ADB อนุมัติเงินกู้ 45 ล้านดอลลาร์ ส่งเสริมภาคบริการสุขภาพ สปป.ลาว

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้จำนวน 45 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเสริมสร้างภาคบริการด้านสุขภาพใน สปป.ลาว ให้มีคุณภาพในเขตพื้นที่ 16 อำเภอ ทั่วประเทศ ภายใต้การดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ด้าน ADB กล่าวเสริมว่า โครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนประมาณกว่า 1.6 ล้านคนต่อปี ที่ต้องการเข้ารับบริการด้านสุขภาพ โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มรายได้เปราะ และกลุ่มชาติพันธุ์ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและด้อยโอกาส ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ADB กล่าวว่า สปป.ลาว มีความก้าวหน้าในการขยายการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพและการประกันภัย นับตั้งแต่มีโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติที่ได้เปิดตัวในปี 2015 ที่ให้สิทธิครอบคลุมร้อยละ 94 ของประชากร อย่างไรก็ตาม ADB กล่าวว่า สปป.ลาว ยังคงตามหลังประเทศเพื่อนบ้านในแง่ของการให้บริการด้านสาธารณสุข โดยเป็นเหตุให้ ADB จำต้องสนับสนุน สปป.ลาว ในการพัฒนาภาคส่วนดังกล่าว

ที่มา : https://english.news.cn/20230822/1273f9591bdb4cce9a606291820fdb22/c.html

ครึ่งแรกของปี กัมพูชาส่งออกยางรถยนต์มูลค่ารวม 125 ล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกยางรถยนต์ในช่วงครึ่งแรกของปีมูลค่ารวม 125 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) โดยปัจจุบันกัมพูชามีโรงงานผลิตยางรถยนต์ทั้งสิ้น 3 แห่ง ดำเนินการอยู่ในจังหวัด สวายเรียง พระสีหนุ และกระแจะ ซึ่งโรงงานแรกเป็นของ บริษัท Sailun Group Co., Ltd. ของจีน สามารถผลิตยางเรเดียลผสมเหล็กได้ 5 ล้านเส้นต่อปี สำหรับโรงงานที่สองเป็นของ บริษัท General Tyre Technology (กัมพูชา) ด้วยเม็ดเงินลงทุนมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ สามารถผลิตยางเรเดียลกึ่งเหล็ก 5 ล้านเส้น และยางเรเดียลเสริมเหล็ก 900,000 เส้นต่อปี ขณะที่โรงงานของ บริษัท Newbustar (Cambodia) Tyre Co., Ltd. สามารถผลิตยางเรเดียลสมรรถนะสูงได้ถึง 8.5 ล้านเส้นต่อปี โดยการส่งออกส่วนใหญ่ส่งออกไปยังยุโรป สหรัฐอเมริกา เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501346714/cambodia-auto-tire-exports-at-125-million-in-h1/

7 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังตลาดกลุ่ม RCEP กว่า 4.6 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังประเทศในกลุ่มความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มูลค่ารวมกว่า 4.59 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามคำแถลงของกระทรวงพาณิชย์ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของกลุ่มประเทศ RCEP คิดเป็นร้อยละ 30 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั่วโลก (GDP) รวมถึงคิดเป็นร้อยละ 28 ของมูลค่าการค้าโลก และมีเม็ดเงินลงทุนร้อยละ 32.5 ของมูลค่าการลงทุนทั่วโลก ซึ่งข้อตกลงนี้คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการรวมกลุ่มอาเซียนเข้ากับเศรษฐกิจโลก ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และป้องกันแนวโน้มต่อต้านโลกาภิวัตน์ รวมถึงฝ่าวิกฤตการกีดกันทางการค้าระดับโลก ด้านกัมพูชาคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาดและพัฒนาฐานการผลิตในอาเซียน ไปจนถึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้อาเซียนเป็นตัวแปรหลักบนห่วงโซ่อุปทานในระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501346750/cambodias-exports-4-6b-to-rcep-markets-in-first-7-months/

วงการกาแฟเวียดนามจ่อปรับตัวตามกฎระเบียบด้านป่าไม้ของอียู

เวียดนาม นิวส์ (Vietnam News) สื่อท้องถิ่นของเวียดนาม รายงานว่า อุตสาหกรรมกาแฟของเวียดนามควรยกระดับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของห่วงโซ่คุณค่า เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR) ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม เผยว่าการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของที่ดินทุกแปลง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของกฎระเบียบฯ ถือเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุด เนื่องจากเป็นงานที่มีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับผู้ดำเนินงานจำนวนมาก จึงทำให้เวียดนามต้องพัฒนาฐานข้อมูลระดับชาติเกี่ยวกับพื้นที่ปลูกป่าและกาแฟ

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2023/327681

‘Apple’ เล็งขาย iPhone 15 เดือนหน้า! ในเวียดนาม

ตามเครือข่ายร้านค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ในท้องถิ่น ระบุว่า ‘Apple’ กำลังพิจารณาที่จะปรับระดับความสำคัญของตลาดเวียดนามจากอันดับ 3 ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในตลาดหลัก ซึ่งจากการปรับเพิ่มอันดับในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ค้าปลีกเวียดนามได้รับอนุญาตให้วางจำหน่าย iPhone 15 รุ่นใหม่ในระยะที่ 2 ของการเปิดตัว อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่มีเพียงสัญญาของ Apple ที่สนใจเวียดนามมากขึ้น และ iPhone 15 อาจวางจำหน่ายเร็วกว่าปีก่อนหน้าไม่กี่สัปดาห์ ทั้งนี้ วันเปิดตัว iPhone 15 มีแนวโน้มที่จะประกาศในวันที่ 13 ก.ย. และรุ่นใหม่จะวางจำหน่ายในวันที่ 22 ก.ย. ระยะเวลาการเปิดตัวดังกล่าวช้ากว่ากำหนดการของ iPhone 14 ในปีที่แล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์

