สปป.ลาว-เกาหลีใต้ หารือร่วมกันในการหนุนภาคการท่องเที่ยว

หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของ สปป.ลาว-เกาหลีใต้ กำลังเร่งหารือร่วมกันในการผลักดันภาคการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ซึ่งในปีก่อนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายัง สปป.ลาว มากกว่า 1.29 ล้านคน นับเป็นนักท่องเที่ยวเกาหลี 34,326 คน สำหรับภาคการท่องเที่ยวถือเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจที่สำคัญของ สปป.ลาว และเป็นส่วนช่วยในการผลักดันเศรษฐกิจและสังคมในหลายประเทศ แต่ในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานโควิด-19 ทำให้ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกต้องหยุดชะงักอย่างรุนแรง จนส่งผลให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย ถึงอย่างไรในปัจจุบันด้วยการยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางทั่วโลก คาดว่าจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยขณะนี้รัฐบาล สปป.ลาว กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวและดึงดูดผู้มาเยือน สปป.ลาว ให้มากขึ้น ทั้งการสนับสนุนการจ้างงานคนในท้องถิ่น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten78_Lao_S_y23.php

สปป.ลาว-กัมพูชา ตกลงเพิ่มเสาหลักเขตแดนเพิ่มอีก 387 แห่ง

สปป.ลาวและกัมพูชา ตกลงที่จะร่วมกันรักษาหลักเขตแดนและติดตั้งเสาหลักเขตแดนเพิ่มอีก 387 แห่งเพื่อกำหนดเส้นเขตแดนร่วมกันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น กล่าวโดยคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมระหว่าง สปป.ลาว-กัมพูชา เมื่อวันที่ 21 เมษายน ณ จังหวัดสีหนุวิลล์ กัมพูชา โดยเสาหลัก 387 ต้น จะถูกติดตั้งในพื้นที่ที่จำเป็น รวมถึงบริเวณแนวโค้งและชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มอบหมายให้ทีมเทคนิคของทั้งสองฝ่ายร่วมกันทำงานในพื้นที่ชายแดนโดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี ข้างหน้า ภายใต้ความตรงไปตรงมาของข้อมูล หวังสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันในอนาคต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Laoscambodia77.php

IMF คาดเศรษฐกิจ สปป.ลาว ปีนี้โตเฉลี่ยร้อยละ 4

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจ สปป.ลาว จะเติบโตร้อยละ 4 ในปีนี้ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะยังอยู่บนความไม่แน่นอน แต่ถึงอย่างไรในรายงานของ IMF ช่วงเดือนเมษายน ได้ระบุว่าการยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางและการเปิดประเทศอีกครั้งของจีน จะส่งผลทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาครวมถึง สปป.ลาว กลับมาขยายตัว โดยหนึ่งในความท้าทายหลักสำหรับ สปป.ลาว ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าคือการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากต้นทุนสินค้าและบริการที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันที่กำลังสร้างผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่ง IMF คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคใน สปป.ลาว จะขึ้นไปแตะที่เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 15.1 ในปีนี้ ถือเป็นอัตราสูงสุดที่คาดการณ์ไว้สำหรับประเทศในกลุ่มเอเชียเกิดใหม่

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Laoeconomy73.php

เกาหลีมอบเงินทุนสนับสนุนในการพัฒนาชนบทภายใน สปป.ลาว

องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งเกาหลี (KOICA) มอบเงินสนับสนุนให้แก่ สปป.ลาว ในการพัฒนาชนบทมูลค่า 12.5 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ เวียงจันทน์ เชียงขวาง และบอลิคำไซ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชนผ่านโครงการสนับสนุนดังกล่าว ซึ่งกำหนดกรอบระยะเวลาในการสนับสนุนตั้งแต่ปี 2021-2025 ใน 14 หมู่บ้าน และ 7 แขวง ของแขวงเชียงขวาง บอลิคำไซ และเวียงจันทน์ โดยจุดมุ่งหมายของโครงการคือการสนับสนุนการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการเกษตร ป่าไม้ และการพัฒนาชนบท พร้อมเสริมสร้างศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในส่วนกลางและระดับท้องถิ่นในการดำเนินการตามแผน สำหรับ KOICA ยังได้ให้การสนับสนุน สปป.ลาว ผ่านโครงการต่างๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นทางด้านสุขภาพ การศึกษา เศรษฐกิจ และการเกษตร ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_SKorea69.php

