บริษัทโรงสีข้าวและโกดังเมียนมา 448 ราย ยื่นขึ้นทะเบียนกับ GACC ช่วงครึ่งแรกปี 2566

กระทรวงพาณิชย์ของเมียนมา รายงานว่าในปีนี้ มีบริษัท 145 ราย โรงสีข้าว 161 ราย และคลังสินค้า 182 ราย เข้าขอยื่นขึ้นทะเบียนกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) และหากเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว มีเพียงบริษัท 62 ราย โรงสีข้าว 79 ราย และคลังสินค้า 19 ราย ทั้งนี้ มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) เป็นสิ่งที่จำเป็นในการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ รวมถึงตลาดจีน โดยข้าวเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของภาคการส่งออกของเมียนมา ดังนั้น กลุ่มสหพันธ์ข้าวของเมียนมาจึงจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้ตระหนักถึงมาตรการสุขอนามัยทางชีวภาพ รวมไปถึงการศึกษากฎหมายและกฎระเบียบของประเทศคู่ค้า และความปลอดภัยของอาหารในประเทศ นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้นายจ้างและผู้ที่เกี่ยวข้องกับโกดังข้าวและคลังสินค้า ทำการจัดเก็บข้าวอย่างเป็นระบบและตรวจสอบกฎระเบียบตามการส่งออกของต่างประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/banking-transactions-for-imports-on-myanmar-china-border-to-commence-1-august/#article-title

จีนพร้อมลงนาม MoU ร่วมกัมพูชา เพิ่มการส่งออกข้าว 5 แสนตัน

Lon Yeng เลขาธิการสมาพันธ์ข้าวกัมพูชา รายงานว่า กัมพูชาและจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เกี่ยวกับการส่งออกข้าวของกัมพูชาไปยังตลาดจีนแล้ว 6 ฉบับ และพร้อมที่จะลงนามในบันทึกความเข้าใจฉบับที่ 7 รวมถึงฉบับอื่นๆ โดยก่อนหน้านี้ Pan Sosak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ได้ประกาศเกี่ยวกับการลงนามในบันทึกความเข้าใจฉบับที่ 7 ในการส่งออกข้าว 500,000 ตัน ไปยังตลาดจีนในช่วงปี 2023-2024 ซึ่งหวังว่าการส่งออกข้าวของกัมพูชาเพิ่มมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้กัมพูชาได้ส่งออกข้าวจำนวน 400,000 ตัน ไปยังตลาดจีนตาม MoU ฉบับที่ 6 แสดงถึงความต้องการข้าวสารของกัมพูชาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501317088/china-ready-to-sign-7th-mou-with-cambodia-on-increasing-rice-purchase-by-500000-tonnes/

นายกฯ คาดส่งออกข้าวปี 66 ทะลุ 8 ล้านตัน ดันไทยกลับเป็นที่ 2 ของโลก

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานความคืบหน้าการส่งออกข้าวของไทย และการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทยตั้งแต่ปี 2563-2567 ผลักดันไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตและการตลาดข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลก โดยนายกเชื่อมั่นว่าการส่งออกข้าวไทย ปี 2566 จะเป็นไปตามการคาดการณ์ ที่ยอดมากกว่า 8 ล้านตัน และไทยกลับมาเป็นอันดับที่ 2 ประเทศส่งออกข้าวของโลก ซึ่งยอดส่งออกข้าวในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 นี้ มีปริมาณสูงถึง 2.62 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.41 ด้านโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลผลักดันให้เกิดการกระชับสัมพันธ์คู่ค้าสำคัญ และการหากลุ่มลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมตลาดข้าวมากขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทย ได้แก่ อิรัก อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา และจีน ประกอบกับ ที่ผ่านมาไทยเพิ่มโอกาสทางการค้าด้วยการจัดคณะผู้แทนเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์ เช่น ฮ่องกง จีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และแอฟริกาใต้ และเพิ่มโอกาสด้วยการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ เช่น งาน China–ASEAN Expo (จีน) งาน Fine Food (ออสเตรเลีย) และงาน ANUGA (เยอรมนี) เป็นต้น

