สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาด GDP ‘เวียดนาม’ ปี 65 โต 6.7%

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดและเติบโตได้ราว (GDP) 6.7% ปี 2565 และในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นเป็น 7% เนื่องจากเห็นสัญญาแนวโน้มระยะกลางเชิงบวก โดยเศรษฐกิจเวียดนามจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2565 ในขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกดีขึ้น ทั้งนี้ เงินเฟ้อจะกลายเป็นความกังวลมากขึ้นต่อเวียดนามในปีนี้ ปัจจัยทางฝั่งอุปทาน (ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น) เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในระยะกลาง และแรงกดดันด้านอุปสงค์จะสร้างผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต นอกจากนี้ ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4% ในปี 2565 เพื่อรองรับกับการขยายตัวของสินเชื่อและบริหารจัดการความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1114426/standard-chartered-forecasts-viet-nam-2022-gdp-growth-at-67-per-cent.html

 

ธนาคารโลกคาดการณ์ปีนี้เศรษฐกิจกัมพูชาโต 4.5%

ธนาคารโลกคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปีนี้จะโตถึงร้อยละ 4.5 และคาดว่าจะเติบโตถึงร้อยละ 5.5 ในปี 2023 ซึ่งในปัจจุบันยังคงต้องคอยติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ Omicron ที่จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมถึงผลกระทบต่อภาคการเงิน โดยเฉพาะในด้านของการชำระหนี้สินที่มีความเปราะบางอยู่ในปัจจุบัน สอดคล้องกับรายงานของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ที่ได้รายงานถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.5 ในปี 2022 เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของคู่ค้า รวมถึงกิจกรรมหลักที่ช่วยกระตุ้นความต้องการส่งออกของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501006196/world-bank-forecasts-cambodias-economic-growth-to-reach-4-5-percent-in-2022-and-5-5-percent-in-2023/

สศอ. ปรับแผนปี 65 มุ่งพัฒนา 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) จัดงาน OIE FORUM 2021 Thailand Industry Beyond Next Normal : อุตสาหกรรมไทยก้าวไกล สู่ยุคใหม่ที่ยั่งยืน พร้อมชูแนวทางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่โลกวิถีใหม่ ยกระดับความสามารถการแข่งขัน สอดคล้องกับทิศทางของกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ซึ่งกำหนดประเด็นในการสร้างเศรษฐกิจมูลค่าสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยปรับทิศทางภาคการผลิตจากเดิม ส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ พร้อมมุ่งเน้นอุตสาหกรรมสำคัญ รวมทั้งสนับสนุนอุตสาหกรรมภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยการยกระดับสถานประกอบการสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy รวมไปถึงการปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ ตลอดจนวิธีการกำกับดูแลสถานประกอบการที่สะท้อนแนวคิดตามโมเดล BCG เพื่อให้ภาคเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สังคม และสิ่งแวดล้อม มีการพัฒนาในทิศทางที่สมดุล

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/977650

เวิลด์แบงก์ คาด GDP ไทยปี 65 ฟื้นโต 3.9% จาก 1% ในปี 64 ก่อนโตเพิ่ม 4.3% ปี 66

ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 65 เป็น 3.9% จากเดิมที่คาดไว้ 3.6% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากปี 64 ที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 1% ก่อนที่ปี 66 จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% ขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในปี 65 และ 66 ได้แรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมภาคบริการ การบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่กลับมาเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 7 ล้านคนในปี 65 โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งหลังของปีและเพิ่มขึ้นอีกในปี 66 เป็นประมาณ 20 ล้านคนหรือประมาณครึ่งหนึ่งของระดับนักท่องเที่ยวในปี 62 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/154784

‘ADB’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจมาเลเซียและเวียดนาม

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจเวียดนามและมาเลเซียในปีนี้ หลังจากเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาสที่ 3 ขณะเดียวกันปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาของเอเชียลงมาสู่ระดับ 7.0% ในปีนี้ และ 5.3% ในปี 2565 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.1% และ 5.4% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ตามรายงาน “Asian Development Outlook” ระบุว่าในกลุ่มประเทศเอเชีย จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มลดลง และระดับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ดี ไวรัสตัวใหม่ที่มีชื่อว่า “โอมิครอน” เสี่ยงคุกคามเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง นอกจากนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม คาดว่าจะปรับตัวลดลงอยู่ที่ 2.0% ในปีนี้ จากที่คาดการณ์เดิมที่ระดับ 3.8% ก่อนที่จะขยายตัว 6.5% ในปีหน้า ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของมาเลเซีย คาดว่าจะขยายตัว 3.8% ในปีนี้ และ 5.9% ในปีหน้า

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Economy/ADB-slashes-Malaysia-and-Vietnam-annual-growth-forecasts

กัมพูชา-ฟิลิปปินส์ ส่งเสริมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน

