ตามกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศไว้ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคการผลิตเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งตัวเลขจากกระทรวงพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีแรกแสดงให้เห็นว่ากัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ไปยังสหรัฐฯ โดยถือเป็นปลายทางการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2020

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50920851/2-4-million-bag-and-shoe-factory-gets-cdcs-nod/

ชาวเวียดนามแห่กักตุนสินค้า ก่อนล็อกดาวน์เข้ม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามรายงานสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 348,059 คน เพิ่มขึ้น 11,346 คน นับเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งเวียดนามรายงานผู้ป่วยยืนยันมากกว่าวันละ 10,000 คน โดยชาวเวียดนามแตกตื่นกักตุนอาหารและของใช้ที่จำเป็น ก่อนที่นครโฮจิมินห์จะเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ในวันวันจันทร์ ที่ 23 ส.ค 64 และมีประชาชนบางส่วนเร่งเดินทางออกจากเมือง โดยสถานีโทรทัศน์ VTV รายงานว่าประชาชนจำนวนมากต่อแถวเพื่อซื้อสินค้า ขณะที่ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งสินค้าหมดเกลี้ยง

ที่มา : https://www.naewna.com/inter/596875

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าปี 73 ก้าวเป็นศูนย์กลางอาหารทะเลแปรรูป

ภายในปี 2573 ตลาดอาหารทะเลแปรรูปของเวียดนาม จะมีมูลค่าสูงถึง 40-45 ล้านล้านดอง (1.75-1.97 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ส่งผลให้ยอดการส่งออกอาหารทะเลอยู่ที่ 14-16 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวมาจากแผนยุทธศาสตร์สำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลปี 64-73 ตั้งเป้าที่จะส่งเสริมการผลิตที่มีความทันสมัยและยั่งยืน ตลอดจนตอบสนองกับความต้องการของตลาดต่างประเทศ อีกทั้ง เพื่อเป็นไปตามแผนดังกล่าว กำลังการผลิตอาหารทะเลแปรรูปจะขยายเฉลี่ย 6% ต่อปีในอีก 10 ปีข้างหน้า ขณะที่มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจะมีสัดส่วนมากกว่า 40% ของทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกอาหารทะเลของเวียดนาม อยู่ที่ 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเป็นตลาดส่งออกหลักของเวียดนาม

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-aims-to-become-worlds-seafood-processing-hub-by-2030-318398.html

นักวิจัยกัมพูชาเตรียมเปิดตัวพันธุ์ข้าวใหม่เร็วๆนี้

นักวิจัยข้าวของกัมพูชาเตรียมจะเปิดตัวพันธุ์ข้าวใหม่ ที่มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ สามารถปลูกได้ในพื้นที่ที่มีน้ำสม่ำเสมอ ให้ผลผลิตสูง ซึ่งให้ผลผลิตได้ดีกว่าพันธุ์ข้าวทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับความต้องการของตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาการเกษตรแห่งกัมพูชา (CARDI) กล่าวว่าพันธุ์ใหม่นี้เป็นข้าวลูกผสมระหว่างข้าวหอมที่พัฒนาโดยทีมวิจัยตลอดระยะเวลา 10 ปี ซึ่งยังไม่ถูกกำหนดตั้งชื่อ มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางสายพันธุ์ข้าวให้กับเกษตรกรภายในประเทศ และเป็นการค้นหาตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น โดยนับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา CARDI ได้พัฒนาและเผยแพร่พันธุ์ข้าวมากกว่า 40 สายพันธุ์ ให้กับเกษตรกร ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2020 มีการส่งออกข้าวสาร 280,450 ตัน ลดลงร้อยละ 29.47 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 โดยการส่งออกข้าวเปลือกแตะระดับ 1,692,813 ตัน ในปี 2020 เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 72 เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50920852/cambodian-researchers-to-launch-new-rice-variety-shortly/

อุตสาหกรรมกาแฟเวียดนาม ก้าวสู่ระดับโลก

งานสัมมนา “International Business Forum 2021” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟเข้ามาแชร์แนวทางในการส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเวียดนามได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้แต่ช่วงก่อนและหลังการระบาดของโควิด-19 ผู้ประกอบการกาแฟเวียดนามส่วนใหญ่ทำการกระจายสินค้าตลาดส่งออก ปรับปรุงคุณภาพ ดึงเอาศักยภาพของเมล็ดกาแฟชนิดพิเศษและขยายช่องทางไปยังตลาดออนไลน์ ทั้งนี้ นาย Nguyen Van Minh รองประธานสมาคมฟาร์มและผู้ประกอบการเกษตรเวียดนาม กล่าวว่าอุตสาหกรรมกาแฟถือเป็นอุตสาหกรรมหลักและยังคงเป็นหลักสำคัญของธุรกิจระหว่างประเทศ

ปีงบฯ 64 ส่งออกสินค้าเกษตรเมียนมาพุ่ง ! 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มสูงขึ้นเป็น 4.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา (ต.ค.63-ก.ค.64) ของปีงบประมาณ 63-64 แม้ว่าการส่งออกสินค้าอื่นๆ มีแนวโน้มลดลงจากผลกระทบของโควิด-19 สะท้อนการเพิ่มขึ้น 913.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณนี้ ซึ่งการส่งออกเมื่อปีงบประมาณ 62-63 ซึ่งมีมูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลกระทบความต้องการจากต่างประเทศในกลุ่มสินค้าอื่นๆ สินค้าเกษตร ประมง ปศุสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า สินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป และสินค้าอื่นๆ โดยการส่งออกของอุตสาหกรรมการเกษตร คิดเป็น 35% ของการส่งออกโดยรวม สินค้าส่งออกที่สำคัญในภาคเกษตร ได้แก่ ข้าวและข้าวหัก ถั่วและข้าวโพด ผลไม้และผัก งา ใบชาแห้ง น้ำตาล ฯลฯ ส่วนตลาดนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และศรีลังกาเป็นหลัก ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหา เช่น ต้นทุนการผลิต การจัดหาเมล็ดพันธุ์ ต้นทุนการเพาะ และสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/agro-exports-surge-to-us-4-2-bln-during-oct-july-period/

