เกาหลีมอบเงินทุนสนับสนุนในการพัฒนาชนบทภายใน สปป.ลาว

องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งเกาหลี (KOICA) มอบเงินสนับสนุนให้แก่ สปป.ลาว ในการพัฒนาชนบทมูลค่า 12.5 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ เวียงจันทน์ เชียงขวาง และบอลิคำไซ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชนผ่านโครงการสนับสนุนดังกล่าว ซึ่งกำหนดกรอบระยะเวลาในการสนับสนุนตั้งแต่ปี 2021-2025 ใน 14 หมู่บ้าน และ 7 แขวง ของแขวงเชียงขวาง บอลิคำไซ และเวียงจันทน์ โดยจุดมุ่งหมายของโครงการคือการสนับสนุนการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการเกษตร ป่าไม้ และการพัฒนาชนบท พร้อมเสริมสร้างศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในส่วนกลางและระดับท้องถิ่นในการดำเนินการตามแผน สำหรับ KOICA ยังได้ให้การสนับสนุน สปป.ลาว ผ่านโครงการต่างๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นทางด้านสุขภาพ การศึกษา เศรษฐกิจ และการเกษตร ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_SKorea69.php

สปป.ลาว-คิวบา ร่วมมือพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ผู้แทนสถาบันการต่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว และสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภายใต้กระทรวงการต่างประเทศคิวบา ได้ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยข้อตกลงดังกล่าวลงนามโดยผู้อำนวยการสถาบันการต่างประเทศ Mr. May Xayavong และเอกอัครราชทูตคิวบาประจำ สปป.ลาว Ms. Enna Esther Viant Valdes ซึ่งมี Mr. Thongphan Savanphet รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ทั้งในระดับกระทรวง รวมถึงความร่วมมือกับสถาบันคิวบาผ่านการฝึกอบรม ยกระดับทักษะวิชาชีพของนักการทูต การวิจัย และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา สปป.ลาวและคิวบา ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือหลายฉบับในด้านการเมือง กิจการสังคมและเศรษฐกิจ สุขภาพ การศึกษา กีฬา ข้อมูล และด้านอื่นๆ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Laos68.php

ธนาคารโลกปรับแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาค หลังจีนเปิดประเทศ

ธนาคารโลก (WB) คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก รวมถึง สปป.ลาว คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในปี 2023 เนื่องจากการเปิดประเทศของจีนและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ แต่ถึงอย่างไรก็ตามต้องคอยติดตามสถานการณ์ต่างๆ อาทิเช่น การชะลอตัวของระบบเศรษฐกิจโลก, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น และสภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน ซึ่งธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะขยายตัวขึ้นร้อยละ 5.1 ในปี 2023 จากการขยายตัวที่ร้อยละ 3.5 ในปี 2022 ขณะที่ สปป.ลาว คาดว่าจะฟื้นตัวในเชิงบวกหลังจากทางการได้เปิดพรมแดนใหม่อีกครั้ง รวมถึงได้มีการเปิดเส้นทางเดินรถไฟระหว่างประเทศสาย สปป.ลาว-จีน ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทั้งทางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten66_World_y23.php

เอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว เข้าเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน

เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน (Savan Park) และ Savannakhet Dry Port ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทย นำโดยเอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ ในการเข้าเยือนพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย และสปป.ลาว โดยปัจจุบันภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษมีบริษัทเข้าลงทุนทั้งหมด 78 บริษัท ซึ่งเขตเศรษฐกิจดังกล่าวมีประสิทธิภาพและข้อได้เปรียบในหลายๆด้าน โดยเฉพาะทางด้านโลจิสติกส์ที่มีท่าเรือบกภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งในปี 2022 การค้าผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษ แบ่งเป็นมูลค่าการนำเข้ามากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นการส่งออกที่มีมูลค่า 207 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานล่าสุดของท่าเรือบก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten65_Thai_y23.php

นายกฯ สปป.ลาว เล็งดึงเม็ดเงินลงทุนเพิ่มจากจีน

นายกฯ สปป.ลาว ได้ร้องขอความร่วมมือจากผู้นำมณฑลยูนนาน ในการส่งเสริมให้บริษัทสัญชาติจีนเข้ามาลงทุนใน สปป.ลาว มากขึ้น โดยกล่าวขึ้นในระหว่างการประชุมที่จัดขึ้น ณ เวียงจันทน์ ซึ่งคาดหวังที่จะใช้ประโยชน์จากทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน ในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าระหว่างระหว่างประเทศ ซึ่งตลาดจีนถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญของ สปป.ลาว เนื่องจากมีประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน โดย สปป.ลาว มีศักยภาพในการเพาะปลูกพืชและเลี้ยงโค-กระบือ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดจีน ซึ่งในปี 2021 มีบริษัทจีนกว่า 300 แห่ง แสดงความสนใจที่จะลงทุนในภาคการเกษตรและป่าไม้ใน สปป.ลาว โดยคาดว่าเงินลงทุนรวมจะสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ จากปัจจัยสนับสนุนในด้านต่างๆ ขณะที่ภาคการค้าระหว่างประเทศ จีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของ สปป.ลาว นับตั้งแต่ปี 2018-2022 มีมูลค่ารวมถึง 1.59 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 15.63 ต่อปี ในแง่ของการลงทุนระหว่างประเทศจีนก็ยังคงเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว ด้วยมูลค่าการลงทุนของจีนในเขตสัมปทานและเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีมูลค่าถึง 13.67 พันล้านดอลลาร์ กระจายอยู่ใน 921 โครงการ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten64_PM_y23.php

