‘เวียดนาม – สหรัฐ’ เร่งเจรจาข้อตกลงการค้า

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เปิดการเจรจาข้อตกลงการค้าทวิภาคีระหว่างสหรัฐอเมริกาและเวียดนาม จัดขึ้นที่กรุงปารีส โดยการประชุมในครั้งนี้ มีนายเหงียน ฮ่อง เดียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของรัฐบาลเวียดนาม และนายเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เป็นประธานร่วม

ทั้งนี้ ด้านนายเดียน ได้นำเสนอประเด็นหลักที่มีเพิ่มเติมจากฝ่ายสหรัฐฯ และเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเวียดนามในการทำงานร่วมกันกับสหรัฐฯ เพื่อให้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน ในขณะเดียวกัน นายกรีเออร์ ชื่นชมความปรารถนานีของเวียดนามในการแสวงหาแนวทางจัดการร่วมกัน และเข้าใจถึงแนวทางการเจรจาของเวียดนาม โดยเน้นย้ำกว่าการบรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม มีความสำคัญอย่างมากสำหรับทั้งสองประเทศ ซึ่งในปัจจุบันทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน

อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังจำเป็นที่จะต้องเจรจาในครั้งที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะเจรจาในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-and-united-states-step-up-trade-agreement-negotiations-post1204731.vov

‘เวียดนาม’ ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ

ในระหว่างการเยือนสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 20 พ.ค. นายเหงียน ฮ่อง เดียน (Nguyen Hong Dien) รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม และหัวหน้าคณะเจรจาของรัฐบาลเวียดนาม ได้ประชุมหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ได้แก่ Excelerate Energy, Lockheed Martin, SpaceX และ Google โดยการหารือในครั้งนี้ เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ รวมถึงพลังงาน อวกาศ เทคโนโลยีขั้นสูง และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

ทั้งนี้ รัฐมนตรีฯ ร้องขอให้บริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ส่งสารจากเวียดนามไปยังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ การสร้างความสมดุลทางการค้าที่เป็นธรรม และการสร้างความยั่งยืนของทั้งสองประเทศ รวมถึงเน้นย้ำว่าเวียดนามควรได้รับการปฏิบัติเป็นคู่ค้าที่สำคัญของสหรัฐฯ

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/vietnam-bolsters-strategic-ties-with-top-american-companies.htm

‘สหรัฐฯ – เวียดนาม’ เปิดเจรจาข้อตกลงการค้า หลังระงับภาษีศุลกากร

รองนายกรัฐมนตรี โฮ ดุ๊ก ฟก (Ho Duc Phoc) ได้เริ่มที่จะเจรเจากับนายเจมสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เพื่อที่จะทำข้อตกลงการค้าร่วมกัน แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่สหรัฐฯ ระงับการเลื่อนการจัดเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูงถึง 46% จากทั่วโลก โดยจากการแถลงการณ์ครั้งล่าสุด จากการหารือของทั้งสองประเทศนั้นครอบคลุมถึงเรื่องการค้าต่างตอบแทน (Reciprocal Trade) และโอกาสทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ถึงแม้ว่าจะระงับการใช้ภาษีศุลกากร แต่ยังคงเก็บภาษีศุลกากรจากทุกประเทศในอัตรา 10% ของสินค้านำเข้าทั้งหมด ทั้งนี้ เวียดนามเป็นฐานการผลิตในภูมิภาคที่สำคัญของบริษัทตะวันตกหลายแห่ง และเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากกว่า 123 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.reuters.com/world/asia-pacific/us-vietnam-agree-launch-trade-deal-talks-tariffs-paused-2025-04-10/

‘เวียดนาม’ ประเมินนโยบายการค้าใหม่ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบจำกัด

