ธนาคารหัตถาประจำประเทศกัมพูชาได้รับการอนุมัติให้ปล่อยกู้เพิ่มได้

ธนาคารหัตถาประจำประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นบริษัทลูกของธนากรุงศรีแห่งประเทศไทย ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ให้ระดมทุนเพิ่มเติมอีก 25 ล้านดอลลาร์ ในการปล่อยกู้ให้กับลูกค้าเพื่อช่วยเหลือการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาด โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารยืนยันว่าหัตถาได้รับการอนุมัติให้เพิ่มทุนในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ถือเป็นกระดูกสันหลังทางเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยสถานการณ์ในเดือนมีนาคมสมาชิกสมาคมไมโครไฟแนนซ์แห่งกัมพูชา (CMA) ได้ปรับโครงสร้างเงินกู้ให้กับลูกค้ามากกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ สำหรับผู้กู้เกือบ 300,000 ราย นับตั้งแต่ NBC ออกคำสั่งครั้งแรกตามที่ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร CMA กล่าว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50851507/hattha-bank-receives-greenlight-to-raise-25-million-in-capital/

กัมพูชาพิจารณาให้โรงงานในเขตพื้นที่สีเหลืองกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง

โรงงานและสถานประกอบการอย่างน้อย 95 แห่ง ในเขตพื้นที่สีเหลืองเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตใหม่อีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลกัมพูชาได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองพนมเปญและในเขตตาเขมาแบ่งออกเป็นสามโซน โดยโรงงานในเขตพื้นที่สีเหลืองเป็นโซนแรกที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาดำเนินการได้ตามปกติอีกครั้งภายใต้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งทางการกัมพูชากล่าวถึงการเริ่มห่วงโซ่การผลิตใหม่ในโรงงานและสถานประกอบการข้างต้นถือเป็นสัญญาณที่ดีในภาคการผลิตภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน แม้ว่าการระบาดของโควิด-19 จะยังไม่สิ้นสุดลงก็ตาม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าคนงานมากกว่าครึ่งหนึ่ง สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ส่วนที่เหลือที่อยู่ในเขตพื้นที่สีส้มและสีแดงทางรัฐบาลยังคงจำเป็นต้องล็อกดาวน์และให้ทำงานจากทางบ้านอยู่จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะดีขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50851509/nearly-100-factories-reopen-in-yellow-zones-but-virus-remains/

กัมพูชาส่งออกยางพารามูลค่าเกือบ 100 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรก

กัมพูชาส่งออกยางธรรมชาติราว 99.87 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนของปีนี้ ตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรป่าไม้และประมง โดยรวมแล้วมีการส่งออกยางธรรมชาติ 61,056 ตันในช่วงสี่เดือน ซึ่งส่งผลทำให้รายรับจากการส่งออกยางพาราเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 จากช่วงเดียวกันของปี 2020 ที่ทำได้ที่ 97.43 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของกระทรวง โดยรายงานล่าสุดของ MAFF ระบุว่าราคายางพาราภายในประเทศกัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 1,584 ดอลลาร์ต่อตันในปี 2021 ต่ำกว่ารายงานแนวโน้มราคาตลาดของ WTO ณ เดือนเมษายน อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรายงานได้รายงานว่าราคายางในตลาดโลกเพิ่มขึ้นจาก 1.73 ดอลลาร์ / กก. ในปี 2020 เป็น 2.25 ดอลลาร์ / กก. ในปี 2021 โดยในปี 2019 กัมพูชาส่งออกยางพารารวมทั้งสิ้นจำนวน 242 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งออกไปยังเวียดนามกว่าร้อยละ 67.5 ตามข้อมูลของ Observatory of Economic Complexity (OEC)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50850637/rubber-exports-approach-100-million-january-april/

