“เมียนมา” อนุญาตส่งออกเครื่องประดับเพชร

กระทรวงเศรษฐกิจและการพาณิชย์ ภายใต้รัฐบาลทหารเมียนมา เปิดเผยว่าอนุญาตให้ทำการส่งออกเครื่องประดับเพชรไปยังต่างประเทศได้ ก่อนหน้านี้กระทรวงฯ ห้ามให้มีการส่งออกเพชรเจียระไนและเครื่องประดับเพชร แต่ปัจจุบันรัฐบาลทหารเมียนมาอนุญาตให้ส่งออกเครื่องประดับเพชรได้แล้ว โดยผู้ค้าเพชรรายหนึ่งกล่าวว่าหลังจากเมียนมาอนุญาตให้ส่งออกเครื่องประดับเพชรไปยังต่างประเทศได้ ส่งผลให้ผู้ค้าสามารถทำการค้าขายได้มากขึ้น เพราะสามารถนำเครื่องประดับเพชรที่ทำมาจากทองนำมาขายได้ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ดี จากการประกาศของกระทรวงฯ ยังมีข้อห้ามส่งออเพชรเจียระไน นอกจากนี้ มีการเปลี่ยนคำนิยามของคำว่า ‘เพชร’ เปลี่ยนมาเป็น ‘เพชรหยาบและเจียระไน ซึ่งยังไม่ได้ทำเป็นเครื่องประดับ’

ที่มา : https://mizzima.com/article/myanmar-diamond-jewelry-export-allowed

“เมียนมา” เผยเดือน เม.ย. ส่งออกข้าวลดลง 47,888 ตัน

กลุ่มสหพันธ์ข้าวของเมียนมา (MRF) เปิดเผยว่าปริมาณการส่งออกข้าวของเมียนมาในเดือน เม.ย. 2566 ลดลงเหลือ 47,888 ตัน หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 144,034.86 ตัน โดยมาเลเซียเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของเมียนมาในเดือน เม.ย. ด้วยปริมาณ 8,050 ตัน ขณะที่เบลเยียมเป็นผู้นำเข้าข้าวหัก (Broken Rice) มากที่สุดจากเมียนมา มีปริมาณการนำเข้าสูงถึง 15,725 ตัน ทั้งนี้ เมียนมาทำรายได้จากการส่งออกข้าวและปลายข้าว อยู่ที่ 853,472 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นปริมาณการส่งออกมากกว่า 2.2 ล้านตัน ในช่วงปีงบประมาณ 2565-2566 นอกจากนี้ ข้าวเป็นพืชผลทางการเกษตรที่มีการเพาะปลูกมากที่สุดในเมียนมา รองลงมาถั่วและถั่วพัลส์ (Pulses)

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2023/05/10/myanmar039s-rice-exports-decline-to-47888-tonnes-in-april

ค้าชายแดนเมียนมา-จีน ทะลุ 267 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการค้าชายแดนเมียนมากับประเทศจีนในเดือน เม.ย. มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 267.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐของปีงบประมาณ 2023-2024 โดยตัวเลขการค้าชายแดนข้างต้น เพิ่มสูงขึ้นจาก 135.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2022-2023 ทั้งนี้ เมียนมาทำการค้าชายแดนกับจีนผ่านด่านมูเซ (Muse) ตามมาด้วยด่านชายแดน Lweje, Chinshwehaw, Kampaiti และ Kengtung เป็นต้น อย่างไรก็ดี ด่านมูเซเป็นด่านการค้าชายแดนรายใหญ่ที่ทำรายได้จากการค้าชายแดนจีนและเมียนมา อยู่ที่ 185.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ การค้าชายแดนเมียนมาและจีนในปัจจุบันกลับสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากเทศกาลวันปีใหม่ของเมียนมา โดยมีรถบรรทุกประมาณ 200 คันผ่านพรมแดนของประเทศ นอกจากนี้ พรมแดนจีนและเมียนมา คาดว่าจะขยายตัวสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-china-border-trade-values-cross-us267-mln-in-april/#article-title