ที่มา : https://www.naewna.com/business/740713

“เมียนมา” เผยเดือน พ.ค. ดันส่งออกพุ่ง 110,000 ตัน ในปีงบประมาณ 66-67

ตามข้อมูลของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) ระบุว่าเมียนมาส่งออกข้าวและปลายข้าวไปยังตลาดต่างประเทศในเดือน พ.ค. มากกว่า 110,000 ตัน ในปีงบประมาณ 2566-2567 รวมทั้งข้าว 46,786 ตัน และปลายข้าว 63,920 ตัน ทั้งนี้ ช่องทางการส่งออกข้าวส่วนใหญ่ของเมียนมาผ่านทางทะเล 102,801 ตัน ในขณะที่ผ่านทางชายแดน 7,905 ตัน นอกจากนี้ เมียนมาได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวไว้ที่ 2.5 ล้านตันในปีงบประมาณ 2566 และทำรายได้จากการส่งออกข้าวราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดจีนเป็นประเทศหลักของการส่งออกข้าวของเมียนมา ด้วยปริมาณมากกว่า 775,000 ตัน รองลงมาเบลเยียม 323,000 ตัน บังกลาเทศ 239,000 ตัน และฟิลิปปินส์ 202,000 ตัน ตามลำดับ อย่างไรก็ดี เมียนมาตั้งเป้าที่จะส่งเสริมการส่งออกข้าว 10% ต่อปี โดยให้ความสำคัญกับการส่งออกข้าวเกรดสูงและเพิ่มปริมาณการส่งออก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-over-110000-tonnes-of-rice-in-may-2023-2024-fy/#article-title

“เมียนมา” เผยเดือน เม.ย. ส่งออกข้าวลดลง 47,888 ตัน

กลุ่มสหพันธ์ข้าวของเมียนมา (MRF) เปิดเผยว่าปริมาณการส่งออกข้าวของเมียนมาในเดือน เม.ย. 2566 ลดลงเหลือ 47,888 ตัน หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 144,034.86 ตัน โดยมาเลเซียเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของเมียนมาในเดือน เม.ย. ด้วยปริมาณ 8,050 ตัน ขณะที่เบลเยียมเป็นผู้นำเข้าข้าวหัก (Broken Rice) มากที่สุดจากเมียนมา มีปริมาณการนำเข้าสูงถึง 15,725 ตัน ทั้งนี้ เมียนมาทำรายได้จากการส่งออกข้าวและปลายข้าว อยู่ที่ 853,472 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นปริมาณการส่งออกมากกว่า 2.2 ล้านตัน ในช่วงปีงบประมาณ 2565-2566 นอกจากนี้ ข้าวเป็นพืชผลทางการเกษตรที่มีการเพาะปลูกมากที่สุดในเมียนมา รองลงมาถั่วและถั่วพัลส์ (Pulses)

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2023/05/10/myanmar039s-rice-exports-decline-to-47888-tonnes-in-april

ไตรมาส 1 กัมพูชาส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศขยายตัวร้อยละ 3.5

กัมพูชาส่งออกข้าวสารไปยังตลาดต่างประเทศปริมาณรวม 176,581 ตัน ในช่วงไตรมาสแรกของปี คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 จากปริมาณ 170,539 ตัน ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รายงานโดยสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) ซึ่งจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าข้าวสารรายใหญ่ของกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 48 ของการส่งออกข้าวสารทั้งหมดของกัมพูชา ในช่วงไตรมาสแรกที่ปริมาณ 84,773 ตัน ขณะที่ Chan Sokheang ประธาน CRF ได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าวสารของกัมพูชาทั้งปีที่ 750,000 ตัน ในปี 2023 และขึ้นเพิ่มขึ้นไปแตะที่ 1 ล้านตัน ในช่วงปี 2025

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501279579/cambodias-milled-rice-export-up-3-5-pct-in-q1/

