มณฑลฉงชิ่งของจีนมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับสปป.ลาวที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

มณฑลฉงชิ่งของจีนแสดงความปรารถนาที่จะยกระดับการค้าทวิภาคีกับสปป.ลาวโดยการสร้างเมืองแห่งมิตรภาพและตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าต่างๆระหว่างสองประเทศ ผู้แทนหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว (LNCCI) ในมณฑลฉงชิ่งได้ให้ข้อเสนอแนะในระหว่างการพบปะกับ Mrs Khamphao Ernthavanh เอกอัครราชทูตสปป.ลาวประจำประเทศจีนในขณะที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าการลงทุนและการค้าตะวันตกของจีนครั้งที่ 3 เจ้าหน้าที่จีนกล่าวว่าพวกเขาต้องการที่จะสร้างการค้าทวิภาคีต่อไป พวกเขายังหวังที่จะให้บริการเที่ยวบินระหว่างสปป.ลาวและจีนมากขึ้นเพื่อส่งเสริมการขยายธุรกิจของจีนในสปป.ลาวและส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_China_99.php

7 เดือนแรกของปีงบฯ 63-64 ส่งออกข้าวของเมียนมาลดฮวบ 30 ล้านดอลลาร์ฯ

จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ 7 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้ (พ.ศ. 2563-2564) เมียนมาส่งออกข้าวและปลายข้าวกว่า 1.28 ล้านตันมีรายได้ 490.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 512,589 ตัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มูลค่าลดลงเหลือ 33.92 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณนี้ จีนเป็นผู้นำเข้าหลัก รองลงมาคือ ฟิลิปปินส์ โกตดิวัวร์ แคเมอรูน และกินีตามลำดับ ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปมีสัดส่วนการนำเข้า 20% ส่วนอีก 25% จะส่งออกไปยังกลุ่มประเทศในแอฟริกา ในปีงบประมาณที่แล้วเมียนมาส่งออกข้าวและปลายข้าวไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลก โดยจีนเป็นผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ตามความต้องการจากประเทศอื่นๆ เช่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย มาดากัสการ์ โปแลนด์ กินีเ บลเยียมเซเน กัลอินโดนีเซีย เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ได้เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้การส่งออกประมาณ 16% ผ่านทางชายแดนส่วนที่เหลือส่งออกทางทะเล

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-rice-export-down-by-us-30-mln-in-seven-months-of-this-fy/

บริษัทสัญชาติจีนวางแผนเพิ่มกิจกรรมระหว่างประเทศหลังการแพร่ระบาด

ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ธุรกิจของทั้งสองชาติจึงเปลี่ยนความสนใจไปยังประเทศทางฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจีนหันไปให้ความสำคัญกับกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังคงมีการพัฒนาน้อยอย่างกัมพูชา โดยสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) 10 ประเทศ ได้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จากทั่วโลกลดลงร้อยละ 31 ในปี 2020 แต่อย่างไรก็ตามจีนกลับเพิ่มการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนกว่า 14.36 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 51 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความสำคัญของจีนต่อภูมิภาคนี้ในปัจจุบัน โดยอาเซียนถูกมองว่าเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสามในเอเชียรองจากจีนและอินเดีย ซึ่งมีประชากรรวมถึง 660 ล้านคน รวมทั้งกลุ่มชนชั้นกลางก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นด้วย ปัจจุบันจีนถือเป็นแหล่ง FDI ลำดับต้นๆของกัมพูชา โดยมีเงินลงทุนเกือบ 900 ล้านดอลลาร์ ในช่วงปี 2020 ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นของ FDI จากทางจีนในกัมพูชาถึงร้อยละ 70

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50858253/chinese-firms-to-increase-post-pandemic-asean-activity/

