5 เดือนแรกของปี ทางการกัมพูชาจัดเก็บภาษีแตะ 1.8 พันล้านดอลลาร์

กรมภาษีอากร (GDT) หน่วยงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา รายงานการจัดเก็บภาษีมูลค่ากว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 51 ของเป้าหมายการจัดเก็บภาษีประจำปี รายงานโดย Kong Vibol ผู้อำนวยการกรมภาษีอากร ในระหว่างการประชุมสรุปเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (15 มิ.ย.) โดยทางการได้เร่งพัฒนาระบบการจัดเก็บภาษีใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับปี 2023 รัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าหมายในการจัดเก็บภาษีไว้ที่ประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501309834/cambodia-collects-1-8-billion-in-tax-income-for-first-5-months-of-this-year/

4 เดือนแรกของปี กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโตกว่า 613%

ในช่วง 4 เดือนแรกของปี กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 1.72 ล้านคน ขยายตัววกว่าร้อยละ 613 จากจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 241,485 คน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงการท่องเที่ยวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (14 มิ.ย.) ซึ่งประเทศไทยติดอันดับหนึ่งในชาร์ตนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังกัมพูชาในช่วงเดือนมกราคม-เมษายนปีนี้ ตามมาด้วยเวียดนามและจีน โดยรายงานระบุเพิ่มเติมว่าในจำนวนดังกล่าวคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 570,021 คน เวียดนาม 289,643 คน และชาวจีน 184,009 คน

ด้าน Thong Khon รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชาตั้งเป้าหวังว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้มากกว่า 4 ล้านคน ภายในปี 2023 สำหรับภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักที่สนับสนุนเศรษฐกิจกัมพูชา โดยกัมพูชามีแหล่งมรดกโลก 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานโบราณคดีอังกอร์ในจังหวัดเสียมราฐทางตะวันตกเฉียงเหนือ ปราสาทพระวิหารในจังหวัดพระวิหารทางตะวันตกเฉียงเหนือ และปราสาทสมโบร์ไพรกุกในจังหวัดกำปงธมทางตอนกลางของประเทศ นอกจากนี้ยังเมีเมืองชายฝั่งที่ทอดยาวกว่า 450 กม. ผ่าน 4 จังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ ได้แก่ สีหนุวิลล์ กัมปอต แกบ และเกาะกง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501308550/cambodia-records-513-percent-increase-in-tourist-arrivals-in-1st-4-months/

การค้า กัมพูชา-ญี่ปุ่น แตะเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่น ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวมกว่า 699 ล้านดอลลาร์ ปรับตัวลดลงร้อยละ 10.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 5 รองจากจีน สหรัฐฯ เวียดนาม และไทย รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ซึ่งคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นที่มูลค่า 442 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นการนำเข้าของกัมพูชาจากญี่ปุ่นที่มูลค่า 257 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกในช่วงเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียวมีมูลค่าอยู่ที่ 55 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 20.4 จากมูลค่า 69 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน

ด้านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา Ueno Atsushi ได้กล่าวในเวทีสาธารณะของกัมพูชาเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ว่านักลงทุนชาวญี่ปุ่นมองเห็นถึงศักยภาพของกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาตั้งอยู่กลางแม่น้ำโขงติดต่อกับไทยและเวียดนามเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งยังมีกำลังแรงงานที่อายุน้อยและมีต้นทุนการจ้างงานที่ถูกกว่าแรงงานในประเทศไทยและเวียดนาม รวมถึงกัมพูชายังเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนภายใต้นโยบายส่งเสริมมากมาย ด้วยเหตุผลข้างต้นทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นคาดว่าจะเข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพิ่มขึ้นในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501308691/cambodia-japan-bilateral-trade-nears-700-million-in-the-first-five-months/

สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญของกัมพูชา

สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) โดยรายงานของ GDCE ระบุว่าการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 3.19 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 14.3 จากมูลค่า 3.73 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.8 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาที่มีมูลค่ารวม 9.18 พันล้านดอลลาร์ สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าสำหรับการเดินทาง แม้ว่าปัจจุบันกัมพูชาจะไม่ได้สิทธิพิเศษของโครงการ GSP จากสหรัฐแล้วก็ตาม โดยในปี 2023 ทางการกัมพูชาคาดว่าสถานการณ์การส่งออกอาจต้องเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากคำสั่งซื้อโดยภาพรวมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในปีที่แล้วการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ มีมูลค่ารวม 6.92 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501307389/us-remains-cambodias-largest-export-market/

การค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาแตะ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชามีมูลค่ารวมมากกว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต ของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง คิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาส่งเกือบ 9.2 พันล้านดอลลาร์ ไปยังตลาดต่างประเทศ ลดลงร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะเดียวกันการนำเข้าของกัมพูชาปรับตัวลดลงเช่นกันที่ร้อยละ 22.6 หรือคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับตลาดส่งออกที่สำคัญของกัมพูชา ได้แก่ จีน สหรัฐฯ เวียดนาม ไทย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เยอรมนี ไต้หวัน และแคนาดา ด้านสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า สินค้าเพื่อการเดินทาง จักรยาน ข้าว อุปกรณ์ไฟฟ้า ยางพารา เฟอร์นิเจอร์ ผักและผลไม้ ขณะที่การนำเข้าส่วนใหญ่ ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง รถยนต์ ผลิตภัณฑ์ยา อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า ปุ๋ย และยาฆ่าแมลงเป็นส่วนใหญ่

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501307770/cambodias-international-trade-recorded-at-over-19-billion-in-first-five-months/

การส่งออกสินค้ากลุ่ม GFT ของกัมพูชายังคงแข็งแกร่ง แม้การส่งออกโดยรวมจะลดลง

กลุ่มสินค้าเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าเพื่อการเดินทาง (GFT) ยังคงเป็นกลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนการส่งออกสูงสุดของกัมพูชาในช่วง 5 เดือนแรกของปี ที่สัดส่วนร้อยละ 43.4 จากมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ซึ่งการส่งออกสินค้ากลุ่ม GFT ในช่วงเวลาดังกล่าวมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 3.99 พันล้านดอลลาร์ ลดลงที่ร้อยละ 23.06 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มูลค่า 5.18 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลทำให้เกิดความกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการปิดโรงงานและการสูญเสียการจ้างงานที่มีการจ้างมากถึง 850,000 คน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบุว่าการส่งออกที่ลดลงเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่ลดลง และการที่มีสินค้าคงคลังมากเกินไปหลังการส่งออกสินค้าไปยังยุโรปและสหรัฐฯ ที่ลดลง ตามรายงานของ Tassilo Brinzer ประธานหอการค้ายุโรปในกัมพูชา (EuroCham) ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าและรองเท้าร้อยละ 20-25 ในกัมพูชาปิดตัวลงส่งผลทำให้แรงงานจำนวนมากตกงาน ในขณะเดียวกันรัฐบาลกัมพูชาได้เริ่มโครงการร่วมกับเจ้าของโรงงานสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินแก่คนงานที่ตกงานหลังจากการปิดโรงงาน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501306694/cambodias-gft-woes-unabated-as-exports-decline-23/

กัมพูชาเล็งทำข้อตกลงด้านการค้าเสรีร่วมกับญี่ปุ่น

Pan Sorasak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบหมายหน่วยงานในการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่น หลังจากในช่วงปีนี้การส่งออกสินค้าของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งรัฐมนตรีได้กล่าวข้อความดังกล่าวไว้ในงานสัมมนาที่มีนักธุรกิจและผู้ประกอบการจากทั้งสองประเทศเข้าร่วมหารือเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกทางการค้าในยุคดิจิทัลระหว่างญี่ปุ่นและกัมพูชาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 มิ.ย.) โดยกล่าวเสริมว่าทั้งสองประเทศควรใช้ประโยชน์จากข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) อย่างเต็มที่ ซึ่งในระยะถัดไปทางการกัมพูชาคาดหวังถึงการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับญี่ปุ่นโดยตรง และกำลังเร่งศึกษา รวมถึงพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกัน โดยปัจจุบันญี่ปุ่นถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 สำหรับสินค้าส่งออกของกัมพูชา ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ คิดเป็นมูลค่าการส่งออกของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่นมูลค่า 442 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง เครื่องใช้สำนักงาน และเครื่องหนัง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501306688/cambodia-eyes-free-trade-agreement-with-japan/

