‘IMF’ คาดเวียดนามขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 20 ของเศรษฐกิจโลก

จากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในแง่ของความเสมอภาคของอำนาจซื้อ (PPP) คาดว่าจะอยู่อันดับที่ 25 ของโลกในปี 2565 ซึ่งอยู่ต่ำกว่าประเทศออสเตรเลียและโปแลนด์ โดยเฉพาะออสเตรเลียที่มีมูลค่ากว่า 1.63 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 20 ของโลก ในขณะที่โปแลนด์มีมูลค่า 1.64 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 19 ทั้งนี้ IMF ยังคาดการณ์ว่าภายในปี 2566 เวียดนามจะรักษาอันดับที่ 4 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากการคาดการณ์ตัวเลข GDP ในแง่ของอำนาจซื้อ ด้วยมูลค่าประมาณ 1.45 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เส้นทางการเติบโตที่ประสบความสำเร็จของเวียดนาม แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศที่ดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจ การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและการส่งเสริมวัฒนธรรม ตลอดจนการส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจและพนักงานหรือแรงงานรุ่นใหม่ ด้วยเหตุนี้ เวียดนามพร้อมที่จะกลายมาเป็นผู้เล่นหลักในเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระดับโลก

ที่มา : https://vir.com.vn/vietnam-projected-to-become-20th-largest-global-economy-102224.html

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปีนี้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4.6 ล้านคน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศกว่า 4.6 ล้านคน ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 12.6 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลง 6.9% จากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการเปิดพรมแดนอีกครั้งของเวียดนามและการเปิดกิจกรรมการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 2565 ทำให้เวียดนามตั้งเป้าที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 ล้านคนในปี 2565 แต่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพียง 3.66 ล้านคน ด้วยเหตุนี้ เวียดนามได้ตั้งเป้าที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 ล้านคนในปีนี้ แต่ตั้งเป้าไว้ก่อนที่จีนจะประกาศเปิดอย่างเป็นทางการอีกครั้งในต้นเดือน ก.พ. และอนุญาตกรุ๊ปทัวร์ไปเวียดนามในกลางเดือน มี.ค.

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vn-received-4-6mil-foreign-visitors-in-five-months-over-half-the-year-s-target-2148761.html

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปีนี้ เกินดุลการค้า 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยตัวเลขการค้าระหว่างประเทศในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ พบว่ามูลค่าการนำเข้าและส่งออกของเวียดนาม อยู่ที่ราว 262.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 14.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ที่มีการส่งออก 136.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 126.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 11.6% และ 17.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามลำดับ ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้าประมาณ 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ โครงสร้างการส่งออกสินค้าของเวียดนาม พบว่าสินค้าอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปทำรายได้จากการส่งออกมากที่สุด คิดเป็นมูลค่า 120.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นสัดส่วนราว 88.3% ของการส่งออกรวม รองลงมาสินค้าการเกษตร ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและเชื้อเพลิง

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-posts-trade-surplus-of-9-8-billion-usd-in-five-months-2148607.html#vnn_source=news&vnn_medium=listtin11

“Deutsche Bank” เพิ่มการจัดสรรเงินทุนในเวียดนามเกือบ 2 เท่า กว่า 200 ล้านดอลล์

สำนักข่าว The Business Times รายงานว่า Deutsche Bank เพิ่มการจัดสรรเงินทุนในเวียดนามเกือบ 2 เท่า ทำให้เงินอัดฉีดรวมเป็นกว่า 200 ล้านดอลลาร์ Deutsche Bank กล่าวเมื่อวันจันทร์ (29 พ.ค.) ว่าการเพิ่มทุนจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธนาคารในเวียดนาม และช่วยให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้นสำหรับลูกค้า โดยสิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากรายได้ของสาขาเอเชียแปซิฟิกของธนาคารเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยเวียดนามเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญสำหรับภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ Alexander von zur Muehlen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Deutsche Bank กล่าวว่าการลงทุนในเวียดนามครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของเราต่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วของตลาดนี้และเส้นทางการเติบโตในระยะยาว เวียดนามเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา การเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถรองรับแผนการขยายธุรกิจของลูกค้าในประเทศได้ดีขึ้น และเช่นเดียวกันกับเศรษฐกิจเวียดนามในวงกว้าง

อีกทั้งการพัฒนาของเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก รวมถึง Adani Group ซึ่งมีรายงานว่ากำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการลงทุนมูลค่าสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์ ในโครงการท่าเรือและพลังงานหมุนเวียนในประเทศ

ที่มา : https://moneyandbanking.co.th/2023/41265/

เงินเฟ้อ ‘เวียดนาม’ เดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.01%

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของเวียดนาม (CPI) เดือนพฤษภาคม ปี 2566 เพิ่มขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2.43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุสำคัญมาจากราคาอาหาร ค่าไฟฟ้าและน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานฯ ระบุว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อตั้งแต่ต้นปีนี้มีทิศทางที่ชะลอตัวลง โดยในเดือน ม.ค. อยู่ที่ 4.89%, เดือน ก.พ. 4.31%, เดือน มี.ค. 3.35%, เดือน เม.ย. 2.81% และเดือนพ.ค. 2.43%

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนพฤษภาคม ปี 2566 เพิ่มขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 4.83% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของดัชนีราคาผู้บริโภค 3.55%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/cpi-increases-by-001-in-may/253788.vnp

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปี 66 ยอดผู้โดยสารเข้าประเทศ พุ่ง 45.5 ล้านคน

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณผู้โดยสาร รวม 45.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 37.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยจากตัวเลขข้างต้น มีชาวต่างชาติ 12 ล้านคน และคนในประเทศ 33.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 679.6% และ 33.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามลำดับ ทั้งนี้ จากข้อมูตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. สายการบินเวียดนามให้บริการผู้โดยสาร รวมทั้งสิ้น 22.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 36.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดนั้น มีผู้โดยสารในประเทศ 16.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับปี 2565 และมีผู้โดยสารชาวต่างชาติ 5.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5,525.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังมีการจำกัดการเดินทางที่ยาวนานกว่า 2 ปี อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการสายการบินดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1544347/air-passenger-volume-soars-during-first-five-months.html