เสนอให้ปรับราคาสินค้าแทนการฉวยโอกาส

ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม. รังสิต เปิดเผยว่า กล่าวว่า สินค้าและบริการใดที่มีต้นทุนสูงขึ้นโดยเฉพาะจากราคาน้ำมันและพลังงานที่สูงขึ้น กระทรวงพาณิชย์ควรให้ปรับราคาเพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงไม่ใช่ฉวยโอกาสขึ้นราคา หากไม่ให้ปรับขึ้นราคาตามต้นทุนจะทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนสินค้าได้ ส่วนสินค้าและบริการจำเป็นพื้นฐานนั้น รัฐบาลควรเข้ามาอุดหนุนหรือแทรกแซงกลไกราคาไม่ให้ราคาสูงเกินจนประชาชนไม่สามารถซื้อหาได้และเกิดความเดือดร้อนในการดำรงชีวิต

ที่มา: https://www.posttoday.com/economy/news/675536

“สุพัฒนพงษ์” แจงสภาฯ ไทย รั้งอันดับ6 ใน8ประเทศอาเซียน ราคาพลังงานสูง

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานตอบกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาฯ ต่อประเด็นปัญหาราคาค่าน้ำมันแพง ตั้งถามโดยนายกิตติกร โลห์สุนทร ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย  โดยยอมรับว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและความขัดแย้งของประเทศมหาอำนาจมีความล่มแหลมและอาจนำไปสู่วิกฤตได้ อย่างไรก็ดีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลได้คำนึงถึงและตระหนักต่อการแก้ไขปัญหา ทั้งการใช้กองทุนน้ำมันเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซล โดยปัจจุบันใช้กกองทุนไปแล้ว 1.5หมื่นล้านบาท และยังเตรียมที่จะกู้เงินอีก 2-3หมื่นล้านบาทเพื่อดำเนินการต่อ เบื้องต้นอยู่ในกระบวนการกู้เงิน และเชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหา

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/politics/987576

‘เวียดนาม’ เผยธนาคาร 16 แห่ง ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ 21.2 ล้านล้านดอง เหตุบรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19

ตามรายงานของธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ณ วันที่ 9 ก.พ. เปิดเผยว่าธนาคารพาณิชย์จำนวน 16 แห่ง ได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เป็นมูลค่ากว่า 21.24 ล้านล้านดอง (936 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อบรรเทาลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. – 31 ธ.ค.64 โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและการพัฒนาชนบทเวียดนาม (Agribank) ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้อย่างมาก ด้วยมูลค่า 5.51 ล้านล้านดอง สำหรับลูกค้ามากกว่า 3.5 ล้านคน รองลงมาธนาคาร “Vietcombank” มีมูลค่า 4.63 ล้านล้านดอง และธนาคาร “BIDV” มีมูลค่า 4.12 ล้านล้านดอง นอกจากนี้ นายด่าวมีงตือ รองผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนาม กล่าวในปีที่แล้วว่าทางธนาคารยังคงอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/sixteen-banks-cut-over-vnd212-trillion-for-pandemic-hit-customers-post923266.vov

 

การค้า ‘เวียดนาม-รัสเซีย’ 11 เดือนปี 64 พุ่ง 6.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

คุณ Duong Hoang Minh ที่ปรึกษาการค้าเวียดนามในรัสเซีย อ้างอิงข้อมูลทางสถิติของกรมศุลกากรของรัสเซีย เปิดเผยการค้าทวิภาคีระหว่างเวียดนามและรัสเซีย ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่ารวม 6.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เวียดนามส่งออกสินค้าไปยังรัสเซีย มีมูลค่า 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.4% เมื่อเมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรที่มีความโดดเด่นอย่างมาก อาทิ กาแฟ มีมูลค่า 153 ล้านเหรียญสหรัฐ (+20%), ผลไม้และถั่ว มีมูลค่า 75.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (+38%) และมะม่วงอบแห้งที่ถือเป็นสินค้าส่งออกที่ได้รับความสนใจ ด้วยมูลค่า 9.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นสัดส่วน 92% ของมูลค่าการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหมดของรัสเซีย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-russia-trade-hit-63-billion-usd-in-11-months-of-2021/221847.vnp

 

ชาวสวนส้มจังหวัดเมิ้งสาด ปลื้ม ส้มคลีเมนไทน์ขายดี ราคาพุ่ง

ส้มคลีเมนไทน์ (clementine ) จากจังหวัดเมิ้งสาด ของ รัฐฉาน (ตะวันออก) ถูกส่งออกไปยังเมืองอื่น ๆ และตลาดกำลังเฟื่องฟูอย่างมากในเมียนมา ส้มคลีเมนไทน์ จากจังหวัดเมิ้งสาด มีเนื้อสด ฉ่ำ รสหวาน มีผู้มาซื้อหาส้มที่ร้านค้าปลีกและสวนส้มเพื่อเป็นของฝากอย่างไม่ขาดสาย จากคำบอกเล่าของเกษตรกรในท้องถิ่น การปลูกจะเน้นแบบวิถีธรรมชาติอย่างการใช้ปุ๋ยคอกแทน ขณะที่สวนส้มต๊อวิน ตันแสง ที่จำหน่ายส้มทั้งปลีกและส่ง เปิดเผยว่า ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 3,000 จัต ทำให้ตอนนี้เป็นที่ต้องการอย่างมากจากเมืองอื่น ๆ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/clementine-oranges-from-monghsat-township-sold-well/

