สมัชชาแห่งชาติ (NA) ตั้งเป้าเศรษฐกิจ สปป.ลาว โต 4.5% ปีนี้

สมัชชาแห่งชาติ (NA) ตั้งเป้าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างน้อยร้อยละ 4.5 ในปี 2023 ตามที่รัฐบาล สปป.ลาว เสนอ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก โดยภาคการเกษตรคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 2.5 คิดเป็นร้อยละ 17.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมจะเติบโตที่ร้อยละ 5 คิดเป็นร้อยละ 34.2 ของ GDP ภาคบริการคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.7 คิดเป็นร้อยละ 37.5 ของ GDP ในขณะที่การจัดเก็บภาษีคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.3 คิดเป็นร้อยละ 11.1 ของ GDP ซึ่งมูลค่าของ GDP คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 234,160 พันล้านกีบภายในสิ้นปีนี้ โดย GDP ต่อหัวอยู่ที่ 1,625 ดอลลาร์ และรายได้มวลรวมประชาชาติ (GNI) ต่อหัวอยู่ที่ 1,534 ดอลลาร์ ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2022 อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดกว่าที่ร้อยละ 38.46 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 36.75 ในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ปริมาณเงินในความหมายอย่างกว้าง (M2) หรือเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2022

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten02_Na_23y.php

กัมพูชาส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 ในปี 2022

สมาพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) กล่าวถึงสถานการณ์การส่งออกข้าวสารของกัมพูชาในช่วงปี 2022 พุ่งแตะ 637,004 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศในปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จากปริมาณ 617,069 ตัน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่งออกไปยัง 59 ประเทศทั่วโลก ขณะที่การส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มูลค่ารวมอยู่ที่ 414 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนยังคงเป็นผู้นำข้าวข้าวสารรายใหญ่อันดับต้นๆ ของกัมพูชา โดยพันธุ์ข้าวที่ได้รับความนิยมในการส่งออก ได้แก่ ข้าวหอมพรีเมียม ข้าวหอม ข้าวขาวเมล็ดยาว ข้าวนึ่ง ข้าวอินทรีย์ และข้าวเหนียว ด้าน Dith Tina รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงของกัมพูชากล่าวเสริมว่าจีนจะยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญสำหรับสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพของกัมพูชาผ่านข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CKFTA)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501213617/cambodias-milled-rice-export-up-3-2-pct-in-2022/

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศ RCEP โต 5% มูลค่า 5.6 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 5,671 ล้านดอลลาร์ ไปยังประเทศกลุ่มสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในช่วง 11 เดือนของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งประเทศปลายทางสำคัญสำหรับการส่งออกของกัมพูชาผ่าน RECP 3 อันดับแรก ได้แก่ เวียดนาม จีน และญี่ปุ่น คิดเป็นมูลค่าการส่งออกมูลค่า 1,894 ล้านดอลลาร์ 1,109 ล้านดอลลาร์ และ 1,069 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ โดยจีนยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าส่งออกกัมพูชา ด้วยมูลค่ารวม 9,470 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือเวียดนาม, ไทย และสิงคโปร์ ด้วยมูลค่า 3,617 ล้านดอลลาร์, 3,542 ล้านดอลลาร์ และ 3,169 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ซึ่งกัมพูชาคาดว่าการส่งออกจะเติบโตระหว่างร้อยละ 9.4 ถึงร้อยละ 18 ในปี 2023 ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตระหว่างร้อยละ 2 ถึงร้อยละ 3.8

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501213231/cambodias-export-to-rcep-countries-up-5-percent-at-5-6b/

