ท่าเรือ สปป.ลาว-มาเลเซีย มองหาช่องทางการเชื่อมโยงระหว่างกัน

Sake Philangam กรรมการผู้จัดการของท่าเรือบกท่านาแล้ง สปป.ลาว และ Mr. Wan Ahmad Azheed Wan Mohamad กรรมการผู้จัดการกลุ่มและซีอีโอของ Mutiara Perlis Sdn Bhd ได้จัดพิธีลงนามในบันทึกความร่วมมือระหว่างกัน (MoC) โดยมีนายกรัฐมนตรีของ สปป.ลาว และมาเลเซียร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความต้องการในการเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ระหว่างกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าการลงทุนต่อไปในอนาคต ขณะที่รัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งชาติลาวและการรถไฟมาเลเซีย Keretapi Tanah Melayu Berhad (KTMB) ก็ได้ลงนามใน MoC ที่คล้ายคลึงกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการขนส่งทางราง หวังเชื่อมโลจิสติกส์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งหากเกิดการเชื่อมกันอย่างสมบูรณ์จะช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการขนส่งลงอย่างมาก โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าไปยังจีนที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญของกลุ่มประเทศอาเซียน ยกตัวอย่างเช่น การขนส่งทุเรียนจากประเทศไทยผ่านทางรถไฟใช้เวลาเพียง 3 วัน ในการขนส่งไปยังจีน เร็วกว่าการขนส่งแบบดังเดิมถึงสองเท่า และด้วยความได้เปลี่ยนนี้คาดว่าจะถือเป็นการดึงดูดนักลงทุน เข้ามาลงทุนยังภูมิภาคมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง สปป.ลาว ยังได้เพิ่มสิ่งจูงใจในการเข้ามาลงทุนอีกมากมาย เช่น ยกเว้นภาษีนิติบุคคล 8-16 ปี การลดหย่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น อีกทั้ง สปป.ลาว ยังมีข้อตกลงทางด้านการค้าอีกหลายฉบับกับนานาประเทศทั่วโลก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_LaoMalasian125.php

นายกฯ มาเลเซียเยือน สปป.ลาว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี

การมาเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ ของนายกรัฐมนตรี Datuk Seri Anwar Ibrahim นายกฯ มาเลเซีย ในช่วงวันที่ 26-27 มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันหลัง สปป.ลาว จะต้องเป็นประธานในการจัดการประชุมอาเซียนในปีหน้าที่จะต้องรับตำแหน่งต่อจากอินโดนีเซีย โดยผู้นำทั้งสองพร้อมที่จะเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoC) ระหว่าง Keretapi Tanah Melayu Berhad (KTMB) และรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งชาติ สปป.ลาว (LNRSE) รวมถึง Mutiara Perlis Sdn Bhd (MPSB) ขณะที่ท่าเรือบกท่านาแล้ง (TDP) กล่าวว่า การค้าทวิภาคีระหว่างมาเลเซียและ สปป.ลาว เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 425 จากมูลค่าการค้ารวม 48.7 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 เป็น 255.6 ล้านดอลลาร์ ในปี 2022 เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของมาเลเซียที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งมาเลเซียยังคงเป็นกลุ่มประเทศผู้เข้ามาลงทุนโดยตรงมายัง สปป.ลาว (FDI) รายใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ รองจากจีน ไทย และเวียดนาม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในโครงการลงทุนภาคพลังงาน เขตการค้าเสรี ยานยนต์ และการธนาคาร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten122_PM_Anwar_y23.php

เศรษฐกิจชายแดนสตูล-มาเลเซียคึกคัก รับเดือนรอมฎอน เงินสะพัดสองสัปดาห์ 10 ล้านบาท

เศรษฐกิจชายแดนต้อนรับเดือนรอมฎอน ที่จังหวัดสตูลคึกคักมีรายได้สะพัดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา 10 ล้านบาท นักท่องเที่ยวไทยมุสลิมแห่จับจ่ายเพื่อเข้าสู่เดือนถือศีลอด และที่ตลาดชายแดนวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ซึ่งติดต่อกับบ้านวังเกลียน ประเทศมาเลเซีย มีการจับจ่ายก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอนคึกคักมีชาวไทยมาเลเซียและนักท่องเที่ยวไทยมุสลิมเข้าจับจ่ายซื้อสิ่งของจำเป็นใช้สำหรับเดือนถือศีลอด โดยเฉพาะอินทผาลัม น้ำมัน น้ำตาล ผลไม้อบแห้ง ของใช้ในครัวเรือน สร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดชายแดนกันคึกคัก ทั้งนี้ นายกฤดิพรรธน์ สิงห์อุบลปิติกุล ด่านศุลกากรวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล เปิดเผยว่าตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวไทยและมาเลเซียมาจับจ่ายกันคึกคักเพื่อเตรียมข้าวของ อาหารแห้งไว้สำหรับการละศีลอด และเพื่อท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายที่ตลาดชายแดนแห่งนี้กันคึกคึก รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากพ่อค้าแม่ค้าที่มาวางขายกว่า 50 ร้านสร้างเม็ดเงินสะพัดสูงถึง 10 ล้านบาท และเชื่อว่าในช่วงเทศกาลฮารีรายา บรรยากาศลักษณะนี้จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ที่มา : https://siamrath.co.th/n/433026