สปป.ลาว-คิวบา ร่วมมือพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ผู้แทนสถาบันการต่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว และสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภายใต้กระทรวงการต่างประเทศคิวบา ได้ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยข้อตกลงดังกล่าวลงนามโดยผู้อำนวยการสถาบันการต่างประเทศ Mr. May Xayavong และเอกอัครราชทูตคิวบาประจำ สปป.ลาว Ms. Enna Esther Viant Valdes ซึ่งมี Mr. Thongphan Savanphet รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ทั้งในระดับกระทรวง รวมถึงความร่วมมือกับสถาบันคิวบาผ่านการฝึกอบรม ยกระดับทักษะวิชาชีพของนักการทูต การวิจัย และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา สปป.ลาวและคิวบา ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือหลายฉบับในด้านการเมือง กิจการสังคมและเศรษฐกิจ สุขภาพ การศึกษา กีฬา ข้อมูล และด้านอื่นๆ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Laos68.php

ธนาคารโลกปรับแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาค หลังจีนเปิดประเทศ

ธนาคารโลก (WB) คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก รวมถึง สปป.ลาว คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในปี 2023 เนื่องจากการเปิดประเทศของจีนและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ แต่ถึงอย่างไรก็ตามต้องคอยติดตามสถานการณ์ต่างๆ อาทิเช่น การชะลอตัวของระบบเศรษฐกิจโลก, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น และสภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน ซึ่งธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะขยายตัวขึ้นร้อยละ 5.1 ในปี 2023 จากการขยายตัวที่ร้อยละ 3.5 ในปี 2022 ขณะที่ สปป.ลาว คาดว่าจะฟื้นตัวในเชิงบวกหลังจากทางการได้เปิดพรมแดนใหม่อีกครั้ง รวมถึงได้มีการเปิดเส้นทางเดินรถไฟระหว่างประเทศสาย สปป.ลาว-จีน ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทั้งทางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten66_World_y23.php

เอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว เข้าเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน

เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน (Savan Park) และ Savannakhet Dry Port ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทย นำโดยเอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ ในการเข้าเยือนพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย และสปป.ลาว โดยปัจจุบันภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษมีบริษัทเข้าลงทุนทั้งหมด 78 บริษัท ซึ่งเขตเศรษฐกิจดังกล่าวมีประสิทธิภาพและข้อได้เปรียบในหลายๆด้าน โดยเฉพาะทางด้านโลจิสติกส์ที่มีท่าเรือบกภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งในปี 2022 การค้าผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษ แบ่งเป็นมูลค่าการนำเข้ามากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นการส่งออกที่มีมูลค่า 207 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานล่าสุดของท่าเรือบก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten65_Thai_y23.php

นายกฯ สปป.ลาว เล็งดึงเม็ดเงินลงทุนเพิ่มจากจีน

นายกฯ สปป.ลาว ได้ร้องขอความร่วมมือจากผู้นำมณฑลยูนนาน ในการส่งเสริมให้บริษัทสัญชาติจีนเข้ามาลงทุนใน สปป.ลาว มากขึ้น โดยกล่าวขึ้นในระหว่างการประชุมที่จัดขึ้น ณ เวียงจันทน์ ซึ่งคาดหวังที่จะใช้ประโยชน์จากทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน ในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าระหว่างระหว่างประเทศ ซึ่งตลาดจีนถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญของ สปป.ลาว เนื่องจากมีประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน โดย สปป.ลาว มีศักยภาพในการเพาะปลูกพืชและเลี้ยงโค-กระบือ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดจีน ซึ่งในปี 2021 มีบริษัทจีนกว่า 300 แห่ง แสดงความสนใจที่จะลงทุนในภาคการเกษตรและป่าไม้ใน สปป.ลาว โดยคาดว่าเงินลงทุนรวมจะสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ จากปัจจัยสนับสนุนในด้านต่างๆ ขณะที่ภาคการค้าระหว่างประเทศ จีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของ สปป.ลาว นับตั้งแต่ปี 2018-2022 มีมูลค่ารวมถึง 1.59 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 15.63 ต่อปี ในแง่ของการลงทุนระหว่างประเทศจีนก็ยังคงเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว ด้วยมูลค่าการลงทุนของจีนในเขตสัมปทานและเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีมูลค่าถึง 13.67 พันล้านดอลลาร์ กระจายอยู่ใน 921 โครงการ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten64_PM_y23.php

