ทางการกัมพูชารายงานถึงการลดลงของโครงการการลงทุนในช่วง Q3

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ รวม 134 โครงการ ลดลงร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติมีมูลค่ารวม 3.3 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจากโครงการทั้งหมดมี 101 โครงการ ตั้งอยู่นอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ และ อีก 33 โครงการตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยโครงการลงทุนทั้งหมด 111 โครงการ ลงทุนในภาคอุตสาหกรรม และ อีก 12 โครงการ ลงทุนไปยังอุตสาหกรรมเกษตร เป็นสำคัญ ซึ่งคาดว่าโครงการลงทุนจะช่วยสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นจำนวน 85,572 ตำแหน่ง โดยปีที่แล้ว CDC อนุมัติโครงการลงทุนรวม 238 โครงการ มูลค่ารวม 8.2 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50951600/investment-projects-declined-in-first-three-quarters-this-year/

รมว.ท่องเที่ยวกัมพูชา หารือผู้เชี่ยวชาญกำหนดยุทธศาสตร์เปิดการท่องเที่ยว

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาหารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญภาคการท่องเที่ยว กำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการเปิดประเทศใหม่ ภายใต้ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และแผนการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว ก่อนการเปิดพรมแดนตามแผนที่กำหนดไว้ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ โดยการประชุมมุ่งเน้นไปที่การร่างหนังสือ 2 ฉบับ ได้แก่ 1.แผนยุทธศาสตร์การเปิดการท่องเที่ยวใหม่อย่างปลอดภัย (วัคซีนทัวร์) และ 2.มาตรการส่งเสริมการเคลื่อนไหวการท่องเที่ยวภายในปี 2021-2023 ซึ่งเมื่อกัมพูชามีแผนเตรียมเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้วางแผนอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง โดยกัมพูชาสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปได้รับวัคซีนเข็มที่สาม เพื่อเป็นการต่อสู้กับสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งมีต้นต่อมากคนต่างชาติ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50951949/ministry-of-tourism-discusses-strategy-on-safe-reopening-of-tourism-sector/

‘ธนาคารโลก’ หั่น GDP เวียดนามปีนี้ 2-2.5%

ธนาคารโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP เวียดนามในปีนี้ลงเหลือ 2-2.5% เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 หดตัวลงอย่างมากและคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 สำหรับสภาวะตลาดแรงงานแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบจากการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อ ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เริ่มลดลง ทำให้เมืองฮานอยและหลายๆจังหวัดได้ผ่อนคลายข้อจำกัดที่เข็มงวด ทั้งนี้ เงินเฟ้อยังคงอ่อนตัว ท่ามกลางอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ ขณะที่เงินดองเวียดนามแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย การเติบโตของสินเชื่อชะลอตัว เนื่องจากความต้องการสินเชื่อลดลง ซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นอกจากนี้ ธนาคารโลกแนะนำให้รัฐบาลเวียดนามระดมตรวจเชื้อและเร่งฉีดวัตซีนในวงกว้าง ตลอดจนควรใช้นโยบายการคลังเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/wb-lowers-vietnams-gdp-growth-forecast-to-225-percent-this-year/209673.vnp

ราคาข้าวเวียดนามพุ่งแซงไทย

สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) เปิดเผยว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามพุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ แซงหน้าราคาข้าวไทย อินเดียและปากีสถาน โดยในช่วงกลางเดือน ส.ค. ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามลดลงเหลือ 385 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลง 100 เหรียญสหรัฐต่อตันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2563 ในขณะที่ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามอยู่ที่ 8 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าข้าวหัก 5% ของไทย แต่ยังสูงกว่าข้าวของอินเดียและปากีสถานอยู่ที่ 25 เหรียญสหรัฐ และ 40 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนามในปัจจุบัน อยู่ที่ 433-437 เหรียญสหรัฐต่อตัน ถือว่าสูงกว่าของไทย อินเดียและปากีสถานอยู่ที่ 49, 68 และ 55 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามลำดับ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-rice-price-surges-surpasses-that-of-thailand/

