มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาแตะ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วง 9 เดือน

กรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา (GDCE) รายงานถึงสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของกัมพูชา ซึ่งมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 35,160 ล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมูลค่ารวม 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าลดลงร้อยละ 5.9 เหลือมูลค่า 1.82 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ สหรัฐฯ จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น จีน เยอรมนี แคนาดา และสหราชอาณาจักร สำหรับสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์รองเท้า เครื่องหนัง ธัญพืช เฟอร์นิเจอร์ ยาง ผลไม้ และสิ่งทอ ขณะในปี 2022 กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวม 2.24 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 และการนำเข้าสินค้ามูลค่า 2.99 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501374641/cambodias-international-trade-reaches-35-billion-in-nine-months/

กัมพูชาพร้อมดึงนักท่องเที่ยวจีนมายังประเทศมากขึ้น

Top Sopheak โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา รายงานว่าในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคมปีนี้ กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 364,844 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 611 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.4 ของปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จำนวน 3.5 ล้านคน ที่ได้เดินทางมามายังกัมพูชา โดยทางการยังวางแผนที่จะดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนมายังกัมพูชามากขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างน้อย 600,000 คน ด้วยการส่งเสริมความสะดวกในการเดินทางอย่างการเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ รวมถึงเดินทางมายังชายแดน ภายใต้ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งทางการกัมพูชายังพร้อมที่จะสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอันเนื่องมาจากสถานที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สำหรับภาคการท่องเที่ยวในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิดกัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกว่า 6.61 ล้านคน ภายในปี 2019 สร้างรายได้เข้าประเทศรวมกว่า 4.92 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501373964/cambodia-is-eager-to-invite-more-chinese-tourists/

กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรไปยังต่างประเทศมูลค่ารวมกว่า 3.2 ล้านดอลลาร์

ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรปริมาณรวมกว่า 5.5 ล้านตัน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง (MAFF) แต่ด้วยสถานการณ์การส่งออกโดยรวมที่ชะลอตัวลง ส่งผลทำให้ปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรลดลงร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ ข้าว กล้วย มะม่วง มันสำปะหลัง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าวโพด น้ำมันปาล์ม พริกไทย และยาสูบ เป็นสำคัญ โดยเฉพาะการส่งออกข้าวสารที่มูลค่า 395 ล้านดอลลาร์ และข้าวเปลือกมูลค่ารวมกว่า 658 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรัฐบาลมีความพยายามเป็นอย่างมากในการขยายตลาดส่งออก สำหรับภาคเกษตรกรรมถือเป็นหนึ่งใน 4 เสาหลัก ที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจของกัมพูชาเกิดการเติบโต คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 24.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เมื่อเทียบกับปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501373714/agri-product-exports-earn-3-2b/

“จีน” ยังคงเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของกัมพูชา

นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนปีนี้ สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนไปแล้ว 191 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ โดยจีนยังคงรักษาตำแหน่งผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในกัมพูชา สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ CDC อนุมัติโครงการลงทุนใหม่เพิ่มขึ้น 41 โครงการ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนับเป็นเม็ดเงินลงทุนของจีนในกัมพูชามากกว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 76 ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด รองลงมาเป็นการลงทุนจากนักลงทุนในท้องถิ่นชาวกัมพูชาอยู่ที่สัดส่วนร้อยละ 12 โดยในเดือนกันยายน CDC อนุมัติโครงการใหม่ 27 โครงการด้วยเงินลงทุนรวม 1.6 พันล้านดอลลาร์ สร้างโอกาสในการจ้างานให้กับคนในท้องถิ่นมากกว่า 30,000 ตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่เน้นการลงทุนเกี่ยวกับระบบการขนส่ง การผลิตไฟฟ้า ผลิตเหล็ก และภาคส่วนอื่นๆ ด้านกัมพูชากำลังเร่งจัดทำกลยุทธ์เพื่อหวังดึงดูดนักลงทุนชาวจีนผ่านการเข้าร่วมโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ด้วยการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501373387/china-remains-largest-investor-in-cambodia/

สายการบินหลายแห่งทั่วโลก ประกาศเพิ่มเที่ยวบินตรงมายังกัมพูชา

สายการบินซึ่งให้บริการในกัมพูชา ได้ยื่นคำขอเพิ่มตารางเที่ยวบินตรงมายังกัมพูชา เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลท่องเที่ยวหรือวันหยุดภาคฤดูร้อน ด้านบริษัทผู้ให้บริการจำเป็นต้องยื่นคำขอในการเพิ่มตารางเที่ยวบินทุก 6 เดือน เพื่อเป็นการจัดสรรการจราจรในบริเวณสนามบิน กล่าวโดย Chea Aun เจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐ (SSCA) ซึ่งรัฐบาลกัมพูชายังได้ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น เวียดนาม และไทย รวมถึงยังได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ให้เอื้อต่อการท่องเที่ยว อย่างการพัฒนาระบบการชำระเงินด้วย QR-code “kHQR” และโครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ซึ่งมาเยือนกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501373260/airlines-to-increase-flights-to-cambodia-by-year-end/