CDC ให้การสนับสนุนภาคธุรกิจมาเลเซียในกัมพูชา

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) พร้อมที่จะให้บริการและสนับสนุนแก่นักลงทุนชาวมาเลเซียในกัมพูชา เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมายังกัมพูชามากขึ้น ด้าน Sok Chenda Sophea เลขาธิการสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา กล่าวในการประชุม ‘การเจรจาระดับสูงอาเซียน-อิตาลีว่าด้วยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ’ ครั้งที่ 6 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเลขาธิการ CDC กล่าวว่า ปัจจุบันกัมพูชาได้ออกกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ เพื่อเป็นการสนับสนุนนักลงทุนและเป็นการสร้างแรงจูงใจแก่นักลงทุนมากขึ้น ในการเข้ามาลงทุนยังกัมพูชา ด้าน Lim Heng รองประธานหอการค้ากัมพูชา กล่าวว่า ในเดือนมิถุนายนกัมพูชาจะสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติจากมาเลเซียและประเทศอื่น ๆ ได้มากขึ้น อันเนื่องมาจากข้อตกลงทางการค้า อาทิเช่น EBA, GSP, FTA กัมพูชา-จีน และ RCEP ที่ถือเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต่างชาติสนใจ โดยในช่วง มกราคม-พฤษภาคม ปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและมาเลเซียอยู่ที่ 244 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิต ซึ่งคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 44 ล้านดอลลาร์ ไปยังมาเลเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 จากปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501108010/cdc-offers-support-for-malaysian-businesses-in-cambodia/

“เวียดนาม-มาเลเซีย” จับมือส่งเสริมเศรษฐกิจการป่าไม้

เวียดนามและมาเลเซีย ได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOC) เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการค้าไม้ของทั้งสองประเทศ โดยผู้มีลงนาม ได้แก่ สมาคมผู้ส่งออกไม้มาเลเซีย (TEAM), สภาเฟอร์นิเจอร์มาเลเซีย (MFC), สมาคมไม้และผลิตภัณฑ์ป่าไม้เวียดนาม (VIFOREST), สมาคมเฟอร์นิเจอร์จังหวัดด่งนาย (BIFA), สมาคมหัตถกรรมและอุตสาหกรรมไม้จังหวัดด่งนาย (DOWA) และสมาคมอุตสาหกรรมไม้แห่งนครโฮจิมินห์ (HAWA) ทั้งนี้ นาย Muhtar Suhaili ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Malaysian Timber Council (MTC) กล่าวว่ามาเลเซียมุ่งที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมไม้อย่างยั่งยืนและได้รับประโยชน์จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของเวียดนามที่ไหลเข้าไปยังอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่อย่างสหภาพยุโรปผ่านข้อตกลงการค้าเสรี นอกจากนี้ การบันทึกความร่วมมือดังกล่าว สอดคล้องกับข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนในการลดช่องว่างการพัฒนาของกลุ่มประเทศและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของภูมิภาค

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-malaysia-partner-in-promoting-timber-trade/231349.vnp

นักลงทุนมาเลเซียเข้าลงทุนในกัมพูชามูลค่ารวมกว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้รายงานถึงการจดทะเบียนโครงการลงทุนของมาเลเซียรวมจำนวน 162 โครงการ มูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดย CDC ได้กล่าวรายงานในการประชุมระหว่างรองเลขาธิการคณะกรรมการการลงทุนกัมพูชาของ CDC และเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำกัมพูชา ซึ่งผู้แทนมาเลเซียแสดงความสนใจที่จะลงทุนเพิ่มเติมในด้านการศึกษา อสังหาริมทรัพย์ เหมืองแร่ และพลังงานในระหว่างการประชุม

โดยปัจจุบันกัมพูชามีข้อตกลงพิเศษทางการค้า ได้แก่ FTA กับจีน เกาหลีใต้ ไปจนถึง RCEP และ GSP ของสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา และ EBA ของสหภาพยุโรป ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่จะดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในกัมพูชามากขึ้นจากผลประโยชน์ทางการค้าต่างๆ อย่างเช่นมาเลเซียซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติกลุ่มสำคัญของกัมพูชาในภาคอสังหาริมทรัพย์ โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า และโรงงานแปรรูป ปัจจุบันปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชา-มาเลเซียเกินกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501048791/3-2-billion-worth-malaysia-investment-projects-registered-in-cambodia/

