รัฐบาลกัมพูชายังคงกำหนดล็อกดาวน์กรุงพนมเปญต่อเนื่อง

ผู้ว่าการกรุงพนมเปญกล่าวในวันที่ 25 เมษายน ว่าการล็อกดาวน์ในเขตเมืองหลวงยังคงดำเนินต่อไปเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ภาครัฐยังคงบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไปในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งคำชี้แจงดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากผู้คนในเขตเมืองตาเขมา และเมืองกันดาล ของพนมเปญ กำลังสงสัยว่าพวกเขาจะกลับมาเดินทางได้ตามปกติแล้วหรือไม่ หลังจากวันนี้รัฐบาลได้ยกเลิกการห้ามเดินทางระหว่างกันและได้ทำการสั่งให้สามารถเปิดรีสอร์ทเพื่อการท่องเที่ยวได้ หลังจากที่ถูกสั่งให้ปิดกิจการชั่วคราวไปเมื่อการล็อกดาวน์รอบที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 14 เมษายน รัฐบาลได้ประกาศให้กรุงพนมเปญและเมืองตาเขมาเป็นเขตพื้นที่ล็อกดาวน์ กำหนดระยะเวลา 14 วัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนจนถึงวันที่ 28 เมษายน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50845141/phnom-penh-lockdown-remains-in-place-despite-govt-lifting-travel-ban/

นายกฯ สปป.ลาว – จีนจัดการเจรจาความสัมพันธ์ทวิภาคี

สปป.ลาวและจีนฉลองครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตและมิตรภาพลาว – ​​จีนในปี พ.ศ. 2564ในโอกาศนี้นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวและจีนได้พูดคุยทางโทรศัพท์เพื่อทำงานร่วมกันในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีหกทศวรรษระหว่างสองประเทศ ทั้งสองมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมสปป.ลาว – จีน ในด้านการค้า การลงทุนและด้านสาธารณะสุขที่เป็นด้านที่สำคัญที่ทางการจีนให้การช่วยเหลือสปป.ลาวมาโดยตลอด ในการพูดคุยพวกเขายังยกย่องความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือทวิภาคีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งรวมถึงทางด่วนที่เชื่อมระหว่างเวียงจันทน์ไปยังโบเตนในแขวงหลวงน้ำทาที่ติดชายแดนจีน ทั้งหมดนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่บ่งบอกถึงความสำเร็จของจีนและสปป.ลาวในการช่วยเหลือสนับสนุนเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_chinese_78.php

คลังยังไม่มีแผนกู้เพิ่ม1ล้านล้าน มาดูแลโควิด

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เผยถึงกระแสข่าวกระทรวงการคลังเตรียมกู้ฉุกเฉินเยียวยาโควิดอีก 1 ล้านล้านบาทว่า ยังไม่ทราบนโยบายดังกล่าว แต่ปัจจุบัน พ.ร.ก.กู้เงิน1 ล้านล้าน สามารถใช้ได้จนถึง 30 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ยังต้องมีการหารือในคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังเพื่อขยายกรอบเพดานการก่อหนี้สาธารณะ เนื่องจากสัดส่วนหนี้สาธารณะของงบประมาณนี้ คาดอยู่ที่ประมาณ 57-58% ต่อจีดีพี แต่หากจะกู้เพิ่มขึ้นอาจสูงกว่ากรอบที่กำหนดไว้ไม่เกิน 60% ต่อจีดีพี อย่างไรก็ตาม หนี้สาธารณะที่ปรับสูงขึ้นป็นทิศทางเดียวกันกับประเทศอื่นทั่วโลก ซึ่งทุกประเทศได้ก่อหนี้เพื่อนำมาใช้จ่ายดูแลแก้ปัญหาโควิด

