จีนอนุมัติการนำเข้ามะพร้าวสดจากกัมพูชา

ศุลกากรจีนอนุญาตให้สามารถนำเข้ามะพร้าวสดจากกัมพูชาและอะโวคาโดจากเวเนซุเอลา โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) ตามการประกาศของสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและเวเนซุเอลา ในช่วงระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน ตามข้อมูลของศุลกากรกัมพูชา ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2023 การค้าทวิภาคีระหว่างจีนและกัมพูชามีมูลค่าอยู่ที่ 8.09 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาไปยังจีนที่มูลค่า 940 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.8 โดยการส่งออกส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร อาทิเช่น กล้วย มะม่วง และลำไย เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501363495/fresh-cambodian-coconuts-venezuelan-avocados-approved-to-enter-china/

กัมพูชาตั้งเป้าส่งออกข้าวสารไปยังจีนขยายตัว 20%

นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต กล่าวว่า กัมพูชากำลังวางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าวสารไปยังจีนอีกร้อยละ 20 โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างการประชุมพบปะกับแรงงาน รวมถึงโรงงาน 18 แห่ง ในจังหวัดตาแก้ว ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่อาวุโสจากทุกกระทรวงเข้าร่วมงาน ด้านนายกฯ ยังได้รายงานอีกว่าหลังการเดินทางไปเยือนจีน ทางการกัมพูชาได้หารือกับญี่ปุ่นและประเทศสมาชิกอาเซียน หวังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงดึงดูดการลงทุนและเปิดโอกาสทางการค้ากับประเทศต่างๆ ปัจจุบันความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนถือเป็นประโยชน์ต่อกัมพูชาเป็นอย่างมากด้วยการได้รับโครงการลงทุนขนาดใหญ่จำนวนมากที่สร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นกัมพูชาหลายแสนตำแหน่ง และเพิ่มมูลค่าการส่งออกของประเทศ โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรม ซึ่งหลังจากการได้ร้องขอในการเพิ่มโควต้าการส่งออกข้าวของกัมพูชา ทางการได้ร้องขอให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้ส่งออกข้าวร่วมมือกันส่งเสริมการส่งออกข้าวและเพิ่มมาตรฐานให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501363031/cambodia-plans-to-increase-export-of-milled-rice-to-china-by-20/

8 เดือนแรกของปี กัมพูชานำเข้า น้ำมันและก๊าซ มูลค่ารวมกว่า 2.28 พันล้านดอลลาร์

สำหรับในช่วงเดือน มกราคม-สิงหาคม ปีนี้ กัมพูชานำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันและก๊าซมูลค่ารวมกว่า 2.28 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 9.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) โดยคาดว่าความต้องการในการใช้ผลิตภัณณ์ดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 ล้านตัน ภายในปี 2030 จากปริมาณ 2.8 ล้านตัน ในปี 2020 ซึ่งปัจจุบันกัมพูชานำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 100% ซึ่งมีแหล่งนำเข้าส่วนใหญ่มาจากไทย เวียดนาม และสิงคโปร์

ด้าน OPEC, สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ และสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ ล้วนคาดการณ์ถึงการขาดดุลของตลาดที่เพิ่มมากขึ้นในไตรมาสหน้า เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่ควบคุมอุปทานการผลิตและการส่งออกทั่วโลก โดยคาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันจ่อปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งราคาน้ำมันในกัมพูชาล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) อยู่ที่ 1.12 ดอลลาร์ ต่อลิตร ขณะที่น้ำมันดีเซลราคาอยู่ที่ 1.15 ดอลลาร์ ต่อลิตร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501362703/cambodia-imports-oil-and-gas-products-worth-2-28-billion-in-the-first-eight-months-of-the-year/

AMRO ปรับการเติบโต GDP ของกัมพูชาเหลือ 5.3%

องค์กรวิจัยเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (AMRO) ได้ปรับลดอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) กัมพูชา ลงเหลือร้อยละ 5.3 สำหรับการประมาณการครั้งที่ 3 ภายในปี 2023 ด้วยการสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว รวมถึงภาคการผลิตโดยเฉพาะสินค้าที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่ม และกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ขณะที่ภาคการผลิตเครื่องนุ่งห่มซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของกัมพูชามีอัตราการเติบโตที่ช้าลง และภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา จึงทำให้ AMRO ปรับลดการเติบโตของ GDP ลงเหลือร้อยละ 5.3 จากร้อยละ 5.7 ที่ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนกรกฎาคม และร้อยละ 5.9 ในเดือนเมษายนปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501362523/amro-revises-down-cambodias-gdp-growth-to-5-3-for-2023/