หอการค้ากัมพูชาและหอการค้าฟิลิปปินส์เห็นชอบที่จะส่งเสริมและเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกันโดย Kith Meng ประธานหอการค้ากัมพูชาและ AMB Benedicto V. Yujuico ประธานหอการค้าฟิลิปปินส์ร่วมเป็นผู้ลงนาม ในระหว่างการประชุมครั้งที่ 3 ของคณะกรรมาธิการร่วมกัมพูชา-ฟิลิปปินส์ เพื่อความร่วมมือทวิภาคี (JCBC) โดยบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจและเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชาและฟิลิปปินส์ในด้านต่างๆ เช่น ICT และนวัตกรรม เกษตรกรรม การผลิต แฟรนไชส์ ​​การท่องเที่ยว การบริการ และการพัฒนา SME ซึ่งสภาทั้งสองตกลงที่จะจัดตั้งสภาธุรกิจฟิลิปปินส์-กัมพูชา โดยจะตั้งอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์และกัมพูชา ซึ่งในระยะถัดไปจะร่วมหารือระหว่างกันในการกำหนดหน้าที่ เป้าหมาย ระหว่างกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50984602/cambodia-philippines-boost-business-and-economic-cooperation/

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาด GDP ไทยปี 65 โต 2.8-3.7% ขึ้นกับความรุนแรงของโอมิครอน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 65 ฟื้นตัวมาเติบโตได้ในกรอบ 2.8-3.7% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าให้กลับมามีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับอัตราการแพร่เชื้อ และประสิทธิภาพของวัคซีนที่ใช้อยู่ว่าจะสามารถต้านทานการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนได้หรือไม่ แต่จากการที่หลายประเทศเริ่มคุมเข้มการเดินทาง ก็อาจทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 65 โดยเฉพาะในไตรมาสแรกได้รับผลกระทบ

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/153139

EXIM BANK ร่วมการประชุมระดับสูงด้านเศรษฐกิจการทูตในโครงการรถไฟจีน-ลาว

นายเชิดชัย ใจไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) พร้อมด้วย นางวรังคณา วงษ์คาหลวง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ของ EXIM BANK ได้เข้าร่วมการประชุม Economic Diplomacy High-Level Meeting on the China-Laos Railroad Projects โดยมีนายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ณ โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ ในการประชุมที่จัดโดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศของ MFA ผู้แทนระดับสูงของรัฐบาลและหุ้นส่วนเอกชนรายสำคัญได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับมุมมองทางเศรษฐกิจมหภาคและการจัดการการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้อง แนวโน้มเศรษฐกิจไทยและการเตรียมความพร้อมของประเทศตลอดจนโอกาสและความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของภาคเอกชน ผ่านการทูตทางเศรษฐกิจ เส้นทางใหม่นี้เป็นโอกาศที่สำคัญของสปป.ลาวในการเชื่อมต่อด้านเศรษฐกิจการค้า กับนานาประเทศรอบข้างโดยเฉพาะด้านที่ใหญ่อย่างจีนที่เป็นจุดหมายปลายทางของประเทศส่งออกทั่วโลกและประเทศไทยผู้ส่งออกรายสำคัญของสปป.ลาว เมื่อเริ่มปิดใช้บริการเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางการขนส่งที่สำคัญระดับภูมิภาค

ที่มา : https://www.ryt9.com/en/prg/254377

‘เวียดนาม’ มีศักยภาพมหาศาลในการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเล

นาย Kitack Lim เลขาธิการองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) เข้าพบหารือกับนาย Nguyen Hoang Long เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหราชอาณาจักร กล่าวแสดงความชื่นชมเวียดนามว่ามีการพัฒนาอุตสาหกรรมทางทะเลอย่างต่อเนื่องในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยเวียดนามมีประชากรจำนวนมากและแรงงานที่มีศักยภาพ รวมถึงเวียดนามมีข้อได้เปรียบทางด้านการจัดหาอุปกรณ์เรือและการต่อเรือ เนื่องจากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในอินโดแปซิฟิก และเวียดนามมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเดินเรือทางทะลกับประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย สาธารณรัฐเกาหลีและจีน อีกทั้ง เอกอัครราชทูตฯ ได้ขอให้เลขาธิการฯ ช่วยเวียดนามในการปรับปรุงขีดความสามารถในการเดินเรือทางทะเล ด้วยเหตุนี้ จึงเปลี่ยนศักยภาพการเดินเรือทางทะเลให้เป็นข้อได้เปรียบของชาติ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-boasts-huge-potential-for-maritime-development-imo-secretary-general-907082.vov

AMRO คาดการณ์เศรษฐกิจกัมพูชาปีนี้โต 2.8%

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคอาเซียน+3 (AMRO) ระบุว่า เศรษฐกิจของกัมพูชาจะกลับมาฟื้นตัวจากการหดตัวที่ร้อยละ 3.1 ในปีที่แล้ว หลังจากการรณรงค์ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนภายในประเทศประสบความสำเร็จ ทำให้โรงงานต่างๆ สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้งและผ่อนคลายปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นส่วนช่วยเพิ่มปริมาณการส่งออกของกัมพูชา โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคาดว่าจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งในปีนี้ AMRO คาดว่ากัมพูชาจะเติบโตร้อยละ 2.8 นำโดยภาคการผลิตที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากความต้องการเสื้อผ้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกฟื้นตัว ซึ่งในปัจจุบันกัมพูชามีผู้ติดเชื้อจากโควิด-19 โดยเฉลี่ย 47 คนต่อวัน โดยประชากรกว่าร้อยละ 86 ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างครบถ้วนแล้ว รวมถึงรัฐบาลได้ขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้จาก 719 ล้านดอลลาร์เป็น 1.454 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายมากภายในประเทศให้มากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50975264/economy-to-grow-2-8-percent-this-year-amro-says/