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/839321

ค้าชายแดนไทย-เมียนมา หยุดนำเข้ากาแฟสำเร็จรูปชั่วคราว

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาห้ามนำเข้าสินค้าอาหารจำนวน 4 รายการชั่วคราวผ่านชายแดนเมียนมา – ไทยตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 64 ได้แก่ เครื่องดื่มต่างๆ กาแฟและชาแฟสำเร็จรูป นมข้นและนมข้นจืด แต่สามารถนำเข้าผ่านทางเรือแทน ตั้งแต่วันที่1 ตุลาคมถึง 2 เมษายนของปีงบประมาณ 63-64 มูลค่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมาลดลง 370.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเมียนมามีการส่งออกสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์และการนำเข้ามูลค่ากว่า 589.7 ล้านดอลลาร์ มูลค่าการค้ารวม 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งชายแดนเมียวดีมีผลการดำเนินการดีที่สุดจากจำนวนชายแดน 7 แห่ง โดยมีมูลค่าการค้า 729.46 ล้านดอลลาร์ ซึงในปีงบประมาณ 62-63 การค้าชายแดนเมียนมา- ไทยแตะระดับสูงสุดที่ 2.28 พันล้านดอลลาร์ อีกทั้งการส่งออกข้าวโพดไปยังไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากถึง 1.2 ล้านตัน ปัจจุบันมีการส่งออกประมาณ 5,000-6,000 ตันถูกส่งไปยังไทยทุกวันผ่านชายแดนเมียวดี ซึ่งเมียนมาได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ e-Form D ในการส่งออกข้าวโพดระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 สิงหาคมซึ่งไทยเรียกเก็บภาษีร้อยละ 73 โดยเมียนมามีเป้าหมายส่งออกข้าวโพดไปยังไทย 1 ล้านตันในปีนี้

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/food-commodities-including-instant-coffee-temporarily-banned-on-myanmar-thailand-border/

ไทยพร้อมมีส่วนช่วยผลักดันให้การประชุมสุดยอดอาเซียนในวันที่ 24 เมษายน 2564 นี้ ประสบความสำเร็จ

วันนี้ (22 เมษายน 2564) เวลา 09.30 น. ณ ห้องโดม ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือทางโทรศัพท์กับ นายโจโก วิโดโด (H.E. Mr. Joko Widodo) โดยนายกรัฐมนตรีมีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ในเมียนมาซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และตระหนักดีว่าสถานการณ์ในเมียนมาเป็นประเด็นที่มีความท้าทายอย่างยิ่งต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค อย่างไรก็ดี ในฐานะนายกรัฐมนตรีไทยมีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศ จึงไม่สามารถเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ที่กรุงจาการ์ตาได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนพิเศษ (Special envoy) เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีอินโดนีเซียชื่นชมบทบาทไทยในเวทีระหว่างประเทศเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางด้านต่างประเทศ และความคิดเห็นของไทยส่งผลสำคัญในการผลักดันภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ เข้าใจดีถึงการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาเซียนจะมีส่วนช่วยให้สถานการณ์ในเมียนมาคลี่คลาย

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/govh/3217206

เวียดนายเผยครึ่งแรกของเดือนเม.ย. ขาดดุลการค้า 1.31 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าในช่วงครึ่งแรกของเดือนเมษายน เวียดนามมีมูลค่าการนำเข้าและการส่งออก ประมาณ 27 พันล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งออกเป็นมูลค่าการส่งออกและการนำเข้าอยู่ที่ 12.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ 13.96 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว มีกลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าเกินกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน 2.82 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาเครื่องจักรและอะไหล่ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงวันที่ 15 เม.ย. การส่งออกรวมของเวียดนาม เพิ่มขึ้น 26.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นมูลค่ากว่า 90 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่การนำเข้า เพิ่มขึ้น 29.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นมูลค่าราว 89.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามยังคงเกินดุลการค้าราว 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/vietnam-posts-trade-deficit-of-us131-billion-in-first-half-of-april-852187.vov

เวียดนามเผยกลางเดือนเม.ย. สินเชื่อโต 3.34%

ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 16 เม.ย. การเติบโตของสินเชื่อ ขยายตัวมาอยู่ที่ 3.34% เมื่อเทียบกับปลายปี 2563 และเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยอัตราการเติบโตภายในสิ้นเดือนมี.ค. อยู่ที่ 2.93% เมื่อเทียบกับปลายปีที่แล้ว เป็นมูลค่าราว 411 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในแค่ 2 สัปดาห์ การเติบโคของสินเชื่อก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.41 จุด ทั้งนี้ สถาบันสินเชื่อและธนาคาร ทำการปรับโครงสร้างการชำระหนี้ให้กับลูกค้า จำนวน 262,000 ราย ด้านยอดสินเชื่อคงค้างในระบบโดยรวมอยู่ที่ 15.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่จำนวนลูกค้า 660,000 ราย มีเงินกู้ที่มีอยู่รวมกันอยู่ที่ 55.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้รับการชะลอการชำระหนี้และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาระดับของอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 4% ในปี 2564 และช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-credit-growth-expands-by-334-by-mid-april-317092.html