“เวียดนาม” เผยส่งออกข้าวพุ่ง หลังวิกฤตขาดแคลนข้าวโลก

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกข้าว 1.85 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่า 981.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.4% และ 34.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ โดยฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวจากเวียดนามประมาณ 9 แสนตันในไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าจะสั่งซื้อข้าวเพิ่มขึ้นในอนาคตข้างหน้า ทั้งนี้ ฟิทช์ โซลูชันส์ (Fitch Solutions) บริษัทวิจัยด้านการเงินการลงทุน ชี้ว่าปัญหาการขาดแคลนข้าวทั่วโลก เป็นวิกฤตที่รุนแรงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าปริมาณการขาดแคลนข้าวทั่วโลกจะอยู่ที่ 8.7 ล้านตันในปี 2565-2566 ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าตลาดข้าวจะอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก โดยเฉพาะข้าวของเวียดนามที่ได้รับประโยชน์ เนื่องจากความต้องการอาหารสำรองที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-rice-exports-surge-on-supply-crunch-post1016127.vov

ราคาส่งออกข้าวเวียดนาม ‘พุ่ง’

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2566 ราคาส่งออกข้าวของเวียดนามเพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) อยู่ที่ 532 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน การส่งออกข้าวมีปริมาณกว่า 1.79 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 952 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลมาจากสัดส่วนของข้าวคุณภาพสูงที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวหอม ข้าวเหนียวและข้าวพันธุ์พิเศษ เป็นต้น หากคิดเป็นสัดส่วนจะเห็นได้ว่าข้าวคุณภาพสูงมีสัดส่วนถึง 50% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด และในปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ราว 600 – 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าสถานการณ์การส่งออกข้าวของเวียดนามยังอยู่ในทิศทางที่สดใส เนื่องจากส่วนแบ่งทางการตลาดของข้าวคุณภาพสูงที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก ทำให้ความต้องการอาหารในการสะสมเพิ่มมากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/rice-export-prices-on-the-rise/251650.vnp

“เมียนมา” เผยราคาข้าวในประเทศขยับขึ้น

จากข้อมูลของศูนย์ค้าส่งข้าววาดัน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 เปิดเผยว่าราคาข้าวหอมปอว์ ซาน (Paw San) อยู่ที่ประมาณ 72,000 – 90,000 จั๊ตต่อกระสอบ ขึ้นอยู่กับพื้นที่การผลิต ได้แก่ Shwebo, Myaungmya, Dedaye, Pyapon และ Pathein เป็นต้น และจากข้อมูลเมื่อวันที่ 3 เมษายน พบว่าราคาข้าวหอมปอว์ ซาน ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นราว 75,000 – 93,000 จั๊ตต่อกระสอบ รวมถึงราคาข้าวพันธุ์ต่างๆ ขยับเพิ่มสูงขึ้น 1,000 – 3,000 จั๊ตต่อกระสอบภายในระยะเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rice-price-move-upwards-in-domestic-market/#article-title

ไพรแวก ถูกจัดให้เป็นจังหวัดที่สามารถผลิตข้าวได้เป็นอันดับต้นๆ ของกัมพูชา

ไพรแวก ถูกจัดให้เป็นจังหวัดที่สามารถผลิตข้าวได้เป็นอันดับต้นๆ ของกัมพูชา โดยเฉพาะเพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ กล่าวโดย Chea Somethy ผู้ว่าการจังหวัดไพรแวง จากข้อมูลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจังหวัดไพรแวกสามารถผลิตข้าวเปลือกได้มากกว่า 7 ล้านตัน หรือเฉลี่ยมากกว่า 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งหลังหักจากการบริโภคภายในจังหวัดแล้ว พบว่ามีข้าวเปลือกส่วนเกินกว่า 5 ล้านตัน และได้ทำการกระจายไปยังตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างรายได้ประมาณกว่า 1,250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบัน Ouk Samnang ผู้อำนวยการกรมวิชาการเกษตร ป่าไม้ และประมงจังหวัดไพรแวง กล่าวเสริมว่า การขยายตัวของผลผลิตข้าวในจังหวัดมาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการชลประทาน จนทำให้เกษตรกรสามารถปลูกข้าวได้หลายครั้งต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501261721/prey-veng-the-biggest-rice-producer-in-cambodia/