ส่งออกข้าวไทย 11 เดือน โกย 1.2 แสนล้าน โตเกิน 100%

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึง การส่งออกข้าวช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ย. 2565) มีปริมาณ 6,907,761 ตัน มูลค่า 123,511.3 ล้านบาท (3,552.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 26.8% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 29.2% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ส่งออกปริมาณ 5,445,810 ตัน มูลค่า 95,591.7 ล้านบาท (3,027.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) การส่งออกเดือน พ.ย. 2565 มีปริมาณ 706,270 ตัน มูลค่า 14,333.3 ล้านบาท ปริมาณลดลง 11.1%แต่มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2565 ที่ส่งออกปริมาณ 794,224 ตัน มูลค่า 13,974.1 ล้านบาท เนื่องจากเดือน พ.ย. ส่งออกข้าวนึ่งและข้าวขาวลดลงจากเดือนก่อนที่มีการเร่งส่งมอบข้าวเพื่อให้ทันใช้ในช่วงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ นายเจริญ กล่าวว่าการส่งออกข้าวหอมมะลิ พบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นมากจากเดือนก่อนมาก โดยมีปริมาณ 136,435 ตัน เพิ่มขึ้น 102.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดที่สำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง แคนาดา สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวขาวมีปริมาณ 347,473 ตัน ลดลง 17.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศอิรัก จีน ญี่ปุ่น แองโกล่า โมซัมบิก ฟิลิปปินส์ แคเมอรูน เป็นต้น และข้าวนึ่งมีการส่งออกปริมาณ 118,321 ตัน ลดลง 43.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังตลาดหลักในแอฟริกา เช่น แอฟริกาใต้ เยเมน บังคลาเทศ แคเมอรูน เบนิน เป็นต้น

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7444370

โรงไฟฟ้าตองดอวิน แหล่งพลังงานแสงอาทิตย์แห่งที่ 3 ของเมียนมา เสร็จสมบูรณ์แล้ว

บริษัท กรีน เพาเวอร์ เอ็นเนอร์จี จำกัด เผย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตองดอวิน ใกล้กับเมืองธัญญวาและเมืองมิตธา ในภาคมัณฑะเลย์ ของเมียนมา ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งโรงไฟฟ้านี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 25 เมกะวัตต์ต่อปี ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์จำนวน 45,980 แผง และระบบติดตามแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มพลังงานไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ (PV) จากดวงอาทิตย์ โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้ที่มีแรงดันไฟฟ้าขนาด 132KV จะถูกส่งไปยังโครงข่ายสายส่งแห่งชาติ (National Grid) ผ่านระบบจ่ายไฟฟ้าแบบยกสูงขนาด 33 kV ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตองดอวินเป็นหนึ่งในโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 29 โครงการ และเป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 3 ที่สร้างแล้วเสร็จของเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/taungdawgwin-solar-power-project-completed/#article-title

ไทยผ่ามรสุมส่งออกปี 66 เร่งเปิดตลาดใหม่พยุงเป้าโต3%

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.คาดการณ์การแนวโน้มภาพรวมการส่งออกไทยปี 2566 จะขยายตัว 2-3% โดยประเมินจากการส่งออกปี 2565 ที่การส่งออกเชิงปริมาณไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดูจากจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ขนส่งปี 2565 ใกล้เคียงปี 2564 หากแต่เป็นราคาสินค้าจากวัตถุดิบและน้ำมันที่ปรับขึ้นและอานิสงค์ของค่าเงินบาทอ่อนค่ามากกว่าค่าเงินของคู่แข่งในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ ปี 2566 ราคาน้ำมันประเมินต่ำกว่าปี 2565 โดยอยู่ระดับ 75-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และค่าเงินบาทจะอยู่ 33-35 บาทต่อดอลลาร์ โดยอาจแข็งค่ากว่าค่าเงินของคู่แข่งทำให้ปี 2566 จะได้รับแรงกดดันจากราคาที่มีแนวโน้มลดลงตามราคาน้ำมันและวัตถุดิบ