6 เดือนแรกของปีงบฯ 63-64 ค้าชายแดนเมียนมาแตะ 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ณ วันที่ 2 เมษายน 64 -ของปีงบประมาณปี 63-64 ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 63 การค้าชายแดนเมียนมามีมูลค่า 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงกว่า 264 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณก่อนซึ่งมีมูลค่า 5.9 พันล้านดอลลาร์ โดยด่านมูเซเป็นด่านชายแดนที่มีมูลค่าการค้ามากที่สุด คือ 2.5 พันล้านดอลลาร์ตามมาด้วยด่านเมียวดีมีมูลค่า 729 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 63 ถึง 2 เมษายน 64 ของปีงบประมาณนี้การค้าต่างประเทศมีมูลค่ารวมกว่า 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การค้าทางทะเลมีมูลค่า 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการนำเข้าจะเป็นสินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmars-border-trade-reaches-5-6-bln-in-first-six-months-of-fy/

การลงทุนในประเทศและต่างประเทศของเมืองพะโค ยังคงดำเนินปกติ

การลงทุนในและต่างประเทศส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตเขตอุตสาหกรรมและภาคการผลิตอาหารในเขตพะโค ปัจจุบันการลงทุนจากต่างประเทศ 135 แห่งมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและการลงทุนของชาวท้องถิ่น 40 แห่ง มูลค่ารวม 977 พันล้านจัต ซึ่ง 80% ของการลงทุนอยู่ใกล้เขตเมืองพะโค ปัจจุบันมีคนงานในโรงงานของเขตอุตสาหกรรม Nyaung Inn ประมาณ 55,000 คน เมืองพะโคซึ่งเป็นเมืองการค้าที่สำคัญของเมียนมาอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 50 ไมล์เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญ นอกจากนี้ยังตั้งอยู่บนระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตข้าวที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศมีศักยภาพที่น่าลงทุนในภาคเกษตรกรรมและปศุสัตว์เนื่องจากมีบ่อตกปลาและทุ่งนามากมาย ดังนั้นจึงสามารถสร้างโอกาสในการทำงานให้กับประชาชนภายในประเทศ

ที่มี: https://www.gnlm.com.mm/local-foreign-investment-operating-as-usual-in-bago/#article-title

สปป.ลาว Lockdown เวียงจันทร์และปิดพรมแดนสกัด COVID-19 ที่เชื่อมโยงกับไทย

สปป.ลาว Lockdown เวียงจันทร์และปิดพรมแดนระหว่างประเทศในทุกด่าน หลังพบผู้ป่วยรายใหม่ 28 ราย(22.04.64) ซึ่งมีคามเชื่อมโยงมาจากไทย สร้างผลกระทบต่อด้านการค้าและกิจกรรมทางเศรษฐกิจบริเวณด้านชายแดน นายยกรัฐมนตรีได้มีลงนามมีคำสั่งประกาศให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงเวียงจันทน์ไม่ให้ออกจากเมืองและบุคคลภายนอกจะต้องได้รับอนุญาตในการเข้าไปด้านพรมแดนระหว่างประเทศถูกปิดยกเว้นรถบรรทุกที่บรรทุกสินค้าที่ยังสามารถขนส่งได้แต่อาจมีความล่าช้าจากมาตรการตรวจที่เข้มงวดอาจส่งผลกระทบต่อความล่าช้าด้านการขนส่งและคุณภาพของสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค อย่างรก็ตามรัฐบาทมุ่งมั่นที่จะจำกัดหรือหยดการแพร่เชื่อระลอกใหม่ให้ได้ตามระยะเวลาที่ประกาศ เพื่อป้องกันไม่ให้สปป.ลาวเข้าสู่วิกฤตด้านสาธารณสุขหากมีการระบาดจำนวนมาก

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/news/asia/covid-19-laos-lockdown-capital-vientiane-outbreak-tied-thailand-14672574