Q1 กัมพูชาส่งออกเสื้อผ้ามูลค่ารวม 2.4 พันล้านดอลลาร์

การส่งออกผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าของกัมพูชาหดตัวในไตรมาสแรก เป็นผลมาจากโรงงานหลายร้อยแห่งยังคงหยุดดำเนินการเป็นการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเขตพื้นที่จังหวัดพนมเปญและจังหวัดกันดาล โดยการส่งออกเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าด้านการเดินทางของกัมพูชามีมูลค่าการส่งออกรวม 2.4 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรกของปี 2021 ซึ่งลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามตัวเลขของกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน โดยรัฐบาลคาดว่าห่วงโซ่การผลิตจะกลับมาเป็นปกติเมื่อสถานการณ์ โควิด-19 ดีขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันจำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวทางมาตรการด้านสุขภาพของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50850644/q1-garment-exports-valued-at-2-4-billion/

ADB ปรับการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชาหลังล็อกดาวน์

หลังจากที่ทางการกัมพูชาได้ทำการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่เขตที่มีการระบาดของโควิด-19 เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ทำให้การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมดภายในกัมพูชาจำเป็นต้องทำการประเมินใหม่อีกครั้ง โดย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) มองว่าการฟื้นตัวในปีนี้และปีหน้าจะอยู่ที่ในกรอบร้อยละ 4 และร้อยละ 5.5 ตามลำดับ ซึ่งในปี 2020 เศรษฐกิจของกัมพูชาหดตัวร้อยละ 3.1 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยในปัจจุบันรัฐบาลกัมพูชาได้ตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาจะกลับมาเติบโตในปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50847837/lockdown-length-could-alter-growth-predictions-adb/

EXIM แบงก์ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ไทย ในกัมพูชาและเมียนมา

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM bank) ออกมาตรการช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ทำธุรกิจในกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV) เพื่อลดผลกระทบทางการเงินจากการระบาดของโควิด-19 และความไม่สงบทางการเมืองในเมียนมา ผ่านมาตรการช่วยเหลือด้านเงินกู้ซอฟท์โลนและกำหนดให้หยุดชำระคืนเงินต้นชั่วคราวเป็นระยะเวลา 12 เดือน ส่วนมาตรการเสนอวงเงินกู้ใหม่สำหรับผู้ประกอบการใน CLMV เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยคิดเป็นเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 638,000 ดอลลาร์ต่อปี คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.99 ต่อปี ระยะเวลาชำระคืน 3 ปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50847917/thai-bank-aids-smes-in-kingdom-over-myanmar/

จีนอนุมัติการส่งออกมะม่วงของกัมพูชาอย่างเป็นทางการ

จีนได้อนุมติให้กัมพูชาสามารถส่งออกมะม่วงที่ผลิตในท้องถิ่นของกัมพูชาและทำการแปรรูปในกลุ่มโรงงานขนาดเล็กที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ภายในประเทศกัมพูชาโดยจีน ซึ่งหน่วยงานบริหารทั่วไปของกรมศุลกากรจีน (GACC) อนุมัติโรงงานแปรรูปมะม่วง 5 แห่ง และสวนมะม่วงจำนวน 37 แห่ง อย่างเป็นทางการ โดย GACC ได้ทำการประกาศในสัปดาห์นี้และเปิดเผยรายชื่อโรงงานที่ได้รับอนุมัติได้แก่ Hyundai Mao Legacy Co Ltd., Shangda Jian Hui International Agriculture Product and Logistics Co Ltd., Al Jazeelan Food PTE Ltd., Long Wo Agriculture (Cambodia) Co Ltd. และ Boeung Ket Fresh Fruits Co Ltd. ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วเจ้าหน้าที่ของจีนและกัมพูชาได้ร่วมกันประเมินฟาร์มและโรงงานแปรรูปหลายแห่งเพื่อประเมินถึงความสามารถในการผลิตมะม่วงเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีนได้หรือไม่ โดยทั้งจีนและกัมพูชาได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งคาดว่าการส่งออกมะม่วงของกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภายใต้สนธิสัญญาการค้าฉบับใหม่