นาย Nguyen Sinh Nhat Tan รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่าเวียดนามไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากนโยบายการค้าใหม่ของสหรัฐฯ เนื่องจากสินค้าส่งออกของเวียดนามไม่ได้แข่งขันกันโดยตรงกับบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ในตลาดภายในประเทศ ในทางตรงกันข้าม การส่งออกของเวียดนาม ช่วยให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงสินค้าราคาถูกลงได้ ทั้งนี้ เวียดนามติดตามนโยบายของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดตั้งแต่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี เพื่อเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อที่จะจัดการประชุมในเดือนมีนาคมนี้

นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามยังได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล ดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขข้อกังวลของสหรัฐฯ โดยยึดหลักการค้าที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับระเบียบกฎหมาย รวมถึงผลประโยชน์ที่สมดุลของทั้งสองฝ่าย

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-sees-no-significant-impacts-from-us-s-new-trade-policies-official-2378540.html

‘เวียดนาม’ ชี้ยังมีโอกาสส่งออกเหล็ก-อลูมิเนียม ไปสหรัฐฯ แม้เผชิญภาษีนำเข้า

คุณ Đỗ Ngọc Hưng ที่ปรึกษาทางการค้า และผู้อำนวยการสำนักงานการค้าเวียดนาม ประจำสหรัฐฯ กล่าวว่าถึงแม้สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% แต่การส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมของเวียดนามยังคงมีศักยภาพในการเติบโตเชิงบวกและมีความพร้อมในการปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงสหรัฐฯ ยังไม่สามารถตอบสนองกับความต้องการเหล็กในประเทศได้อย่างเต็มที่ จึงมีโอกาสที่จะให้เวียดนามส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมไปยังตลาดได้ ในขณะเดียวกัน คุณภาพและราคาเหล็กและอลูมิเนียมของเวียดนาม ได้รับการยอมรับ

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการ มองว่าการขึ้นภาษีศุลกากรดังกล่าว มีผลกระทบน้อยมาก และจากข้อมูลของสมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) ระบุว่าเวียดนามส่งออกเหล็กและเหล็กกล้าในปี 2567 ประมาณ 12.6 ล้านคน ทำรายได้ราว 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 13% รองจากอาเซียน 26% และสหภาพยุโรป 23%

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1692289/viet-nam-still-has-a-chance-to-export-steel-and-aluminium-to-us-despite-tariffs.html

‘เวียดนาม-สหรัฐ’ ยอดการค้า ม.ค. พุ่งเกิน 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าการค้าระหว่างประเทศเวียดนามและสหรัฐอเมริกา เดือนมกราคม 2568 มูลค่า 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกมีมูลค่า 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้ามีมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้าราว 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน (YoY)

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญการค้า กล่าวว่าสหรัฐฯ เป็นตลาดสำคัญของผู้ประกอบการเวียดนามที่ต้องการขยายธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก ซึ่งในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ มองว่าเวียดนามเป็นผู้เล่นสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ

ในขณะที่สำนักงานการค้าเวียดนาม ประจำสหรัฐฯ แนะนำให้ธุรกิจเวียดนามประสานความร่วมมือกับผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายในสหรัฐฯ รวมถึงนำกลยุทธ์การลดความเสี่ยงมาปรับใช้ และปฏิบัติตามกฎระเบียบการค้าอย่างเคร่งครัด

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnam-us-trade-tops-11-billion-usd-in-january-post144039.html

‘เวียดนาม’ คาดการณ์ส่งออกไปสหรัฐ ปี 68 แตะ 130 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานส่งเสริมการค้าเวียดนาม เปิดเผยว่าในปี 2568 การค้าระหว่างเวียดนามและสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มูลค่าการค้าอยู่ที่ราว 125 – 130 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ สิ่งทอ สินค้าหัตถกรรมจากไม้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าทางการเกษตร

ทั้งนี้ นายเจิ่น แท็งห์ ไห่ (Tran Thanh Hai) รองผู้อำนวยการฝ่ายส่งออกและนำเข้า กล่าวว่าในปี 2567 สหรัฐอเมริกายังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนาม และเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุด และจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) พบว่ายอดการค้าของทั้งสองประเทศ มูลค่า 134.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.5% และการส่งออกของเวียดนามไปยังสหรัฐ อยู่ที่ 119.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.3% ในขณะที่การนำเข้าของเวียดนาม 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.8%

