รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ชี้ เศรษฐกิจ สปป.ลาว ยังมีศักยภาพ แม้เผชิญปัญหาทางการเงิน

วิเวียน บาลา กริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวระหว่างการเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ “สปป.ลาว มีศักยภาพทางเศรษฐกิจมหาศาล แม้จะเผชิญปัญหาทางการเงิน และเศรษฐกิจจะเจริญเติบโตได้ หากมีโครงสร้างพื้นฐานและกรอบนโยบายที่เหมาะสม” โดยสิงคโปร์สามารถทำงานอย่างใกล้ชิดกับลาว เพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้นผ่านการศึกษาและการฝึกอบรม ตลอดจนให้ความช่วยเหลือแก่ สปป.ลาว เข้าสู่ตลาดโลก รวมถึงการขายคาร์บอนเครดิต

ที่มา : https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/singapore-can-help-laos-realise-its-potential-says-vivian-as-the-2-nations-mark-50-years-of-diplomatic-ties?utm_campaign=stfb&utm_medium=social&utm_source=facebook&fbclid=IwAR1k3_HFuLL-O-WcipGYQwcsMHWZgvkc2W5oZuLlTYxEk0KD7dadmvmfuU4

‘เวียดนาม’ เผย ม.ค.-พ.ย. เม็ดเงินลงทุนใหม่จากต่างประเทศ พุ่ง 14.8%

กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่ายอดเงินลงทุนใหม่จากต่างประเทศในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย.66 อยู่ที่ 28.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจากจำนวนเงินลงทุนข้างต้น พบว่าโครงการที่จดทะเบียนใหม่ ยอดปรับเพิ่มเงินทุนและการเข้าซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน การเบิกจ่ายการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของเวียดนาม ทำสถิติสูงสุดที่ 20.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลมาจากการสนับสนุนและความร่วมมือของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหากฎหมาย นอกจากนี้ สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีมูลค่าลงทุนมากกว่า 4.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาฮ่องกงและเกาหลีใต้

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/new-foreign-investments-in-jan-nov-rise-14-8-y-o-y/

‘เวียดนาม’ พัฒนาทางการเงินร่วมกับออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและสิงคโปร์

นาย โฮ ดึก ฟอก (Ho Duc Phoc) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเวียดนาม ได้หารือกับนายจิม ชาลเมอร์ส เหรัญญิกของออสเตรเลีย รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนที่ 2 ของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. เนื่องการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ครั้งที่ 30 ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยการหารือกับออสเตรเลียเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียจนถึงปี 2040 และความร่วมมือในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเงินที่ยั่งยืน ตลอดจนบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการคลังเวียดนามและออสเตรเลีย

ในขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ได้รับคำแนะนำให้ดำเนินตามกรอบความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) ฉบับใหม่ที่ตกลงกันระหว่างการเยือนญี่ปุ่นของนายกฯ รัฐมนตรีเวียดนาม เมื่อเดือน พ.ค.65 นอกจากนี้ รัฐมนตรีของสิงคโปร์กล่าวชื่นชมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศที่มุ่งไปทึ่ความร่วมมือทางการเงิน ศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์ และการจัดการตลาดหลักทรัพย์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-advances-financial-cooperation-with-australia-japan-singapore/271201.vnp

‘ลาว-สิงคโปร์’ ร่วมประชุมหารือทวิภาคี ตอกย้ำความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน

กระทรวงการต่างประเทศลาวและสิงคโปร์ จัดการประชุมทวิภาคีความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยทั้งสองฝ่ายได้ทบทวนความคืบหน้าในความพยายามร่วมกันในการปกป้องสิ่งแวดล้อม การจัดการแหล่งน้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ ฝ่ายลาวได้ขอให้รัฐบาลสิงคโปร์สนับสนุนให้นักธุรกิจสิงคโปร์เข้าลงทุนในลาวมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในด้านการเกษตร พลังงานสะอาด การท่องเที่ยวและโรงแรม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_Laosomga201_23.php

ม.ค.-ส.ค. กัมพูชาส่งออกไปยังสิงคโปร์โตกว่า 555%

ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมของปีนี้ กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสิงคโปร์ขยายตัวกว่าร้อยละ 554.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากมูลค่า 72.83 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 476.90 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากสิงคโปร์ อยู่ที่ 622.77 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 78.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าการค้าทวิภาคีอยู่ที่ 1.10 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ข้อมูล GDCE แสดงให้เห็นว่าการส่งออกไปยังสิงคโปร์มีการเติบโตสูงที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ที่กัมพูชามีการทำการค้าด้วย ขณะที่การส่งออกของกัมพูชา ณ สิ้นเดือนสิงหาคม อยู่ที่มูลค่าประมาณ 15.69 พันล้านดอลลาร์ โดยสิงคโปร์ยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 6 ของกัมพูชา รองจากจีน สหรัฐฯ เวียดนาม ไทย และญี่ปุ่น ตามลำดับ ซึ่งในเดือนสิงหาคมเพียงเดือนเดียว การส่งออกของกัมพูชาไปยังสิงคโปร์มีการเติบโตร้อยละ 556.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก 4.3 ล้านดอลลาร์ เป็น 28.8 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่กัมพูชาส่งออกสินค้าประเภท ไข่มุก หินมีค่า โลหะ สินค้าที่ผลิตมาจากยาง เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และรองเท้า เป็นสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนชาวสิงคโปร์เข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพื่อผลิตและส่งออกเพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501359846/cambodias-exports-to-spore-rise-by-555-in-jan-aug/