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1045692

‘เวียดนาม’ ผลิตรถจักรยานยนต์ ทะลุ 3.3 ล้านคัน ปี 2565

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าปริมาณการผลิตรถจักรยานยนต์ในเดือนธันวาคม ปี 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 351,100 คัน ชะลอตัวลง 0.8% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน แต่ขยายตัว 4.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 รวมทั้งสิ้น 1,024 ล้านคัน ขยายตัว 19.8% จากช่วงเดียวปีก่อน สาเหตุสำคัญมาจากผู้ประกอบการปรับแผนและส่งเสริมการผลิต รวมถึงสามารแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบและสินค้าของตัวแทนจำหน่ายได้ เหตุผลข้างต้นบ่งบอกให้เห็นสาเหตุว่าทำไมราคารถจักรยานยนต์ถึงปรับตัวพุ่งสูงขึ้นในช่วงแรกและช่วงกลางของปีนี้ ทั้งนี้ ยอดผลิตรถจักรยานยนต์ภาพรวมทั้งปี 2565 เวียดนามผลิตรถจักรยานยนต์มากกว่า 3.32 ล้านคัน ขยายตัว 9.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1445274/more-than-3-3-million-motorbikes-manufactured-in-viet-nam-in-2022.html

‘เวียดนาม’ นับเป็นหนึ่งตลาดที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพ

ตามรายงานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก “ซาวิลส์” เปิดเผยว่าเวียดนามเป็น 1 ใน 4 แบรนด์ตลาดที่อยู่อาศัยที่มีชื่อเสียงและยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้ โดยกลุ่มแบรนด์ชื่อดังของภาคอสังหาฯ มองว่าภาคอสังหาฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถเผชิญกับความไม่แน่นอนและความผันผวนของสถานการณ์โลกได้ พร้อมกับเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ คุณ Matthew Powell ผู้อำนวยการของบริษัทซาวิลส์ ประจำกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม กล่าวว่าตลาดเวียดนามในกลุ่มแบรนด์ที่อยู่อาศัยชื่อดัง อยู่ในช่วงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในเมืองและรีสอร์ทของประเทศเวียดนามที่มีศักยภาพที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ด้านอุปสงค์ พบว่ามีความต้องการจำนวนมากสำหรับอพาร์ทเมนท์แบบ 3 และ 4 ห้องนอน ซึ่งมีพื้นที่พิเศษสำหรับครอบครัว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1445263/viet-nam-is-one-of-potential-markets-for-branded-residences.html

‘ทองลุน สีสุลิด’ ประธานประเทศลาว ให้แรงบันดาลใจคนทั้งประเทศ ฟันฝ่าความท้าทาย

นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว กล่าวสุนทรพจน์ปีใหม่ผ่านสื่อตามช่องทางต่างๆ และกระตุ้นให้ประชาชนทั้งประเทศรวมพลังและสามัคคีกัน เพื่อให้สปป.ลาวก้าวข้ามอุปสรรคหรือความท้าทายในปี 2566 และยังได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของลาวในปี 2565 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำก็ตาม โดยทั้งปี 2565 สปป.ลาวเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงสถานะทางเศรษฐกิจและการเงินที่เผชิญกับความรุนแรง แต่ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทั้งพรรค รัฐบาลและสังคม ตลอดจนความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ทำให้สปป.ลาว สามารถจัดการกับความท้าทายเหล่านั้นได้ในระดับหนึ่ง และป้องกันไม่ให้ประเทศผิดนัดชำระหนี้ได้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten01_President_y23.php

กัมพูชาดึงนักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่แตะ 2 ล้านคน

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชารายงานถึงการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 2 ล้านคน ในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 76.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา 2,006,117 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด 16,803 คน โดยกรุงพนมเปญถือเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเลือกไปฉลองปีใหม่มากที่สุดจำนวน 455,832 คน จังหวัดพระสีหนุจำนวน 338,552 คน ในขณะที่จังหวัดกำปอดให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว 330,659 คน และจังหวัดพระตะบองดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 158,110 คน เป็นสำคัญ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดทั่วประเทศดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยห้องพัก โรงแรม เกสต์เฮ้าส์ รีสอร์ท และบังกะโลได้รับการจองเกือบร้อยละ 100 ซึ่งในปี 2022 กัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากถึง 2 ล้านคน และนักท่องเที่ยวภายในประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 12.5-13 ล้านคน ในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501212761/cambodia-attracts-over-2m-new-year-visitors/