บริษัทเบียร์ต่างชาติ 3 ราย จ่ายภาษีให้รัฐบาลเมียนมา 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเมียนมา “Justice for Myanmar” รายงานในเดือนที่แล้วว่าผู้ผลิตเบียร์ต่างประเทศ ได้แก่ ไฮเนเก้น (Heineken), คาร์ลสเบิร์ก (Carlsberg) และไทยเบฟเวอเรจ (Thai Beverage) ที่ดำเนินกิจการในเมียนมา หลังมีการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 โดยบริษัทเบียร์ต่างชาติดังกล่าวทำการจ่ายภาษี 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การจ่ายภาษีในครั้งนี้ถือเป็นการสนับสนุนผู้ที่ก่ออาชญากรรมสงครามและยังมีส่วนร่วมโดยตรงต่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้น ดังนั้นบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ต้องตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมเป็นอาชญากรรมของสภาทหารหรือไม่ หรือจะหยุดจ่ายภาษี

ที่มา : https://www.rfa.org/english/news/myanmar/beer-05082023095704.html

“เมียนมา” เผยการค้าระหว่างประเทศ ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลทางสถิติของกระทรวงพาณิชย์ ณ วันที่ 21 เม.ย. เปิดเผยว่ายอดการค้าระหว่างประเทศของเมียนมา มีมูลค่าอยู่ที่ 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 1.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบประมาณ 2566-2567 ตัวเลขดังกล่าวแบ่งเป็นรายได้จากการส่งออกกว่า 606.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้จากการนำเข้า 1.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อด่านชายแดนของเมียนมาและจีนกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้ง ส่งผลให้ยอดการค้าชายแดนพุ่งสูงขึ้นแตะ 503.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การค้าทางทะเลของเมียนมาที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ สินค้าส่งออกของเมียนมาส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์สัตว์และป่าไม้ แร่ธาตุและสินค้าสำเร็จรูป ในขณะเดียวกันเมียนมานำเข้าสินค้าประเภททุน วัตถุดิบป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-foreign-trade-crosses-us1-bln-as-of-21-april/#article-title

“รมต.ต่างประเทศจีน” เยือนชายแดนเมียนมา

นายฉิน กัง (Qin Gang) รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เรียกร้องให้มีความมั่งคงและการปราบปรามอาชญากรรมบริเวณพรมแดนของประเทศที่ติดกับประเทศเมียนมา โดยพรมแดนเมียนมาที่ติดกับประเทศจีนมีระยะทาง 2,129 กิโลเมตร มีภูเขาที่มีป่าไม้หนาทึบและมีชื่อเสียงในการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสู่ประเทศจีน ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ ระบุว่าการผลิตฝิ่นในเมียนมากลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หลังจากกองทัพเข้ายึดอำนาจรัฐบาลในปี 2564 การเพาะปลูกฝิ่นป๊อบปี้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลงและปัญหาอาชญากรรมที่ไม่เข็มงวด ทำให้ผู้คนหันมาซื้อยาเสพติดกันสูงขึ้น

อีกทั้ง รัฐมนตรีฯ ต่างประเทศของจีน กล่าวระหว่างการเยือนเมียนมาว่าพรรคคอมมิวนิสต์ท้องถิ่น หน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเข้าร่วมระบบเสริมสร้างป้องกันชายแดนและจำเป็นต้องมีการประสานงานการจัดการชายแดน เพื่อที่จะพัฒนาการค้าชายแดนและความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4880184