อย่างไรก็ดี แนวโน้มการส่งออกไปยังสหรัฐในปีนี้ มีความผันผวนอย่างมาก เนื่องจากนโยบายการค้าของทรัมป์ โดยเฉพาะมาตรการป้องกันทางการค้า

ที่มา : https://hanoitimes.vn/vietnams-exports-to-us-projected-to-reach-us130-billion-in-2025-329084.html

‘เวียดนาม’ มุ่งยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังตลาดสหรัฐฯ

จากข้อมูลของสำนักงานการค้าต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และตัวเลขสถิติของคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา พบว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 สหรัฐฯ มีการนำเข้ายางพารา 1.43 ล้านตัน อย่างไรก็ดีเวียดนามส่งออกไปยังสหรัฐฯได้เพียง 20,370 ตัน มูลค่า 28.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 13 ในกลุ่มซัพพลายเออร์ยางพาราในตลาดสหรัฐฯ และคิดเป็นสัดส่วนราว 1.42% ของปริมาณการนำเข้ายางทั้งหมดของสหรัฐฯ โดยคู่แข่งรายใหญ่ ได้แก่ อินโดนีเซียและไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดในสหรัฐฯ มากที่สุด

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสินค้าประมง แสดงให้เห็นว่าในช่วง 10 เดือนของปีที่แล้ว เวียดนามส่งออกสินค้าประมงไปยังสหรัฐฯ อยู่ในระดับมาก และอยู่ในอันดับที่ 2 ของผู้ส่งออกรายใหญ่ โดยเฉพาะกุ้ง ปลาสวายและปลาทูน่า

นอกจากนี้ นาย Do Ngoc Hung ที่ปรึกษาด้านการพาณิชย์ของเวียดนาม แนะนำให้ผู้ประกอบการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและมีมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-strives-to-increase-competitiveness-for-agricultural-exports-to-us/278092.vnp

‘สหรัฐอเมริกา’ ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะที่เวียดนามกลายมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 7 ของสหรัฐฯ และยังเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยจากตัวเลขสถิติการค้าระหว่างประเทศ พบว่ายอดการค้าระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 16% ต่อปี เพิ่มขึ้นเกินกว่า 550% จาก 21.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2554 ขึ้นมาอยู่ที่ 123 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน สหรัฐฯ เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับที่ 11 จาก 108 นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในเวียดนาม และมีการลงทุน 1,200 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนราว 11.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ กิจการรายใหญ่ของสหรัฐฯ ยังคงให้ความสนใจและต้องการลงทุนระยะยาวในเวียดนาม รวมถึงมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความร่วมมือกับเวียดนามและร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/us-remains-vietnams-largest-export-market-post1058710.vov

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าส่งออกมะพร้าว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายกาว บา ดัง ควา รองเลขาธิการสมาคมมะพร้าวเวียดนาม (VCA) ระบุว่ามะพร้าวนับเป็นแหล่งรายได้ให้กับกลุ่มครัวเรือนเกษตรกร ประมาณ 390,000 ครัวเรือน และหากพิจารณาตัวเลขของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวเมื่อปี 2552 พบว่าทำรายได้จากการส่งออกเพียง 1 แสนดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ว่าตัวเลขของการส่งออกดังกล่าวได้ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 940 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 ด้วยเหตุนี้ จากการประชุมของสมาคมฯ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. มีมติที่ประชุมให้ตั้งเป้าการส่งออกมะพร้าวต่อปี อยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ มะพร้าวของเวียดนามยังได้รับการอนุมัติให้ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา และบางประเทศในยุโรป

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnams-coconut-sector-aims-for-export-revenue-of-1-billion-usd-post130737.html