‘เวียดนาม’ มุ่งยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังตลาดสหรัฐฯ

จากข้อมูลของสำนักงานการค้าต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และตัวเลขสถิติของคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา พบว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 สหรัฐฯ มีการนำเข้ายางพารา 1.43 ล้านตัน อย่างไรก็ดีเวียดนามส่งออกไปยังสหรัฐฯได้เพียง 20,370 ตัน มูลค่า 28.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 13 ในกลุ่มซัพพลายเออร์ยางพาราในตลาดสหรัฐฯ และคิดเป็นสัดส่วนราว 1.42% ของปริมาณการนำเข้ายางทั้งหมดของสหรัฐฯ โดยคู่แข่งรายใหญ่ ได้แก่ อินโดนีเซียและไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดในสหรัฐฯ มากที่สุด

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสินค้าประมง แสดงให้เห็นว่าในช่วง 10 เดือนของปีที่แล้ว เวียดนามส่งออกสินค้าประมงไปยังสหรัฐฯ อยู่ในระดับมาก และอยู่ในอันดับที่ 2 ของผู้ส่งออกรายใหญ่ โดยเฉพาะกุ้ง ปลาสวายและปลาทูน่า

นอกจากนี้ นาย Do Ngoc Hung ที่ปรึกษาด้านการพาณิชย์ของเวียดนาม แนะนำให้ผู้ประกอบการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและมีมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-strives-to-increase-competitiveness-for-agricultural-exports-to-us/278092.vnp

‘ผลสำรวจ’ เผยชาวเวียดนามให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวในประเทศช่วงวันเทศกาลเต็ต

บริษัทวิจัยทางด้านการตลาดระดับโลก “The Outbox Company” เปิดเผยผลการสำรวจชาวเวียดนามพบว่ากลุ่มตัวอย่าง 57.7% ให้ความสำคัญหรือชื่นชอบกับการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงวันตรุษเวียดนามหรือเต็ต (Tet Holiday) และนิยมท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา 22.9% ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงอาหาร และ 13.7% ชื่นชอบการท่องเที่ยวทางทะเล ในขณะเดียวกัน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เลือกแพ็คเก็จทัวร์ 1-3 คืน นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิตินักท่องเที่ยวในปีที่แล้ว พบว่าเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.5 เท่าจากปี 2565 เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ต้นปีที่ 57%

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnamese-holidaymakers-prioritise-domestic-tourism-during-tet-holiday-report-2245880.html

สายการบินลาวเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ เพื่อให้เข้าถึงประเทศลาวได้มากขึ้น

เพื่อเพิ่มการเดินทางให้เข้าถึงประเทศลาวได้มากขึ้น สายการบินลาวเปิดตัวเส้นทางระหว่างประเทศใหม่ ได้แก่ เส้นทางสะหวันนะเขตและกรุงเทพฯ เวียงจันทน์และพนมเปญ รวมถึงเวียงจันทน์และดานัง เริ่มวันที่ 15 มีนาคม 2567 เที่ยวบินสะหวันนะเขต-กรุงเทพฯ จะทำการบินทุกๆ วันจันทร์ พุธ และศุกร์ เพื่อเชื่อมโยงระหว่างลาวกับไทย และจะตามมาด้วยเส้นทางเวียงจันทน์-พนมเปญ เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2567 โดยให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในทุกๆ วันอังคาร พฤหัสบดี และวันเสาร์ นอกจากนี้ เที่ยวบินจะเปลี่ยนเส้นทางระหว่างลาวและเวียดนาม โดยเส้นทางเวียงจันทน์-ดานัง เริ่มบินตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2567 โดยให้บริการ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/01/31/lao-airlines-introduces-new-regional-routes/

แขวงบ่อแก้วเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับการลงทุนในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ

เจ้าหน้าที่แขวงบ่อแก้ววางแผนที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดผ่านการเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับวัฒนธรรม ธรรมชาติ และการลงทุนในประเทศลุ่มน้ำโขงอื่นๆ ขณะเข้าร่วมการประชุมด้านการท่องเที่ยว ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ นายบุญคง นามมะวงศ์ เจ้าแขวงบ่อแก้ว กล่าวว่า แขวงจะสร้างกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับความคิดริเริ่มด้านการท่องเที่ยวในแขวงอื่นและประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะพยายามส่งเสริมการค้าและการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ตลอดจนสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่กระชับการเชื่อมโยงกับจีน ไทย และเวียดนาม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_23_Bokeo_y24.php

ใบอนุญาตก่อสร้าง 147 ใบ ได้รับการอนุมัติในพื้นที่โดย YCDC ในช่วงครึ่งเดือนแรกของมกราคม

มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างทั้งหมด 57 ฉบับภายในขอบเขตของคณะกรรมการพัฒนาเมืองย่างกุ้ง (YCDC) ในสัปดาห์ที่สองของเดือนมกราคม นอกจากนี้ เกี่ยวกับการยื่นขอ Building Complete Certificate (BCC) มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างแล้ว 147 ฉบับภายในสองสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม โดยใบรับรองการสร้างเสร็จของอาคาร (BCC) ได้รับการอนุมัติสำหรับอาคาร 41 หลัง และรายชื่ออาคาร 25 หลังที่มีการยื่นขอใบรับรองการสร้างเสร็จของอาคาร ตั้งแต่ 4 ถึง 17 ห้องได้ถูกส่งต่อไปยังบริษัท Yangon Electricity Supply Corporation (YESC) และได้ส่งการรับรองไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการขอใบรับรองการสร้างเสร็จของอาคารจำเป็นต้องรวม Standard Operation Procedure (SOP) เพื่อสื่อสารกับการไฟฟ้าฯ โดยเจ้าของที่ดินและผู้รับเหมาที่ได้รับใบอนุญาตในการรับไฟฟ้า ซึ่งในสัปดาห์นี้ ผู้รับเหมาที่ได้รับใบอนุญาตจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมเพื่อขอรับ BCC และติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับอาคารต่างๆ โดยมีบริษัท Yangon Electricity Supply Corporation YESC เป็นผู้รับผิดชอบในการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/147-construction-permits-granted-in-ycdc-area-in-h1-jan/#article-title

ท่าเรือย่างกุ้งรายงายว่าเรือคอนเทนเนอร์ 53 ลำจะมาถึงในก.พ.นี้

การท่าเรือเมียนมาได้ประกาศว่ามีเรือคอนเทนเนอร์จำนวน 53 ลำเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือย่างกุ้งในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เรือคอนเทนเนอร์โดย Maersk Line, Cosco Shipping Line และ Samudera Shipping Line จำนวน 6 ลำแต่ละลำดำเนินการ, โดย CMA CGM Line และ SITC Shipping Line จำนวน 6 ลำ, โดย MSC Line จำนวน 4 ลำ, โดย BLPL Shipping Line จำนวน 3 ลำ, โดย Evergreen Line, ONE Line, RCL เรือ Line และ Ti2 Container Line จำนวน 2 ลำ, โดย IAL Shipping Line และ PIL Line 1 ลำ โดย BAY Line และ Land and Sea มีกำหนดเข้าสู่ท่าเรือย่างกุ้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม เรือ 49 ลำเทียบท่าที่ท่าเรือย่างกุ้ง อย่างไรก็ดี ในปี พ.ศ. 2566 ท่าเรือย่างกุ้งรองรับเรือคอนเทนเนอร์จำนวน 629 ลำ เนื่องจากการขยายร่องน้ำทำให้เรือเดินสมุทรระหว่างประเทศจึงสามารถเข้าถึงท่าเรือชั้นใน และท่าเรือสามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ เรือขนาดใหญ่ประสบปัญหาร่างที่ทำให้ไม่สามารถเดินเรือในแม่น้ำย่างกุ้งได้ แต่ด้วยการขยายร่องน้ำออกไปถึง 10 เมตร ทำให้เรือเดินสมุทรขนาดยักษ์จึงสามารถเข้าสู่ท่าเรือติลาวาได้มากขึ้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/yangon-port-53-container-vessels-slated-to-arrive-in-feb/#article-title