‘สิงคโปร์’ นักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเมียนมา

จากสถิติของคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารเมียนมา เปิดเผยว่าในช่วง 4 เดือน (เม.ย.-ก.ค.) ของปีงบประมาณ 2566-2567 สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเมียนมา มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อยู่ที่ 335 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยธุรกิจสิงคโปร์ส่วนใหญ่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พลังงานและภาคอุตสาหกรรม ในขณะที่จีนเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับ 2 ในเมียนมา ด้วยเงินลงทุนประมาณ 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เมียนมาดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 467.793 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตได้รับเงินทุนจากต่างประเทศมากที่สุด และอนุมัติโครงการจากต่างประเทศ จำนวน 18 โครงการ จาก 6 ประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/singapore-leads-myanmars-fdi-rankings-over-last-4-months/#article-title

นายกฯ ฮุน เซน เร่งส่งออกข้าวพรีเมียมไปยังสิงคโปร์มากขึ้น

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ได้เรียกร้องให้ผู้ประกอบการส่งออกข้าวเกรดพรีเมียมไปยังสิงคโปร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันข้าวพรีเมียมเป็นที่ต้องการของสิงคโปร์อีกทั้งยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าเกษตร โดยกัมพูชาคาดว่าจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายสำคัญให้กับสิงคโปร์ในระยะต่อไป อีกทั้งสิงคโปร์ยังให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายล้านคนในแต่ละปี ทำให้สิงคโปร์ต้องนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ เพื่อรองรับกับความต้องการที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งข้าวของกัมพูชา (Phka Rumduol) ได้รับรางวัล World’s Best Rice 2022 Award จากงาน World Rice Conference (WRC) โดยนับเป็นการได้รับรางวัลครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมข้าวของกัมพูชา แสดงถึงคุณภาพและมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล สำหรับการส่งออกข้าวของกัมพูชาในช่วง 5 เดือนแรกของปีแตะ 278,184 ตัน ไปยัง 50 ประเทศทั่วโลก สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 191 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของสมาพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) ด้านนายกฯ ยังขอให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาส่งเสริมและสนับสนุนสินค้า วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของกัมพูชาผ่านการทูตเชิงพาณิชย์ต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501317626/pm-urges-premium-rice-exports-to-singapore/

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปี 66 ดึงดูดเม็ดเงินทุน FDI แตะ 10.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ (FIA) เปิดเผยข้อมูลเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามายังเวียดนามตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงวันที่ 20 พ.ค.66 รวมถึงการลงทุนใหม่ การปรับเพิ่มเงินลงทุนและการซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ พบว่ามีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นราว 10.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 10.6 จุดเมื่อเทียบกับตัวเลขในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้

ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่ามากกว่า 6.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาภาคการเงินธนาคาร อสังหาริมทรัพย์และวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี ในขณะที่สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ลงทุนไปกว่า 2.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยญี่ปุ่นและจีน อีกทั้ง ฮานอย (Hanoi) เป็นเมืองที่ได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด มีมูลค่ากว่า 1.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 17.2% ของเงินลงทุนรวม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1544340/viet-nam-s-five-month-fdi-reached-nearly-us-10-86-billion.html

“เวียดนาม” เผยไตรมาสแรกปี 66 เม็ดเงินทุนต่างชาติไหลเข้าลดลง 39%

จากรายงานของสำนักงานส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศของเวียดนาม (FIA) ระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2566 เวียดนามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ มีมูลค่าราว 5.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และจากตัวเลขการลงทุนข้างต้น มีเงินทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไหลเข้าไปยังโครงการใหม่ จำนวน 522 โครงการ ตามมาด้วยเงินทุนกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไหลเข้าไปยังโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 228 โครงการ

ทั้งนี้ หากพิจารณาสัดส่วนการลงทุนในสาขาอุตสาหกรรมสำคัญของเวียดนาม พบว่าอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปมีสัดส่วนการลงทุนจากต่างชาติมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 73% รองลงมาอสังหาริมทรัพย์ 14.1% ในขณะที่ประเทศที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามมากที่สุด คือ สิงคโปร์มีมูลค่าการลงทุน 1.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 31% ของการลงทุนจากต่างประเทศ รองลงมาจีนและไต้หวัน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1502972/viet-nam-s-foreign-investment-plunges-39-per-cent-in-q1.html

สำนักงานตลาดพลังงานสิงคโปร์ วางแผนนำเข้าพลังงานสะอาดจากกัมพูชา

สำนักงานตลาดพลังงานสิงคโปร์ (EMA) ได้อนุมัติภายใต้เงื่อนไขสำหรับการนำเข้าพลังงานสะอาดจำนวน 1 กิกะวัตต์ (GW) จากกัมพูชาส่งไปยังสิงคโปร์ ผ่านสายเคเบิลใต้ทะเลระยะทางกว่า 1,000 กม. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การนำเข้าพลังงานที่กำลังดำเนินอยู่ของสิงคโปร์ โดยการอนุมัติดังกล่าวมอบหมายให้กับ Keppel Energy ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจพลังงานของสิงคโปร์ ในการต่อยอดจากการที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ไปเมื่อปีที่แล้ว ว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงาน ขณะที่ PV Tech Premium อีกหนึ่งบริษัทด้านพลังงานของสิงคโปร์ วางแผนที่จะนำเข้าพลังงานหมุนเวียนจำนวน 4 GW ภายในปี 2035

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501259849/singapores-ema-gives-conditional-nod-to-project-importing-1gw-of-clean-energy-from-cambodia-inked-with-royal-group/