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50846766/mangoes-receive-official-approval-for-export-to-china/

รัฐบาลกัมพูชาเตรียมอนุมัติให้โรงงานตัดเย็บในเขตพื้นที่สีเหลืองกลับมาเปิดอีกครั้ง

รัฐบาลกัมพูชาระบุว่าโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าและโรงงานผลิตด้านอื่น ๆ ในเขตพื้นที่สีเหลือง ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดดำเนินกิจการใหม่ได้อีกครั้งในวันที่ 29 เมษายน 2021 ดังประกาศของรัฐบาลกัมพูชาที่ได้กล่าวไว้ว่า กิจกรรมการทำงาน อาชีพ และธุรกิจทั้งหมดที่อยู่ในเขตพื้นที่สีเหลือง อนุญาตให้กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ซึ่งโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าทุกแห่งในพนมเปญและเมืองตาเขมาจังหวัดกันดาล ถูกสั่งให้หยุดดำเนินการเมื่อต้นเดือนนี้ หลังจากพบว่ามีคนงานหลายพันคนติดโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50846999/yellow-zone-garment-factories-may-re-open-but-with-caution/

HLH ร่วมกับ CMEC พัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 200 เมกะวัตต์ในกัมพูชา

นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Hong Lai Huat Group Ltd (SGX: CTO) และ China Machinery Engineering Corp (HKG: 1829) หรือ CMEC ได้ร่วมมือกันพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 200 เมกะวัตต์ที่ Aoral Eco-City ในกัมพูชา โดย HLH และ CMEC ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน (MoU) เพื่อสร้างนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) และทำงานร่วมกันเป็นเวลาอย่างน้อย 20 ปี ซึ่งโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชาตามที่ผู้จัดการทั่วไปและกรรมการบริหารของ HLH ได้กล่าวไว้ โดย Aoral Eco-City เป็นโครงการ “การพัฒนาเมืองเชิงนิเวศเกษตรผสมผสานขนาดใหญ่” ที่พัฒนาโดย HLH ภายในกัมพูชา ด้วยการสร้างสวนพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ โดยใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง CMEC จะเป็นฝ่ายกำหนดโซลูชันที่เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรสำหรับโครงการนี้ เมื่อเสร็จสิ้นสวนพลังงานแสงอาทิตย์จะสามารถขายไฟฟ้าให้กับ Electricite du Cambodge (EDC) ของรัฐ

ที่มา : http://khmertimeskh.com/50846094/hlh-cmec-to-co-develop-200-mw-solar-project-in-cambodia/

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในกัมพูชาต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐฯ

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) กำลังมองว่าโครงสร้างพื้นฐานใยแก้วนำแสงภายในประเทศกัมพูชา ที่กำลังจะเสื่อมสภาพลง จึงเห็นถึงปัญหาที่จำเป็นต้องแก้ไขเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ในเมืองหลวงต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตเพื่อทำงานจากที่บ้าน โดยบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตกล่าวว่า ณ ปัจจุบันไม่สามารถดูแลรักษาสายไฟเบอร์ออปติกที่สำคัญได้อย่างทั่วถึงและเหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าการให้บริการอินเทอร์เน็ตของบริษัทจะเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพและรวดเร็ว ซึ่งจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 (ประมาณ 1.1 ล้านคน) ในปี 2020 โดยในปัจจุบันทางการกัมพูชาอนุญาตให้พนักงานเดินทางเพื่อทำการปรับปรุงโครงข่ายได้เพียงร้อยละ 2 ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายได้อย่างครอบคลุม บริษัทจึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยผ่อนคลายมาตรการ เพื่ออำนวยให้การดูแลเครือข่ายเป็นไปได้อย่างทั่วถึง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50845942/internet-providers-need-more-staff-to-maintain-networks/