จีนส่งชุดช่วยเหลือใหม่เพื่อสนับสนุนการสู้รบโควิด -19

การช่วยเหลือสปป.ลาวจากจีนในการต่อสู้กับโควิด-19 มูลค่า 15.5 พันล้านกีบ (10 ล้านหยวนจีน) มาถึงเวียงจันทน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สปป.ลาวเผชิญกับการระบาดที่รุนแรงขึ้นภายหลังพบผู้ติดเชื้อที่กลับจากประเทศไทย ณ วันที่ 10 พฤษภาคมจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด 1,327 ราย ในขณะที่การระบาดแพร่กระจายไปอย่างรุนแรงรัฐบาลได้ระดมความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่างๆและประเทศที่เป็นมิตรเพื่อเสริมทรัพยากรของรัฐบาลในด้านสาธารณสุข โดยจีนเป็นประเทศที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด การช่วยเหลือดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพที่เกิดขึ้นผ่านจิตวิญญาณของการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมของความร่วมมือระหว่างประเทศ

ที่มา :   https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_China_89.php

ทีมแพทย์จีนเดินทางถึงสปป.ลาวเพื่อช่วยต่อต้าน COVID-19

Mr.Kikeo Khaykhamphithoune รองนายกรัฐมนตรีลาวและเอกอัครราชทูตจีนประจำลาว Mr.Jiang Zaidong ตอนรับคณะแพทย์ที่รัฐบาลจีนส่งมาเพื่อช่วยเหลือสปป.ลาวท่ามกลางการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ในสปป.ลาว ทีมแพทย์ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในด้านการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อการดูแลผู้ป่วยหนักและเจ้าหน้าที่ทดสอบในห้องปฏิบัติการ พร้อมด้วยเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ด้วยความช่วยเหลือทางการแพทย์และเทคโนโลยีด้านการแพทย์ที่ทันสมัยของจีน จะช่วยให้สปป.ลาวยกระดับประสิทธิภาพของระบบสาธารณสุขให้มีระสิทธภาพมากขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่อาจรุนแรงขึ้น

ที่มา : https://english.cctv.com/2021/05/06/ARTILpvCC1NLqDXOb864KZye210506.shtml

จีนอนุมัติการส่งออกมะม่วงของกัมพูชาอย่างเป็นทางการ

จีนได้อนุมติให้กัมพูชาสามารถส่งออกมะม่วงที่ผลิตในท้องถิ่นของกัมพูชาและทำการแปรรูปในกลุ่มโรงงานขนาดเล็กที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ภายในประเทศกัมพูชาโดยจีน ซึ่งหน่วยงานบริหารทั่วไปของกรมศุลกากรจีน (GACC) อนุมัติโรงงานแปรรูปมะม่วง 5 แห่ง และสวนมะม่วงจำนวน 37 แห่ง อย่างเป็นทางการ โดย GACC ได้ทำการประกาศในสัปดาห์นี้และเปิดเผยรายชื่อโรงงานที่ได้รับอนุมัติได้แก่ Hyundai Mao Legacy Co Ltd., Shangda Jian Hui International Agriculture Product and Logistics Co Ltd., Al Jazeelan Food PTE Ltd., Long Wo Agriculture (Cambodia) Co Ltd. และ Boeung Ket Fresh Fruits Co Ltd. ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วเจ้าหน้าที่ของจีนและกัมพูชาได้ร่วมกันประเมินฟาร์มและโรงงานแปรรูปหลายแห่งเพื่อประเมินถึงความสามารถในการผลิตมะม่วงเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีนได้หรือไม่ โดยทั้งจีนและกัมพูชาได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งคาดว่าการส่งออกมะม่วงของกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภายใต้สนธิสัญญาการค้าฉบับใหม่

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50846766/mangoes-receive-official-approval-for-export-to-china/