“เมียนมา” ชี้ธุรกิจอาหารแปรรูป 1,270 แห่ง ขึ้นทะเบียน GACC ภายใน 18 เดือน

กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่ามีบริษัทและโรงงานอาหารแปรรูปในเมียนมา จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,270 แห่ง ทำการยื่นขอจดทะเบียนกับศุลกากรจีน (GACC) ประกอบไปด้วย 2,200 รายการ ภายในระยะเวลาเพียง 18 เดือน โดยการขึ้นทะเบียนตามระเบียบ 248 และ 249 ผู้ส่งออกอาหารจำเป็นต้องขึ้นทะเบียน GACC ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ทั้งนี้ จากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2564 – 28 เม.ย. 2566 พบว่ามีโรงงานทำการยื่นคำขอจดทะเบียน GACC จำนวน 1,270 แห่ง และจำนวนรายการวมทั้งสิ้น 2,279 รายการที่มาจากกรมส่งเสริมการเกษตร 2,136 รายการ ตามมาด้วยกรมประมง 120 รายการ, กรมปศุสัตว์ 14 รายการ และสำนักงานอาหารและยา 9 รายการ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/over-1270-myanmar-food-processing-businesses-apply-for-gacc-within-18-months/#article-title

“เมียนมา” เผยเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า EV Charger มาถึงเมืองย่างกุ้ง

ตามรายงานของคณะกรรมการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยว่าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มาจากประเทศจีน ขนาด 7 กิโลวัตต์ (kW) จำนวน 10 เครื่อง ตามมาด้วยขนาด 11 kW จำนวน 10 เครื่อง, ขนาด 22 kW จำนวน 10 เครื่อง, ขนาด 60 kW จำนวน 6 เครื่อง และขนาด 240 kW จำนวน 2 เครื่อง ได้ส่งมายังเมืองย่างกุ้งแล้ว โดยเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวนำเข้ามาจากบริษัท Super Seven Stars Motors Industry ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการฯ อย่างไรก็ดี การนำเข้าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากร

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/ev-chargers-arrive-in-yangon/#article-title

“เมียนมาเฮ” รับราคามะม่วงเซ่งตะโลงพุ่ง ปี 66

นาย U Kyaw Soe Naing เลขาธิการสมาคมพัฒนาตลาดมะม่วงและเทคโนโลยีเมียนมาร์ (มัณฑะเลย์) กล่าวว่าราคาส่งออกของมะม่วงเพชรน้ำหนึ่ง (Sein Ta Lone) หรือมะม่วงพันธุ์ “เซ่งตะโลง” ไปยังตลาดจีนนั้น มีราคาค่อนข้างสูงในช่วงต้นฤดูมะม่วงของปีนี้ ซึ่งการที่ได้ราคาที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าและการขนส่ง ในขณะที่ผู้ปลูกบางรายได้เก็บผลมะม่วงก่อนกำหนดของฤดูกาลในปีที่แล้ว ทำให้ผู้ปลูกรายอื่นขาดทุน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/seintalone-mango-fetches-good-price-this-year/#article-title

“เมียนมา” เผยราคาเมล็ดมัสตาร์ดสูงขึ้นในตลาดมัณฑะเลย์

คุณ U Soe Win Myint เจ้าของศูนย์ค้าส่งในเมืองมัณฑะเลย์ เปิดเผยว่าราคาเมล็ดมัสตาร์ด (Mustard Seeds) ในปีที่แล้ว อยู่ที่ 3,200 จั๊ตต่อ Viss แต่ในปัจจุบันราคาขยับเพิ่มสูงขึ้นที่ 5,100 จั๊ตต่อ Viss และการค้าขายเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการจากประเทศอินเดียเพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้เกษตรกรชาวเมียนมาจึงควรขยายพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่เป็นเนินเขา นอกจากนี้ การเพาะปลูกเมล็ดมัสตาร์ดส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณภาคเหนือและภาคใต้ของรัฐฉาน รัฐกะฉิ่น รัฐกะยาและภาคซะไกง์ตอนบน จากนั้นจะถูกขายไปยังตลาดมัณฑะเลย์

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mustard-seed-fetching-higher-prices-marketable-in-mandalay/#article-title