รัฐบาล สปป.ลาว ประกาศลงนาม MOU จัดตั้ง Asia-Potash International

รัฐบาล สปป.ลาว และ SINO-KCL ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในโครงการ “Asia-Potash International Intelligent Circular Industrial Park” ในเขตท่าแขกและหนองบกของแขวงคำม่วน โดยรัฐบาลและ บริษัท SINO-AGRI International Potash Co., Ltd. (SINO-KCL) ได้ลงนาม MOU ในเวียงจันทน์ ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการบริการ ซึ่งโครงการวางแผนพัฒนาพื้นที่ 3 สวน ได้แก่ สวนอุตสาหกรรมปุ๋ยโพแทช, สวนอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่โพแทช และเอเชีย-โพแทชทาวน์ โดยโครงการนี้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,000 เฮกตาร์ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 4.31 พันล้านดอลลาร์ ด้วยข้อได้เปรียบจากการสนับสนุนของรัฐบาล สปป.ลาว รวมถึงทรัพยากรภายในประเทศที่มีอยู่ ซึ่งเอื้อต่อการผลิตแร่โพแทช โดยบริษัท วางแผนผลิตปุ๋ยในสวนอุตสาหกรรมให้ได้ 3 ล้านตัน ภายในปี 2023 และขึ้นไปแตะ 5 ล้านตัน ภายในปี 2025 ขณะที่ Asia-Potash Town ถูกสร้างขึ้นให้เป็นเมืองคอมเพล็กซ์ที่ทันสมัยและใช้งานได้หลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการดูแลสุขภาพ การศึกษา การพาณิชย์ กีฬา และบริการด้านต่างๆ ซึ่งหลังจากโครงการ Asia-Potash Industrial Park เริ่มดำเนินการ คาดว่า สปป.ลาว จะมีรายได้ประมาณ 320 ล้านดอลลาร์ต่อปี สร้างการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่น 30,000-50,000 คน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten61_National_y23.php

สปป.ลาว เปิดตัวโครงการพัฒนาเกษตรกรรมบนที่ราบสูง

กระทรวงเกษตรและป่าไม้สปป.ลาว ร่วมกับองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และ World Vision ในการเปิดตัวโครงการด้านเกษตรกรรมที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับการพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกบนพื้นที่ราบสูงใน สปป.ลาว ภายใต้สภาพแวดล้อมทางอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยโครงการนี้มีงบประมาณประมาณในการพัฒนาอยู่ที่ 3.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก Global Environment Facility (GEF) และ FAO ซึ่งจะดำเนินการโดยกระทรวงเกษตรและป่าไม้, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ของ สปป.ลาว ตั้งแต่ในช่วงกลางปีนี้จนถึงปี 2026 ในการตั้งเป้าเพื่อปกป้องพื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 4.5 ล้านเฮกตาร์ หรือเท่ากับร้อยละ 19 ของพื้นที่ทั้งหมดของ สปป.ลาว โดยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อ สปป.ลาว และชุมชนที่พึ่งพาภาคเกษตรกรรมเป็นอย่างมากจากแนวโน้มฤดูฝนที่สั้นลงและรุนแรงขึ้น ไปจนถึงภัยธรรมชาติต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกทั้งทางตรงและทางอ้อม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_New60.php

สปป.ลาว เปิด ด่านค้าชายแดน12 แห่ง หนุนส่งออกผลไม้ไทยไปจีน

ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนแรก (ม.ค.) ปี 2566 ที่ 2.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว 4.5% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ทั้งยังเป็น การหดตัวต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัยจะหดตัว 3.0% ทั้งนี้อัตราการหดตัวน้อยลงจากเดือนก่อนหน้า จากผลกระทบการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาทผันผวน สอดคล้องกัน ตัวเลขการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ผ่านด่านพรมแดนหนองคาย เดือนม.ค. 2566 หดตัวทั้งมูลค่าการค้าชายแดน การส่งออกและการค้าผ่านแดน ด้วยตัวเลขมูลค่าการค้าชายแดนรวม 7,149.38 ล้านบาท ลดลง 7.50% แต่ยอดส่งออกยังสูงกว่านำเข้าได้ดุลการค้า 4,156.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 91.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.25%

อีกทั้ง โอกาสนี้ไทยได้ขอให้ สปป.ลาว เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเปิดด่านพรมแดนที่ติดกับไทยเพิ่มอีก 12 แห่ง และช่วยอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าไทย ผ่านแดน สปป.ลาวไปยังจีน เพื่อให้คล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าผลไม้ ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากเร็วๆ นี้

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/trade-agriculture/559913

ทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน จ่อให้บริการในช่วงเดือน เม.ย.

บริษัท รถไฟ สปป.ลาว-จีน จำกัด จะเปิดให้บริการรถไฟข้ามพรมแดนในช่วงกลางเดือนเมษายนที่กำลังจะมาถึง ซึ่งปัจจุบันรถไฟวิ่งให้บริการระหว่างสถานีในประเทศ สปป.ลาว-เวียงจันทน์ และบ่อเต็น เท่านั้น เนื่องจากข้อจำกัดการเดินทางจากมาตรการป้องกันโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาด่านภาษีสากลบ่อเต็น ณ ชายแดน สปป.ลาว-จีน ได้เปิดให้ผู้คนสามารถข้ามพรมแดนระหว่างกันได้ และด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ บริษัท วางแผนที่จะเปิดให้บริการรถไฟเส้นทาง เวียงจันทน์-คุนหมิง ขณะที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจำนวนมาก เดินทางโดยรถไฟไปยังสถานีบ่อเต็นเพื่อเข้าสู่ประเทศ สปป.ลาว ซึ่งมียอดผู้โดยสารพุ่งสูงเฉลี่ย 1,500-1,600 คนต่อวัน นับตั้งแต่การรถไฟเปิดให้บริการในวันที่ 3 ธ.ค. 2021

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Laos59.php