เงินเฟ้อ ก.พ. 66 ขยายตัว 3.79% ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน พาณิชย์คาดครึ่งปีหลังอาจแตะ 0%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนก.พ.66 อยู่ที่ระดับ 108.05 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เพิ่มขึ้น 3.79% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.66 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงมาจากราคาพลังงาน และอาหารสดที่ปรับตัวลดลงเป็นสำคัญ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) เพิ่มขึ้น 4.40% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือนก.พ. อยู่ที่ระดับ 104.17 ทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 1.93% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 2 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 2.48% โดยอัตราเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มเป็นขาลง พร้อมคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ มีโอกาสจะได้เห็นเงินเฟ้อลดลงไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ 0% เนื่องจากฐานที่สูงในปีก่อน รวมทั้งหากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างมาก

ที่มา : https://moneyandbanking.co.th/2023/27512/

“อสังหาฯเวียดนาม” ยังคงเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

CBRE Vietnam บริษัทที่ให้บริการและการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ รายงานผลการสำรวจมุมมองของนักลงทุนในเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2566 แสดงให้เห็นว่าเมืองโฮจิมินห์และฮานอย เป็นหนึ่งใน 10 จุดหมายปลายทางของการลงทุนข้ามพรมแดนที่น่าสนใจที่สุด โดยเฉพาะเมืองโฮจิมินห์เป็นครั้งแรกที่อยู่ในอันดับที่ 3 ของผลการสำรวจในครั้งนี้ ประกอบกับอยู่อันดับดีกว่าออสเตรเลีย เนื่องจากอัตราการขยายตัวของเมืองที่คาดการณ์ไว้ที่ 42% ในปี 2568 ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ จากรายงานของ PropertyGuru Group บ่งชี้ให้เห็นถึงนโยบายเศรษฐกิจเปิดของเวียดนามและการรวมเข้ากับห่วงโซ่อุปทานโลก ด้วยเหตุนี้ ห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นจึงเป็นกุญแจสำคัญในความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของเวียดนามและเพิ่มความน่าดึงดูดอสังหาริมทรัพย์แก่นักลงทุนต่างชาติ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-real-estate-remain-attractive-to-foreign-investors/249435.vnp

“เวียดนาม” เผยช่วง 2 เดือนแรก เกินดุลการค้า 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกของเวียดนาม มีมูลค่า 49.44 พันล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 10.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะเดียวกัน การนำเข้าของเวียดนาม มีมูลค่า 46.62 พันล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 16% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้า 2.82 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนใหญ่นำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายจากการเติบโตทางการส่งออก 6% ต่อปี กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าจึงได้ร้องขอให้ภาคธุรกิจเร่งปรับปรุงขีดความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมกับขยายการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ

นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะปรับปรุงกิจกรรมส่งเสริมการค้าและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อกระจายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้หลากหลายขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1493648/viet-nam-enjoys-trade-surplus-of-over-2-8-billion-in-two-months.html

เดือนมค.-ก.พ.66 เมียนมาส่งแรงงานไปเกาหลีใต้ ผ่านโครงการ EPS ทะลุกว่า 1,000 คน

สถานทูตเมียนมาในกรุงโซล เผย ในเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีแรงงานเมียนมาถูกส่งไปยังเกาหลีใต้ผ่านโครงการระบบอนุญาตการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) จำนวน 1,040 คน ประกอบไปด้วยแรงงานฝ่ายผลิต 345 คน แรงงานฝ่ายผลิตเฉพาะทางแบบ CBT 28 คน แรงงานที่กลับเข้าไปทำงานในสถานประกอบการ/โรงงานเดิมที่เคยทำ 236 คน เกษตรและปศุสัตว์ 374 คน และการก่อสร้าง 57 คน โดยรัฐบาลเกาหลีใต้เปิดรับแรงงานเมียนมาอีกครั้งอย่างหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งปี 2565 ที่ผ่านมามีการส่งแรงงานไปเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม จำนวน 1,293 คน เดือนกันยายน จำนวน 1,169 คน เดือนตุลาคม จำนวน 728 คน และเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม อีก 599 คน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/over-1000-myanmar-workers-sent-to-s-korea-under-eps-within-2-months/#article-title

‘รถไฟลาว-จีน’ ขนส่งผู้โดยสารวันละ 10,000 คน

ผู้ดำเนินงานทางรถไฟ  ระบุว่าจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเส้นทางรถไฟสายลาว-จีน ยังคงเติบโตได้ดี แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10,197 คน ณ ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 4 มี.ค. ทั้งนี้ ในเดือน ม.ค. – ก.พ. รถไฟขนส่งผู้โดยสารจำนวนทั้งสิ้น 417,400 คน เพิ่มขึ้น 256.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน ปริมาณขนส่งสินค้า 647,700 ตัน เพิ่มขึ้น 320% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เพื่อให้บริการขนส่งทางรถไฟเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยเหตุนี้ บริษัททางรถไฟลาว-จีน (LCRC) ดำเนินการปรับปรุงการจัดการขนส่งและจะเปิดให้บริการตั๋วล่วงหน้าต่อไป