“ไทยเบฟ”ยึดกัมพูชา ฐานผลิตอาเซียน ดัน BeerCo เข้าตลาดหุ้น

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยเบฟให้ความสำคัญเรื่องของความยั่งยืน จึงขับเคลื่อนกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด “สรรสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ พร้อมกับดำเนินกลยุทธ์ในการเสริมแกร่งให้กับตราสินค้าและสถานะในตลาดสำหรับทุกกลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยในปี 2567 (ต.ค. 66-ก.ย.67) บริษัทใช้งบลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท ในการเดินหน้าธุรกิจเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน+9 ซึ่งปัจจุบันก้าวกระโดดไปทำตลาดในหลายประเทศ ภายใต้กลยุทธ์การเติบโต (GROWTH) ใน 3 Pillars ได้แก่ Balanced Market Diversification, Extensive Product Portfolio และ Fulfill New Consumer Needs แบ่งเป็นการลงทุนตั้งโรงงานเครื่องดื่มทั้งแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ในกัมพูชาและลาว 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นฐานการผลิตใหญ่รองรับตลาด CLMV และยังคอนเน็คสู่ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดสำคัญแห่งหนึ่ง และทำให้ไทยเบฟมีความได้เปรียบในด้านต้นทุนการผลิตและการขนส่งสินค้าในอนาคต ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนในประเทศไทยทั้งด้านโลจิสติกและความยั่งยืน ฯลฯ

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/marketing/577997

กัมพูชาส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศรวมกว่า 327.4 ล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วง 9 เดือน

สหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) รายงานถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวสารของกัมพูชามีปริมาณรวมกว่า 456,581 ตัน สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี สร้างรายได้เข้าประเทศรวมกว่า 327.4 ล้านดอลลาร์ โดยได้ทำการส่งออกยัง 57 ประเทศ ทั่วโลก ซึ่งจีนยังคงเป็นประเทศคู่ค้าหลักของกัมพูชาที่ปริมาณการส่งออก 155,366 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 99.6 ล้านดอลลาร์ ด้าน Chan Sokheang ประธาน CRF ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวสารทั้งปีไว้ที่ 700,000 ตัน สำหรับในปี 2023 โดยเฉาพะ ข้าวหอม ข้าวอินทรีย์ ข้าวขาว ข้าวนึ่ง และข้าวจาโปนิกา เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501372820/cambodia-earns-327-4-million-from-rice-export-in-9-months/

9 เดือนแรกของปี กัมพูชาดึงเงินลงทุนต่างชาติแตะ 3.76 พันล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) รายงานถึงสถานการณ์การลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี โดยกัมพูชาดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติมูลค่ารวมกว่า 3.76 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 จากมูลค่า 3.46 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งทางการกัมพูชาได้อนุมัติโครงการลงทุนไปแล้วกว่า 191 โครงการ สำหรับในช่วงเดือนมกราคม-กันยายนปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จากจำนวน 150 โครงการ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ 5 อันดับแรกของกัมพูชา ได้แก่ จีน มาเลเซีย หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน สิงคโปร์ และเวียดนาม เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501372822/cambodia-attracts-3-76-billion-investment-in-the-first-9-months-an-increase-of-8-6-percent/

“ไทยเบฟ” วางแผนจัดตั้งโรงงานมูลค่ากว่า 7 พันล้าน ในกัมพูชา

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการลงทุนจะเน้นวางรากฐานการเติบโต เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันเป็นหลัก โดยใช้เงินลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้จะลงทุนตั้งโรงงานผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในกัมพูชาประมาณ 4,000 ล้านบาท เพื่อเป็นฐานขยายตลาดกัมพูชาและฐานการผลิตวิสกี้ซิงเกิ้ลมอลลต์ ขายในภูมิภาคอาเซียน ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น สำหรับการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของการบริโภคในประเทศ จากทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อบริษัท แต่ถึงอย่างไรจำเป็นต้องประเมินถึงแรงกดดันจากภาะเงินเฟ้อ ต้นทุนด้านพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น ไปจนถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง อาจยังคงส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่เชื่อมั่นว่ารากฐานอันมั่นคงจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตที่แข็งแกร่งของเราได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังดำเนินมาตรการบริหารอัตรากำไรอย่างรอบคอบ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่างๆ รักษาผลกำไรสุทธิ ส่วนแบ่งตลาดและคำนึงถึงความรับผิดชอบ ความยั่งยืนเป็นสำคัญ สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี มีรายได้อยู่ที่ 216,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501371751/thaibev-plans-7-billion-baht-expansion-including-new-factory-in-cambodia/

นายกฯ ประกาศ รัฐบาลกัมพูชาจะยังไม่มีการขึ้นภาษีและไม่มีการกำหนดอัตราภาษีใหม่

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ชี้แจงอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลใหม่ของกัมพูชา (RGC) จะไม่กำหนดภาษีใหม่ใดๆ หรือเพิ่มอัตราภาษีที่มีอยู่ แต่คงไว้ซึ่งการยกเว้นภาษีในปัจจุบัน สำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางประเภท โดยกล่าวไว้ในระหว่างการปราศรัยกับคนงาน-ลูกจ้าง จากโรงงานต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตเมียนเจยและดังกอร์ ของกรุงพนมเปญ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้บังคับใช้กฎหมายทางด้านภาษีที่มีอยู่เพียง 13 ฉบับ ซึ่งเรียกเก็บมานานหลายทศวรรษนับตั้งแต่ปี 1982 ถึงแม้รัฐบาลกัมพูชาจะมีแนวทางในการปรับขึ้นภาษีในอนาคตให้ทัดเทียมนานาประเทศ แต่ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอนและเพื่อเป็นการช่วยเหลือภาคธุรกิจและภาคประชาชน ที่กำลังประสบกับความยากลำบาก รัฐบาลจึงพิจารณาไม่ปรับขึ้นภาษีในระยะนี้ จนกว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะกลับมาสู่ภาวะปกติ เพื่อที่จะนำภาษีที่จัดเก็บได้มาพัฒนาและปรับปรุงประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501370884/no-new-tax-nor-tax-rise-says-pm/