ในช่วง 5 เดือนแรงของปี กัมพูชาส่งออกแตะ 9.18 พันล้านดอลลาร์

การส่งออกของกัมพูชาในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2023 มูลค่ารวมแตะ 9.18 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 2.4 จากเมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการส่งออกรวมมูลค่า 9.41 พันล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา โดยสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า สินค้าเดินทาง จักรยาน และสินค้าเกษตร อาทิ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง กล้วย และมะม่วง สำหรับประเทศส่งออก 5 อันดับแรกของกัมพูชา ได้แก่ สหรัฐฯ เวียดนาม จีน ไทย และญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ข้อตกลงการค้าเสรีกับจีน (CCFTA) และเกาหลี (CKFTA) จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกของกัมพูชา

ในขณะเดียวกันการนำเข้าของกัมพูชาจากต่างประเทศมีมูลค่ารวม 10,109 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว ลดลงร้อยละ 22.6 จากมูลค่ารวม 13,057 ล้านดอลลาร์ ในช่วงปีก่อนหน้า ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมัน ก๊าซ วัตถุดิบสำหรับเสื้อผ้า รองเท้า สินค้าเพื่อการเดินทาง ยานพาหนะ เครื่องจักร เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงสินค้าอื่นๆ เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501306111/cambodia-exports-reach-9-18-billion-in-five-months/

นายกฯ ฮุน เซน คาดเศรษฐกิจกัมพูชาขยายตัว 5.6% ปีนี้

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (11 มิ.ย.) ว่า เศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 5.6 ในปี 2023 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.2 ในปี 2022 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้คลี่คลายลง ส่งผลให้ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวภายในประเทศกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ขณะที่ธนาคารโลกได้กล่าวเสริมในระหว่างการอัพเดทภาวะเศรษฐกิจในช่วงเดือนพฤษภาคมว่าเศรษฐกิจของกัมพูชายังคงแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค และภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มมีการฟื้นตัวหลังจากที่ทางการจีนได้ผ่อนคลายมาตรการด้านการเดินทาง รวมถึงภาคการเกษตรที่เริ่มเห็นถึงการขยายตัวด้านการส่งออก อีกทั้งข้อตกลงความหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP), ข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CCFTA) และข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-สาธารณรัฐเกาหลี จะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501306466/cambodias-economy-projected-to-grow-by-5-6-pct-this-year-say-prime-minister-hun-sen/

จีนเข้าลงทุนเพาะปลูกกล้วยบนพื้นที่กว่า 600 เฮกตาร์ ในกัมพูชา

บริษัท Dize Nong Ye Fazhan จำกัด ลงทุนเพาะปลูกกล้วยบนพื้นที่กว่า 600 เฮกตาร์ ในจังหวัดกำปงจาม รวมถึงสร้างโรงงานการแปรรูปผลิตภัณฑ์เมื่อสองปีก่อน ซึ่งสร้างการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่นประมาณ 1,200 ตำแหน่ง โดยปัจจุบันสวนแห่งนี้ส่งออกผลิตภัณฑ์จากกล้วยไปยังจีนปีละ 2,000 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่ง 1 ตู้คอนเทนเนอร์มีน้ำหนัก 20 ตัน แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์จากกล้วยของกัมพูชามีความต้องการในตลาดจีนค่อนข้างสูง ซึ่งปัจจุบันประชากรจีนบริโภคกล้วยอยู่ที่ 600 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501305728/600-hectare-banana-orchard-mirrors-chinas-