จำนวนธุรกรรมการชำระเงินผ่านมือถือภายในกัมพูชาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2023

ปริมาณการชำระเงินผ่านระบบมือถือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2023 ตามรายงานของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) โดยในรายงานระบุเสริมว่าสถาบันบริการชำระเงิน (PSI) 33 แห่ง และสถาบันการเงินและธนาคาร (BFI) 2 แห่ง ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจการชำระเงินในปีที่แล้ว โดยมีผู้ใช้บัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ลงทะเบียนแล้วทั้งหมด 19.7 ล้านราย ซึ่งจำนวนธุรกรรมการชำระเงินผ่านมือถือทั้งหมดเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.7 หรือคิดเป็นจำนวน 601.3 ล้านครั้ง ในปี 2023 โดยมีมูลค่ารวม 75.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 ด้าน CheaSerey ผู้ว่าการ NBC กล่าวว่าบริการชำระเงินดิจิทัลมีส่วนช่วยยกระดับการเข้าถึงบริการทางการเงิน ส่งเสริมนวัตกรรม และมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยแก่ผู้ใช้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501432035/cambodias-mobile-payments-continue-to-rise-in-2023/

ประชาชนคนกัมพูชาฝากเงินเพิ่มขึ้น 13% ในปี 2023

การออมเงินกับธนาคารของคนกัมพูชาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยมีเงินฝากเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 สำหรับในปี 2023 ตามการรายงานของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ซึ่งคิดเป็นสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่มูลค่าสะสมรวม 57.6 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว ภายใต้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคสินเชื่อสำหรับอุตสาหกรรมโรงแรมและภัตตาคารเกือบทรงตัว โดยมีการเติบโตร้อยละ 0.6 ในขณะที่ภาคการค้าส่งปริมาณสินเชื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 การจำนองเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 กิจกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9 และภาคการก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 อย่างไรก็ตามการเติบโตของสินเชื่อโดยรวมชะลอตัวลงร้อยละ 4.8 ต่ำสุดในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในภาคธนาคารและภาคการเงินรายย่อยเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 และ 6.7 ตามลำดับ ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501431741/cambodians-saved-13-more-in-2023/

พีระพันธุ์ เคาะอุ้มเบนซินต่อ ดึงเงินกองทุนโปะเพิ่ม 1 บ. แทนภาษีสรรพสามิต

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) โดยมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เห็นชอบการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าพยุงราคากลุ่มน้ำมันเบนซิน 1 บาทต่อลิตร เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เนื่องจากสิ้นสุดมาตรการลดการจัดเก็บภาษีกรมสรรพสามิตน้ำมันกลุ่มเบนซิน 1 บาท(7 พฤศจิกายน 2566-31 มกราคม 2567) เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน ประกอบกับปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังมีความผันผวน โดยราคาน้ำมันเบนซินระหว่างวันที่ 1-30 มกราคม 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 95.72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยการดูแลราคาเป็นการปฏิบัติภารกิจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2562 ในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานยังมีความผันผวน รายงานข่าวแจ้งว่า มาตรการลดราคากลุ่มน้ำมันเบนซิน ตั้งแต่ 7 พฤศจิกายน 2566-31 มกราคม 2567 ใช้กลไกลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน 1 บาทต่อลิตร จากกระทรวงการคลัง ร่วมกับเงินอุดหนุนจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ทำให้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินลดลงสูงสุด 2.50 บาทต่อลิตร ประกอบด้วย ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาทต่อลิตร ราคาน้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 1 บาทต่อลิตร ขณะที่ อี20 และ อี85 ลดลง 80 สตางค์ต่อลิตร ดังนั้นเมื่อมาตรการภาษีจบลง กองทุนน้ำมันฯจะเข้าอุดหนุนส่วนต่างทั้งหมด

ที่มาภาพจาก : มติชนออนไลน์, ประชาชาติธุรกิจ

ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_4403115