ปีงบฯ 63 –64 เมียนมาส่งออกสัตว์น้ำลดฮวบ 8.6%

กระทรวงพาณิชย์ .เผย มูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำของเมียนมาร์ในปีงบประมาณ 2563-2564 (ต.ค.-63-ก.ย.64) ลดลง 784.889 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 8.6 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อน ต่ำกว่าถึง 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกมูลค่า 858.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปีงบประมาณ 2562-2563 สหพันธ์ประมงแห่งเมียนมา (MFF) พยายามขยายการส่งออก แม้มีการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบในการส่งออกทางทะเล การปิดพรมแดน และความไม่แน่นอนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ด้าน Mawlamyine Commodity Center ระบุ ราคาปลาลดลง แต่ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น เช่น อวนจับปลา ราคาน้ำมัน ควบคู่ไปกับค่าเงินจัตที่อ่อนค่าของตลาดฟอเร็กซ์ MFF จึงหันไปมองตลาดบังคลาเทศและร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้การส่งออกเติบโตอย่างยั่งยืน ณ ปัจจุบันการส่งออกประมงผ่านพรมแดนจีน-เมียนมาต้องหยุดชะงักหลังผลกระทบของโควิด-19  ซึ่งตลาดจีนคิดเป็นร้อยละ 65 ของการส่งออกสินค้าประมงทั้งหมดของเมียนมา :ซึ่ง MFF ระบุว่ามีเพียงข้อตกลงแบบ G2G เท่านั้นที่สามารถจัดการกับปัญหาการส่งออกสินค้าประมงได้ ทั้งนี้เมียนมาส่งออกผลิตภัณฑ์ประมง เช่น ปลา กุ้ง และปู ไปยังตลาดใน 40 ประเทศ ได้แก่ จีน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไทย และประเทศในสหภาพยุโรป

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-aquaculture-exports-down-by-8-6-in-2020-2021fy/

สปป.ลาวเน้นย้ำความจำเป็นในการปฏิรูปสู่ดิจิทัล

ผู้นำระดับสูงของสปป.ลาวได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลให้สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน ศาสตราจารย์ ดร.บ่อเวียงคำ วงษ์ดารา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร ได้กล่าวถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงดิจิตัลการประชุม ITU Digital World 2021 “กระทรวงของเราได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการและผู้ให้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้นในช่วงโควิด-19 นี้ และยังสนับสนุนการขยายเครือข่ายในกรณีที่จำเป็น” ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญในการเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลนั้นเกี่ยวข้องกับ (1) การทำงานร่วมกัน (2) การรับรองความพร้อมของระบบนิเวศและโครงสร้างพื้นฐาน และ (3) การสร้างขีดความสามารถในการรู้เท่าทันดิจิทัล

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos201.php

กัมพูชามองรถยนต์ไฟฟ้าหนทางประหยัดการใช้พลังงานในประเทศ

แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีการบันทึกจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จดทะเบียนในกัมพูชา แต่ทางการกัมพูชากลับสนใจและกระตือรือร้นที่จะใช้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายประหยัดพลังงานภายในประเทศ โดยกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชา กำลังร่างนโยบายอนุรักษ์พลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งได้กล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและคาดว่าจะทำการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันและมีส่วนร่วมในการปกป้องสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการปล่อยก๊าซ แต่ถึงอย่างไรสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ที่ชาร์จรถ EV ในสถานที่สาธารณะก็ถือเป็นปัจจัยที่ต้องพัฒนาหากต้องการที่จะผู้คนหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกคำสั่งเกี่ยวกับการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มพิเศษ สำหรับการนำเข้ารถยนต์ EV จากอัตราภาษีนำเข้าเดิมที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 30 ลดลงเหลือร้อยละ 10 เป็นการสนับสนุนภาคประชาชน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50950405/cambodia-looks-to-electric-vehicles-for-energy-efficiency/