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten46_Laos_china_y23.php

ปริมาณนักท่องเที่ยวชายแดน ระหว่าง สปป.ลาว-กัมพูชา เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ณ จุดผ่านด่านตราเบียงเกรียน จังหวัดสตึงแตรง ของ สปป.ลาว ซึ่งเชื่อมต่อกับกัมพูชา มีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มสูงขึ้น หลังรัฐบาลกัมพูชาเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศ ก่อนที่มหกรรมกีฬา ซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจะเกิดขึ้น ด้าน Un Po Soeun ผู้อำนวยการกรมการท่องเที่ยวจังหวัดสตึงแตรง ได้อธิบายเสริมว่าปัจจุบันสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังได้รับผลกระทบมาจากวิกฤตโควิด-19 โดยคาดว่าการจัดงานมหกรรมกีฬาในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพลิกฟื้นภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501250856/increase-in-number-of-tourists-entering-through-laos-cambodia-border-before-the-sea-games/

มิ.ย. กัมพูชาตั้งเป้าเปิดทดลองท่าอากาศยานนานาชาติ เสียมราฐ-อังกอร์

ปัจจุบันการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติ เสียมราฐ-อังกอร์ เสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ 86 และคาดว่าจะเปิดให้ทดลองใช้งานในเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยจะเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการภายในเดือนตุลาคม กล่าวโดย Liu Minglin ผู้อำนวยการและรองประธานคณะกรรมการ บริษัท Yunnan Investment Group Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติ เสียมราฐ-อังกอร์ หลังได้เข้ากล่าวรายงานผลการดำเนินงานต่อนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน โดยคาดว่าสนามบินดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการดึงดูดเที่ยวบินจากประเทศต่างๆ ไปจนถึงการลงทุนในจังหวัดเสียมราฐที่คาดว่าจะดีขึ้นหลังสนามบินเริ่มให้บริการ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501250489/june-target-for-trial-operation-of-siem-reap-angkor-international-airport/

‘RCEP’ ถกเข้ม เร่งติดตามการดำเนินงาน หนุนผู้ประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ คาดสมาชิก 15 ประเทศ พร้อมใช้ความตกลงปีนี้

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยผลการประชุมคณะกรรมการร่วม RCEP ครั้งที่ 3 เร่งติดตามการดำเนินงานตามพันธกรณีความตกลง RCEP ทั้งการปรับโอนพิกัดศุลกากร การจัดตั้งหน่วยงานสนับสนุน การจัดสรรงบประมาณ คาดสมาชิก 15 ประเทศ พร้อมใช้ความตกลงปีนี้ เดินหน้าหาแนวทางสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจผ่านแผนงาน มุ่งเน้นทั้งการค้าสินค้า บริการ การลงทุน ทรัพย์สินทางปัญญา และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ สำหรับในช่วง 11 เดือน (ม.ค. – พ.ย. 2565) มีการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง RCEP เพื่อส่งออกไปตลาด RCEP มูลค่า 919.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการส่งออกไปเกาหลีใต้มากที่สุด รองลงมา คือ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์ สำหรับสินค้าส่งออกที่ขอใช้สิทธิ์ RCEP สูงสุด อาทิ น้ำมันหล่อลื่น ปลาทูน่ากระป๋อง มันสำปะหลังเส้น ทุเรียนสด และเลนส์สำหรับกล้องถ่ายภาพ

ที่มา : http://www.acnews.net/detailnews.php?news_id=N256674555

“เวียดนาม” เผย CPI เดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน ก.พ. 2566 เพิ่มขึ้น 0.45% เมื่อเทียบรายเดือน และ 4.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การปรับขึ้นของดัชนี CPI เป็นผลมาจากราคาเชื้อเพลิงในประเทศที่สูงขึ้น เหตุจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้นและค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น หลังจากเทศกาลปีใหม่ทางจันทรคติ ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการหลัก มี 5 กลุ่มจาก 11 กลุ่มที่ผลักดันให้ดัชนี CPI ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบรายเดือน ได้แก่ กลุ่มขนส่งที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 2.11% จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ตามมาด้วยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าบริการขนส่งสาธารณะ ค่าบริการรถไฟโดยสาร ค่าที่อยู่อาศัยและการก่อสร้าง โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น และราคาก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้า และค่าบำรุงรักษาที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.25% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 4.96% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-cpi-edges-up-in-february/

“เวียดนาม” เผยปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไตรมาสแรก

การลงทุน การบริโภคในประเทศและการค้าต่างประเทศเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในเดือน ก.พ. และไตรมาสแรกของปีนี้ จากข้อมูลของกระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าภาวะเศรษฐกิจในเดือน ม.ค. 2566 ยังคงอยู่ในทิศทางที่เป็นบวกและเศรษฐกิจมหภาคยังอยู่ในระดับทรงตัว โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 4.89% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ตลาดการเงิน สินเชื่อขยายตัว 0.65% เมื่อเทียบกับปี 2565 ทั้งนี้ รายรับงบประมาณในเดือน ม.ค. สูงถึง 11.3% ของประมาณการรับรายรับต่อปี การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ภาครัฐฯ เร่งปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุนและส่งเสริมให้ภาคเอกชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสินเชื่อธุรกิจ ตลอดจนสนับสนุนกำลังซื้อภายในประเทศผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ

ที่มา : https://ven.vn/q1-economic-growth-drivers-46867.html