CAC รายงานการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปยังเวียดนามลดลง 16%

กัมพูชาส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบ (RCN) ปริมาณกว่า 607,000 ตัน ไปยังเวียดนาม ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ สร้างรายได้เข้าประเทศ 820 ล้านดอลลาร์ แต่กลับปรับตัวลดลงที่ร้อยละ 15.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามข้อมูลของ Uon Silot ประธานสมาคมเม็ดมะม่วงหิมพานต์แห่งกัมพูชา (CAC) ซึ่งปัจจุบันกัมพูชาผลิต RCN ได้ประมาณ 634,000 ตัน ณ ช่วงเดือน ม.ค.–ส.ค. โดยประมาณร้อยละ 95 ถูกส่งออกไปยังเวียดนาม สำหรับราคาเฉลี่ยของ RCN ในปัจจุบันอยู่ที่ 1,658 ดอลลาร์ต่อตัน แต่ในช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 1,900 ดอลลาร์ต่อตัน เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งโรงงานแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในกัมพูชาจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานต่างๆ ของกัมพูชา เพื่อให้ผ่านมาตรฐานการส่งออก ด้านประธานสมาคม CAC ยังได้ร้องขอให้รัฐบาลช่วยจัดหาตลาดในการส่งออกและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ให้แก่ผู้ประกอบการ หวังกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตเม็ดมะม่วงพิมพานต์ของประเทศต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501361913/cashew-exports-to-vietnam-decline-16-says-cac/

กัมพูชาและจีน หวังใช้ กลยุทธ์ 5 ประการ ร่วมกับยุทธศาสตร์ BRI

รัฐบาลกัมพูชา (RGC) และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) ได้ตกลงที่จะนำกลยุทธ์ 5 ประการ มาปรับใช้ ร่วมกับยุทธศาสตร์ Bridge and Road Initiative (BRI) ซึ่งเป็นแผนหลักในการกระชับความร่วมมือในระดับทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีน โดยคำแถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศ โดยคาดว่าการนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาปรับใช้จะช่วยให้เกิดความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกัมพูชาและจีน ในการส่งเสริมการลงทุนและเสริมกำลังการผลิตให้แก่กัมพูชา เพื่อเปลี่ยนพระสีหนุให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีความอเนกประสงค์ เป็นต้นแบบเขตอุตสาหกรรม และเกิดการพัฒนาทางเทคโนโลยีในกัมพูชา สำหรับยุทธศาสตร์ทั้งสองฉบับมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น ปลา ข้าว ผลไม้เมืองร้อน ผัก และปัจจัยการผลิตทางการเกษตรอื่นๆ รวมถึงปุ๋ยและอาหารสัตว์ โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นลำดับแรก ซึ่งการปรับยุทธศาสตร์ดังกล่าวยังคาดว่าจะขยายกรอบความร่วมมือภาคพลังงานในรูปแบบต่างๆ ร่วมด้วย เพื่อการพัฒนาพลังงานสีเขียว ให้มีความยั่งยืน รวมถึงตอบสนองต่อประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501361712/cambodia-china-agree-to-adopt-pentagonal-bri-strategies/

รมว.แรงงานกัมพูชา วอน JICA สนับสนุนการฝึกอาชีพ หวังดัน GDP โต 7%

Heng Sour รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมวิชาชีพ ได้ร้องขอให้หน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ในกัมพูชา ดำเนินการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในการฝึกอบรมด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาต่อไป เพื่อเพิ่มแรงผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาเป็นถึงร้อยละ 7 โดยคำร้องขอดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมกับ Sanui Kazumasa ประธาน JICA ณ กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าการเสริมสร้างการฝึกอบรมด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดการลงทุนมายังกัมพูชามากขึ้น โดยเฉพาะจากนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญสำหรับกัมพูชาในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ถึงประมาณน้อยละ 7 ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือต่อไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในขณะที่รัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม” ภายในปี 2023

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501361304/labour-minister-asks-jica-to-continue-vocational-technical-training-to-boost-cambodias-economic-growth-to-7/