กัมพูชาวางแผนพัฒนาปรับปรุงถนนเรียบชายฝั่งจังหวัดแกบ

องค์การบริหารส่วนจังหวัดแกบตั้งเป้าที่จะปรับปรุงถนนเลียบชายฝั่งที่เชื่อมศาลากลางจังหวัดแกบไปยังพื้นที่อังกอร์ ทางตอนใต้ของจังหวัดแกบ โดยการก่อสร้างมีกำหนดที่จะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2023 ซึ่งโครงการถนนเลียบชายฝั่งจะมีความยาวประมาณ 11.4 กิโลเมตร ใช้เงินกู้สัมปทานการก่อสร้างมูลค่า 10.5 ล้านดอลลาร์ จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) โดยถนนเลียบชายฝั่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระยะที่ 2 ของ ADB ซึ่งทาง ADB ให้เงินกู้กัมพูชาจำนวน 30 ล้านดอลลาร์ เพื่อดำเนินโครงการ 3 โครงการในจังหวัดแกบ รวมถึงโครงการท่าเทียบเรือท่องเที่ยวบนเกาะทอนซาย และถนนเลียบชายฝั่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50950385/10-million-kep-coastal-road-to-start-in-november/

คลังเตรียมให้สัตยาบันตั้งบริษัทลูกธนาคารในอาเซียน

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การเปิดเสรีด้านบริการการเงินในอาเซียนมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเตรียมให้สัตยาบัน (Ratification) ข้อตกลงให้ธนาคารของสมาชิกอาเซียน เข้าไปตั้งบริษัทลูกในประเทศสมาชิกอาเซียนอีกประเทศหนึ่งได้ไม่เกิน 49% ซึ่งการจัดทำข้อตกลงเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้ดำเนินสืบเนื่องในหลายครั้งผ่านการเจรจาหารือร่วมกันและครั้งนี้ ถือเป็นข้อตกลงฉบับที่ 9  ซึ่งทำให้การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของสมาชิกอาเซียน มีความลึกและกว้างขึ้น โดยจะเป็นการลดข้อจำกัดของการเข้ามาลงทุนในกิจการธนาคารภายในกลุ่มอาเซียน ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวซึ่งเรียกว่า ASEAN Framework Agreement on Services ซึ่งกระทรวงการคลังในฐานะหน่วยงานหลักในการเจรจาร่วมกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องได้เห็นชอบร่างข้อตกลงนี้แล้ว โดยร่างข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ใน 180 วัน หลังจากลงนามให้สัตยาบัน สำหรับสาระสำคัญของข้อตกลงฉบับที่ 9 ดังกล่าว เพื่อขยายความร่วมมือด้านการค้าบริการระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยลดหรือยกเลิกข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าบริการภายใต้กรอบอาเซียนให้มากกว่าที่เปิดเสรีตามกรอบขององค์การการค้าโลก และประเทศสมาชิกจะให้สิทธิประโยชน์ตามตารางข้อผูกพันแก่ประเทศสมาชิกอื่น ตามหลักการให้การปฏิบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์ยิ่ง (Most-Favored Nation Treatment: MFN) และการปฏิบัติเยี่ยงคนชาติ (National Treatment)

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/965526

สามเหลี่ยมทองคำ สธ. ขอแรงงานเพิ่ม

นักพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ในจังหวัดบ่อแก้ว ขอให้คณะทำงานด้านโควิด-19 ของจังหวัด ผ่อนปรนขั้นตอนการนำเข้าแรงงาน เพื่อให้การดำเนินการต่างๆ เกิดขึ้นได้โดยไม่หยุดชะงัก ข้อเสนอเกิดขึ้นภายหลังความร่วมมือในการจัดการสายตรวจเพื่อป้องกันการเข้าเมืองของคนงานที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือผิดกฎหมายได้เกิดขึ้นแล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดระบุพื้นที่หลัก 6 แห่งว่ามีความเสี่ยงสูง และตรวจสอบแต่ละอาคารอีกครั้ง ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อในโซนลดลง นางเฉิน จง รองประธานคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เรียกร้องให้ผู้นำจังหวัดพิจารณาอนุญาตให้คน 392 คนเริ่มทำงานในโซน โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาจะกักตัวเป็นเวลา 28 วัน และกล่าวเพิ่มเติมว่า “จำเป็นต้องมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อให้ส่งคนงานไปลาวได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อให้พต่อความต้องการแรงงานที่มากขึ้นของสามเหลี่ยมทองคำ โดยในขณะนี้มีแรงงานจากเมียนมาร์และจีนเข้ามาจำนวนมากแล้ว” ถึงอย่างไรการจ้างแรงงานลาวและแรงงานต่างด้าวต้องดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การดำเนินงานภายในเขตดำเนินการได้ตามปกติ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Golden_triangle_199.php