รัฐบาล สปป.ลาว ประกาศลงนาม MOU จัดตั้ง Asia-Potash International

รัฐบาล สปป.ลาว และ SINO-KCL ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในโครงการ “Asia-Potash International Intelligent Circular Industrial Park” ในเขตท่าแขกและหนองบกของแขวงคำม่วน โดยรัฐบาลและ บริษัท SINO-AGRI International Potash Co., Ltd. (SINO-KCL) ได้ลงนาม MOU ในเวียงจันทน์ ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการบริการ ซึ่งโครงการวางแผนพัฒนาพื้นที่ 3 สวน ได้แก่ สวนอุตสาหกรรมปุ๋ยโพแทช, สวนอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่โพแทช และเอเชีย-โพแทชทาวน์ โดยโครงการนี้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,000 เฮกตาร์ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 4.31 พันล้านดอลลาร์ ด้วยข้อได้เปรียบจากการสนับสนุนของรัฐบาล สปป.ลาว รวมถึงทรัพยากรภายในประเทศที่มีอยู่ ซึ่งเอื้อต่อการผลิตแร่โพแทช โดยบริษัท วางแผนผลิตปุ๋ยในสวนอุตสาหกรรมให้ได้ 3 ล้านตัน ภายในปี 2023 และขึ้นไปแตะ 5 ล้านตัน ภายในปี 2025 ขณะที่ Asia-Potash Town ถูกสร้างขึ้นให้เป็นเมืองคอมเพล็กซ์ที่ทันสมัยและใช้งานได้หลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการดูแลสุขภาพ การศึกษา การพาณิชย์ กีฬา และบริการด้านต่างๆ ซึ่งหลังจากโครงการ Asia-Potash Industrial Park เริ่มดำเนินการ คาดว่า สปป.ลาว จะมีรายได้ประมาณ 320 ล้านดอลลาร์ต่อปี สร้างการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่น 30,000-50,000 คน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten61_National_y23.php

สปป.ลาว เปิดตัวโครงการพัฒนาเกษตรกรรมบนที่ราบสูง

กระทรวงเกษตรและป่าไม้สปป.ลาว ร่วมกับองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และ World Vision ในการเปิดตัวโครงการด้านเกษตรกรรมที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับการพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกบนพื้นที่ราบสูงใน สปป.ลาว ภายใต้สภาพแวดล้อมทางอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยโครงการนี้มีงบประมาณประมาณในการพัฒนาอยู่ที่ 3.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก Global Environment Facility (GEF) และ FAO ซึ่งจะดำเนินการโดยกระทรวงเกษตรและป่าไม้, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ของ สปป.ลาว ตั้งแต่ในช่วงกลางปีนี้จนถึงปี 2026 ในการตั้งเป้าเพื่อปกป้องพื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 4.5 ล้านเฮกตาร์ หรือเท่ากับร้อยละ 19 ของพื้นที่ทั้งหมดของ สปป.ลาว โดยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อ สปป.ลาว และชุมชนที่พึ่งพาภาคเกษตรกรรมเป็นอย่างมากจากแนวโน้มฤดูฝนที่สั้นลงและรุนแรงขึ้น ไปจนถึงภัยธรรมชาติต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกทั้งทางตรงและทางอ้อม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_New60.php