โควิดระบาด สะดุดสะดุดกระทรวงท่องเที่ยว

กระทรวงข้อมูล วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวบรรลุเป้าหมายบางอย่างในปีที่แล้ว แต่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายอื่นได้เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 นางสวนสวรรค์ วิกนาเกต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข้อมูล วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวกล่าวว่าความสำเร็จหลักของกระทรวงอยู่ที่งานด้านสื่อ โดยนักข่าวยังคงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ชัดเจน รวดเร็วและเป็นข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง ในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว งานมีการพัฒนาและปรับปรุง แต่เป้าหมายบางอย่างไม่บรรลุผลเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ดังนั้นเพื่อความพยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยว รัฐบาลจึงตัดสินใจเปิดประเทศอีกครั้งสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าชาวต่างชาติจะเดินทางมาที่ลาวเพียงไม่กี่คน แต่การท่องเที่ยวก็เฟื่องฟูจากการเดินทางของคนในท้องถิ่น โดยส่วนใหญ่จะไปหลวงพระบาง อุดมไซ และแขวงเวียงจันทน์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา แม้ว่ารัฐบาลจะจัดเขตดังกล่าวเป็นเขตท่องเที่ยวสีเขียว โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่อนุญาตการเดินทาง

 

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Covid29.php

 

กัมพูชาขยายกรอบระยะเวลายกเว้นภาษีธุรกิจท่องเที่ยวไปอีก 6 เดือน

รัฐบาลกัมพูชาขยายกรอบระยะเวลาในการยกเว้นภาษี สำหรับสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวออกไปอีก 6 เดือนตั้งแต่มกราคมถึงมิถุนายน 2022 เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงเพิ่มกิจกรรมทางธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักทางเศรษฐกิจที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ซึ่งทางการคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังกัมพูชาจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังจากปีนี้ หลังจากกัมพูชาได้เปิดให้นักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามกำหนดแล้วสามารถเดินทางมายังกัมพูชาได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ภายในประเทศกว่า 16 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างครบถ้วนแล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501022398/cambodia-extends-tax-breaks-for-tourism-related-businesses-for-6-more-months/

การค้าระหว่าง กัมพูชา-สหรัฐฯ พุงแตะ 9.1 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว

การส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์บางอย่าง ภายใต้โครงการ GSP จะเริ่มถูกจัดเก็บภาษีศุลกากร โดยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ มีมูลค่า 9,159 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 15.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามรายงานของสำนักสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐสำนัก (USCB) ซึ่งกัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 8,745 ล้านดอลลาร์ ไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยการนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.2 คิดเป็นมูลค่า 413.7 ล้านดอลลาร์ ส่งผลทำให้กัมพูชาเกินดุลการค้าระหว่างสหรัฐฯ ที่ 8,331.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34 ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและรวมถึงสินค้า เช่น รองเท้า จักรยาน และเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้ GSP โดยกัมพูชานำเข้ารถยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501022173/kingdom-united-states-trade-tops-9-1-billion-last-year/

การผลิตภาคอุตฯ ‘เวียดนาม’ เดือน ม.ค. ดีขึ้นต่อเนื่อง

ตามรายงานของ IHS Markit ได้เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนาม ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.7 ในเดือน ม.ค.65 จากระดับ 52.5 ในเดือน ธ.ค.64 สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของเวียดนามมีทิศทางที่ดีขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.64 ทั้งในด้านของผลผลิตและยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในเดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจขององค์กรต่างประเทศ ด้วยอัตราการเติบโตสูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ย.61 ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวดีขึ้น บริษัทที่ตอบรับการสำรวจส่วนใหญ่ 60% คาดว่าผลผลิตในปีนี้จะเพิ่มขึ้น ตลอดจนการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค. เหตุจากบริษัทต่างๆ ต้องการพนักงานใหม่หลังจากการระบาดโควิด-19 “สายพันธุ์เดลตา” เมื่อปี 2564

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-manufacturing-industry-continues-improving-in-january-post923057.vov

‘ข้าวเวียดนาม’ กระแสตอบรับดีมากในตลาดยุโรป

กรมศุลกากรเวียดนาม รายงานว่าปริมาณการส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังตลาดยุโรปไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับด้านราคาและมูลค่าเงินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 64 การส่งออกข้าวไปยังตลาดยุโรป มีปริมาณ 53,910 ตัน เพิ่มขึ้น 0.8%YoY คิดเป็นมูลค่า 38.07 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.6%YoY แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากข้อตกลง “EVFTA” อย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโรค รวมถึงค่าเฟรตพุ่งสูงขึ้นมากและการนำเข้าข้าวลดลงในปีก่อน ทั้งนี้ สำนักงานสถิติสหภาพยุโรป (Eurostat) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้ว การนำเข้าข้าวของยุโรป ลดลง 10.9% ในแง่ของปริมาณ และ 9.3% ในแง่ของมูลค่า อย่างไรก็ดี สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) คาดการณ์ว่าการส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรปจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ โดยเฉพาะคุณภาพข้าวของเวียดนามที่มีการพัฒนา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวยุโรป

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1143078/vietnamese-rice-well-received-in-europe.html