สหพันธ์ข้าวกัมพูชา ตั้งเป้าส่งออกข้าวสารแตะ 1 ล้านตัน ภายในปี 2025

สหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) ตั้งเป้าส่งออกข้าวทะลุ 1 ล้านตัน ภายในปี 2025 โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกข้าวสารกว่า 400,000 ตัน ไปยัง 56 ประเทศทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่สำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตข้าวของกัมพูชา ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาได้แจ้งว่าอินโดนีเซียวางแผนที่จะนำเข้าข้าวจากกัมพูชาจำนวน 250,000 ตันต่อปี ซึ่งเหตุดังกล่าวนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ปริมาณการส่งออกข้าวของกัมพูชาถึงเป้าหมายเร็วขึ้น โดยอินโดนีเซียจะเริ่มนำเข้าข้าวจากกัมพูชาภายในปี 2024 ภายใต้ข้อตกลงที่ได้ลงนามไว้ระหว่าง 2 รัฐบาล นอกจากนี้ ประเทศอื่นๆ อย่างเช่น ฟิลิปปินส์ ยังแสดงความสนใจที่จะนำเข้าข้าวจากกัมพูชาเพิ่มเติมอีกด้วย สำหรับภาครัฐและภาคเอกชนพร้อมที่จะทำการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงการลงทุนในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรให้ทันสมัย และการใช้มาตรการควบคุมคุณภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตข้าวให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501361211/cambodian-rice-federation-reports-record-rice-exports-on-track-to-reach-1-million-tonnes-by-2025/

ม.ค.-ส.ค. กัมพูชาส่งออกไปยังสิงคโปร์โตกว่า 555%

ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมของปีนี้ กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสิงคโปร์ขยายตัวกว่าร้อยละ 554.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากมูลค่า 72.83 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 476.90 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากสิงคโปร์ อยู่ที่ 622.77 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 78.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าการค้าทวิภาคีอยู่ที่ 1.10 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ข้อมูล GDCE แสดงให้เห็นว่าการส่งออกไปยังสิงคโปร์มีการเติบโตสูงที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ที่กัมพูชามีการทำการค้าด้วย ขณะที่การส่งออกของกัมพูชา ณ สิ้นเดือนสิงหาคม อยู่ที่มูลค่าประมาณ 15.69 พันล้านดอลลาร์ โดยสิงคโปร์ยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 6 ของกัมพูชา รองจากจีน สหรัฐฯ เวียดนาม ไทย และญี่ปุ่น ตามลำดับ ซึ่งในเดือนสิงหาคมเพียงเดือนเดียว การส่งออกของกัมพูชาไปยังสิงคโปร์มีการเติบโตร้อยละ 556.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก 4.3 ล้านดอลลาร์ เป็น 28.8 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่กัมพูชาส่งออกสินค้าประเภท ไข่มุก หินมีค่า โลหะ สินค้าที่ผลิตมาจากยาง เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และรองเท้า เป็นสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนชาวสิงคโปร์เข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพื่อผลิตและส่งออกเพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501359846/cambodias-exports-to-spore-rise-by-555-in-jan-aug/

คาดการลงทุนภาคการเกษตรของจีน จะช่วยเติมเต็มเศรษฐกิจให้แก่กัมพูชา

ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมวิจัยของจีน (Chinese Cambodian Evolution Researcher Association: CCERA) เปิดเผยว่า การลงทุนของจีนในภาคเกษตรกรรมของกัมพูชา ได้ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจกัมพูชาเกิดการขยายตัว รวมถึงสร้างการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่นหลายแสนคน อีกทั้งยังลดการอพยพหรือการย้ายถิ่นฐานไปทำงานยังประเทศอื่นๆ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลจีนได้อัดฉีดงบประมาณเพิ่มเติมให้แก่การพัฒนาภาคเกษตรกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการส่งออกพืชผลทางการเกษตรไปยังจีนมากขึ้น ด้วยการลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของกัมพูชาต่อประเทศคู่แข่ง สำหรับเดือนที่แล้ว บริษัท Danong Agricultural Development Group ของจีน มีความสนใจที่จะลงทุนในภาคเกษตรของกัมพูชา ไปยังภาคอุตสาหกรรมเกษตร 75 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 10,000 เฮกตาร์ ในจังหวัดพระตะบอง โพธิสัตว์ เสียมราฐ และกำปงธม ด้วยมูลค่าการลงทุนสูงถึง 12,700 ล้านดอลลาร์ แสดงถึงความต้องการด้านการลงทุนของภาคเกษตรกรรมกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501359851/chinese-investment-in-agricultural-sector-gives-fillip-to-economy/