ชี้ช่องใช้ประโยชน์ RCEP ส่งออกตลาด เกาหลี-มาเลเซีย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้เร่งรัดให้หน่วgdยงานภาครัฐดำเนินการกระบวนการภายในในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้สิทธิประโยชน์จาก RCEP กับเกาหลีใต้และมาเลเซียที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ สำหรับเกาหลีใต้จะยกเว้นภาษีสินค้าให้ไทย 90.7% ของรายการสินค้าทั้งหมด โดยยกเว้นภาษีทันที 7,843 รายการ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และเปิดตลาดเพิ่มเติม 413 รายการ  ส่วนมาเลเซียจะยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าให้ไทย 90% ของรายการสินค้าทั้งหมด โดยวันที่ 18 มีนาคม 2565 จะยกเว้นภาษีทันที 6,590 รายการ

ที่มา:  https://www.naewna.com/business/632118

‘ADB’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจมาเลเซียและเวียดนาม

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจเวียดนามและมาเลเซียในปีนี้ หลังจากเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาสที่ 3 ขณะเดียวกันปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาของเอเชียลงมาสู่ระดับ 7.0% ในปีนี้ และ 5.3% ในปี 2565 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.1% และ 5.4% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ตามรายงาน “Asian Development Outlook” ระบุว่าในกลุ่มประเทศเอเชีย จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มลดลง และระดับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ดี ไวรัสตัวใหม่ที่มีชื่อว่า “โอมิครอน” เสี่ยงคุกคามเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง นอกจากนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม คาดว่าจะปรับตัวลดลงอยู่ที่ 2.0% ในปีนี้ จากที่คาดการณ์เดิมที่ระดับ 3.8% ก่อนที่จะขยายตัว 6.5% ในปีหน้า ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของมาเลเซีย คาดว่าจะขยายตัว 3.8% ในปีนี้ และ 5.9% ในปีหน้า

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Economy/ADB-slashes-Malaysia-and-Vietnam-annual-growth-forecasts

เอกอัครราชทูตมาเลเซีย หนุนข้อตกลงด้านภาษี กระตุ้นการลงทุน

เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำกัมพูชา กล่าวถึงข้อตกลงเกี่ยวกับการเก็บภาษีซ้อน (DTA) ระหว่างมาเลเซียและกัมพูชาที่จะมาแก้ไขปัญหาเกี่ยวการจัดเก็บภาษีที่ซ้ำซ้อนระหว่างกันในช่วงปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีการลงทุนในกัมพูชามากขึ้น และชาวกัมพูชาจะเข้าถึงสินค้าและบริการของมาเลเซียมากขึ้น รวมถึงทำให้สภาพแวดล้อมทางภาษีของมาเลเซียและกัมพูชาชัดเจนเกี่ยวกับรายได้ทุกรูปแบบที่เกิดจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดระหว่างทั้งสองประเทศ โดยนักธุรกิจและนักลงทุนชาวมาเลเซียที่มองหาโอกาสในการลงทุนในกัมพูชาจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงนี้ ในทำนองเดียวกัน นักธุรกิจชาวกัมพูชาที่ใช้มาเลเซียเป็นแหล่งสินค้าก็จะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงนี้เช่นกัน ซึ่งมูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและมาเลเซีย ในปัจจุบันลดลงกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปีที่แล้ว มาเลเซียถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 3 ในกัมพูชา รองจากจีนและเกาหลีใต้ ที่มูลค่าการลงทุนรวม 3.53 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50961054/malaysia-ambassador-tax-deal-will-bolster-investment/

ประทานสภาธุรกิจมาเลเซียวางแผนส่งเสริมการค้าและการลงทุนในกัมพูชา

ประธานสภาธุรกิจมาเลเซียประจำกัมพูชา (MBCC) วางแผนเชื่อมโยงกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องและภาคธุรกิจอื่นๆ อย่างแข็งขัน โดยมีเป้าหมายเพื่อดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจและกิจกรรมทางสังคมในกัมพูชา ซึ่งในปัจจุบัน MBCC มีสมาชิกประมาณ 70 ถึง 80 ราย ที่เป็นนักธุรกิจชาวมาเลเซียซึ่งดำเนินธุรกิจในกัมพูชา โดยวางแผนที่จะดึงดูดนักธุรกิจชาวมาเลเซียมายังกัมพูชามากขึ้น ซึ่งโดยเฉพาะนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย เช่น การธนาคาร สถาบันการเงิน พลังงาน โทรคมนาคม การผลิต บริการ การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และร้านค้าปลีก เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50887084/mbccs-new-president-foresees-more-malaysian-businesses-in-cambodia/