ตลาดผลไม้มัณฑะเลย์ ยอดขายพุ่ง

ผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคชาวเมียนมาเปลี่ยนไป ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ส้มโอ น้อยหน่า สับปะรด เสาวรส อะโวคาโด ส้มเขียวหวาน แอปเปิล ลูกแพร์ ทับทิมโดยถูกนำเข้าจากไทยมากกว่านำเข้าจากจีน ซึ่งมีให้เห็นแล้วในตลาดมัณฑะเลย์ และที่สำคัญคนในพื้นที่ชอบกินผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกันมากขึ้น โดยปกติตลาดผลไม้ในประเทศจะคึกคักในช่วงเทศกาลทาดิงยุต (Thadingyut) และสงกรานต์ตะจาน (Thingyan) ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับขนาดของผลไม้ เช่น น้อยหน่าราคา 100-200 จัต, แอปเปิ้ลราคา 600- 800 จัต, ทับทิมราคา 1,200 จัต, ผลไม้ซันคิสต์ราคา 800 จัต, อะโวคาโดราคา 400 จัต, ลูกแพร์ราคา 1,000-1,200 จัต, สับปะรดราคา 400-500 จัต, ส้มโอไทยราคา 2,500 จัต, ส้มโอเมียนมาราคา 1,000 จัต, ส้มเขียวหวานราคา 500 จัต และเสาวรสราคา 500 จัต ตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mandalay-seasonal-fruit-market-records-brisk-sales/

รัฐบาลสปป.ลาวพันธมิตรสำคัญ Star Telecom ในการพัฒนาดิจิทัลในประเทศ

ศูนย์รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร และสตาร์ เทเลคอม (ยูนิเทล) ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อเร่งรัดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของรัฐบาลและปรับปรุงเทคโนโลยีดิจิทัลสปป.ลาว ข้อตกลงดังกล่าวลงนามโดยอธิบดีศูนย์รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวง ดร.ทวีศักดิ์ มโนธรรม และรองอธิบดี Star Telecom นายบุญมี มาลาวงษ์ ภายใต้ข้อตกลงนี้ พันธมิตรจะทำการวิจัยและพัฒนาโปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อประยุกต์ใช้กับบริการที่ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชนทั่วไปใช้ พวกเขายังจะทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาแพลตฟอร์มการชำระเงินและการค้าดิจิทัลเพื่อรวมเข้ากับระบบดิจิทัลของรัฐบาลและระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (แพลตฟอร์มลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์) ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 การจัดการและบริการที่ได้รับการปรับปรุงรวมถึงบริการภาครัฐและสังคมจะมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองความต้องการในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การร่วมมือดังกล่าวจะนำพาสปป.ลาวไปสู่การพัฒนาที่สำคัญด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govtstar_163.php

ราคาอาหารสัตว์พุ่ง! หนุนราคาสินค้าปศุสัตว์ขยับเพิ่มขึ้น

ราคาสินค้าปศุสัตว์มีแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากราคาอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาอาหารสัตว์ที่สูงขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยสูงขึ้นจาก 24,000 จัตเป็น 32,500 จัตต่อถุง ทำให้ต้นทุนการผลิตจึงสูงขึ้น ในทำนองเดียวกันราคาวินค้าก็สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาตกต่ำลงจากการระบาดของโควิด-19  ณ วันที่ 30 ก.ค. 64 ราคาไข่ไก่เพิ่มขึ้นเป็น 130 จัตต่อฟอง ในขณะที่ไข่เป็ดเพิ่มขึ้นเป็น 150 จัตต่อฟอง เหตุที่ราคาสินค้าสูงขึ้นไม่ใช่เพราะผู้ค้าส่ง แต่เป็นเพราะราคาที่เพิ่มขึ้นในตลาดค้าปลีกของท้องถิ่น ราคาผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์มีแนวโน้มสูงขึ้นหากราคาอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการจึงอาจยืนอยู่ในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ต่อไปได้ยาก

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/livestock-products-prices-likely-to-go-up-as-feed-prices-incessantly-increase/

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

รายงานจากเว็บไซต์ newswire vendor.com เปิดเผยบทความว่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม ยังคงเติบโตได้ดี แม้ว่าจะได้รับผลกระทบของโควิด-19 บทความดังกล่าวชี้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้ลงนามความตกลงการค้าเสรีกับประเทศอื่นๆ และนโยบายที่มีความยืดหยุ่น เพื่อจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติและเปิดโอกาสแก่ผู้ประกอบการ เนื่องจากอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนาม อีกทั้ง คาดว่าเวียดนามจะเป็นหนึ่งผู้ส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่อันดับที่ 12 ของโลก ประกอบกับยอดการส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่อง มูลค่าเฉลี่ย 12 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ขณะที่การนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นราว 2 เท่า ตั้งแต่ปี 2558-2562 นอกจากนี้ เวียดนามได้ลงนามความตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม ซึ่งจะสร้างโอกาสอันดีแก่ทั้งสองฝ่าย

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-electronics-industry-appeals-to-foreign-investors-entrepreneurcom-884404.vov