นายกฯ สปป.ลาว – จีนจัดการเจรจาความสัมพันธ์ทวิภาคี

สปป.ลาวและจีนฉลองครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตและมิตรภาพลาว – ​​จีนในปี พ.ศ. 2564ในโอกาศนี้นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวและจีนได้พูดคุยทางโทรศัพท์เพื่อทำงานร่วมกันในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีหกทศวรรษระหว่างสองประเทศ ทั้งสองมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมสปป.ลาว – จีน ในด้านการค้า การลงทุนและด้านสาธารณะสุขที่เป็นด้านที่สำคัญที่ทางการจีนให้การช่วยเหลือสปป.ลาวมาโดยตลอด ในการพูดคุยพวกเขายังยกย่องความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือทวิภาคีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งรวมถึงทางด่วนที่เชื่อมระหว่างเวียงจันทน์ไปยังโบเตนในแขวงหลวงน้ำทาที่ติดชายแดนจีน ทั้งหมดนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่บ่งบอกถึงความสำเร็จของจีนและสปป.ลาวในการช่วยเหลือสนับสนุนเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_chinese_78.php

เส้นทางรถไฟสปป.ลาว – จีน แล้วเสร็จไปแล้วร้อยละ 80 ของโครงการรถไฟสปป.ลาว-จีน

การวางรางรถไฟสำหรับโครงการรถไฟลาว – ​​จีนขณะนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ 80 โดยส่วนสุดท้ายของเส้นทางมีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมปีนี้ โครงการนี้ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่การลงทุนในโรงสร้างพื้นฐานเช่น สร้างทางรถไฟ ทางยกระดับและอุโมงค์ แต่ยังมีการจ้างคนงานชาวสปป.ลาวจำนวนมากโดยร้อย 60 ของแรงงานในโครงการมาจากคนในท้องถิ่น โครงการรถไฟสปป.ลาว-จีน เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้ระบบการคมนาคมของสปป.ลาวพัฒนาและมีประสิทธิภาพเป็นจุดแข็งที่สำคัญในการนำพาประเทศไปสู่ “Land Link” ประทศที่เชื่อมต่อกับตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากจีน จุดนี้เองจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศและส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวของสปป.ลาว

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/04/18/laos-china-railway-track-80-per-cent-complete

บริษัท จีนลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการพัฒนาการเกษตรในสปป.ลาว

Jiarun Agricultural Development Co. , Ltd. ของจีนและกระทรวงการวางแผนและการลงทุนสปป.ลาวได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยการศึกษาความเป็นไปได้ในการฟื้นฟูป่าและการพัฒนาการเกษตรเชิงนิเวศ ในภาคใต้ของสปป.ลาว บริษัท จะดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับโครงการฟื้นฟูป่าและพัฒนาการเกษตรเชิงนิเวศในพื้นที่ 5,000 เฮกตาร์ในเขตสนามไซของแขวงอัตตะปือห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 560 กม. โครงการนี้จะสร้างงานในท้องถิ่นกว่า 50,000 ตำแหน่งซึ่งจะส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่นและมาตรฐานการดำรงชีวิตของคนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2021-04/08/c_139866707.htm

กัมพูชาวางแผนตั้งศูนย์การค้าภายในประเทศจีน

กระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการเพื่อจัดตั้งศูนย์การค้าเพิ่มเติมในจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสินค้าที่ผลิตภายในกัมพูชาและส่งเสริมการส่งออกของประเทศไปยังจีน ซึ่งกระทรวงกล่าวว่าจะมีการจัดตั้งศูนย์การค้าอีกอย่างน้อย 5 แห่ง ในประเทศจีน ทำให้จำนวนศูนย์การค้าของกัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็น 11 แห่ง จากเดิมที่ดำเนินการในปัจจุบันอยู่แล้ว 6 แห่ง โดยการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จากทั้งสองประเทศตั้งความหวังไว้สูงมากในการส่งเสริมการค้าระหว่างกัน โดยรองประธานหอการค้ากัมพูชา (CCC) กล่าวว่านักธุรกิจจะมีโอกาสมากขึ้นจากการที่เข้าถึงผลิตภัณฑ์ของกัมพูชาได้ง่ายขึ้น ซึ่งจากข้อมูลสถิติแสดงให้เห็นว่าการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนในปี 2020 ลดลงร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50835069/more-trade-centers-planned-for-china/