ที่มา : https://www.retailnews.asia/apple-may-sell-iphone-15-in-vietnam-next-month/

‘สตาร์ทอัพฟินเทคเวียดนาม’ เผยครึ่งแรกปี 66 ระดมทุนได้เพียง 6.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานจาก Tracxn เปิดเผยว่าธุรกิจฟินเทค (FinTech) ของเวียดนามเผชิญกับอุปสรรคจากการระดมทุนที่ลดลงอย่างมากในปีนี้ เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญยังคงมองทิศทางไปในเชิงบวกจากการฟื้นตัวของภาคธุรกิจตามความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ จากรายงานชี้ให้เห็นว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2566 การระดมเงินทุนของฟินเทคที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งจากตัวเลขของเงินทุนปรับตัวลดลงเหลือเพียง 6.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามพยายามส่งเสริมภาคธุรกิจฟินเทคด้วยการปรับเปลี่ยนประเทศสู่ความเป็นดิจิทัลแห่งชาติ  (National Digital Transformation)

ที่มา : https://vir.com.vn/vietnamese-fintech-startups-secure-a-mere-62-million-funding-in-1h2023-104530.html

‘เมียนมา’ เผยราคาถั่วแระพุ่ง 1.7 ล้านจ๊าตต่อตัน

จากข้อมูลในวันที่ 19 ส.ค. เปิดเผยว่าราคาถั่วแระหรือถั่วแฮะ (Pigeon Pea) เพิ่มขึ้นราว 1.7 ล้านจ๊าตต่อตัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และมีถั่วแระเพียง 25,000 ตันที่อยู่ในสต๊อกคลังสินค้า ในขณะที่จากการคาดการณ์ของอุตสาหกรรมถั่วพัลส์ของอินเดีย ระบุว่าความต้องการสินค้าของอินเดียเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผู้เพาะปลูกถั่วเมียนมาทำการขยายพื้นที่เพาะปลูกในปีนี้ โดยคาดว่าผลผลิตจะอยู่ที่ราว 250,000-300,000 ตัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/pigeon-pea-price-up-by-k1-7-mln-per-tonne-on-19-aug/

สปป.ลาว จัดตั้ง “Lao Railway College” พร้อมรับนักศึกษาชุดแรกภายในปี 2023

ทางการ สปป.ลาว จัดตั้ง Lao Railway College ในเวียงจันทน์ พร้อมต้อนรับนักศึกษาชุดแรกจำนวนกว่า 300 คน สำหรับภาคปีการศึกษา 2023-2024 โดยวิทยาลัยเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนสอบนับตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 ก.ย. ซึ่งมีกำหนดสอบในวันที่ 15 ก.ย. ณ วิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในแขวงไชยธานี นครหลวงเวียงจันทน์ ครอบคลุมวิชาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ภาษาลาว วรรณคดี และความรู้ทั่วไป โดยวิทยาลัยเปิดสอนใน 6 หลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการรถไฟ ได้แก่ การขับรถไฟ การบริการสถานี และการซ่อมระบบไฟฟ้า ซึ่งผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันดังกล่าวจะมีโอกาสเข้าทำงานกับ บริษัทรถไฟ สปป.ลาว-จีน ซึ่งการจัดตั้งวิทยาลัยดังกล่าวเกิดขึ้นได้ด้วยการระดมทุนจากรัฐบาลจีน และนับเป็นแห่งแรกใน สปป.ลาว ในการเป็นหน่วยงานด้านการศึกษาด้านรถไฟ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/08/21/lao-railway-college-all-set-to-welcome-first-batch-of-360-students-in-2023/

สถาบันค้ำประกันสินเชื่อกัมพูชา ค้ำประกัน SME แตะ 140 ล้านดอลลาร์

ณ เดือนกรกฎาคมปีนี้ สถาบันค้ำประกันสินเชื่อแห่งกัมพูชา (CGCC) ให้การค้ำประกันสินเชื่อมูลค่ารวมกว่า 139.5 ล้านดอลลาร์แก่ภาคธุรกิจต่างๆ สำหรับการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน การลงทุน และการขยายธุรกิจ โดยมีการค้ำประกันสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจกว่า 1,648 แห่ง ซึ่งในจำนวนดังกล่าวคิดเป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (MSME) 1,510 แห่ง และธุรกิจขนาดใหญ่ 138 แห่ง ที่ได้รับการค้ำประกันเงินกู้ ภายใต้โครงการของ CGCC มีสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ (PFIs) กว่า 30 แห่ง ในการให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจที่สนใจเข้าร่วม โดยหวังว่าเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวจนเข้าสู่ภาวะปกติ จะส่งผลทำให้ธุรกิจ SME กลับมาเเติบโตอีกครั้ง ด้าน Mey Vann รัฐมนตรีต่างประเทศของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง กล่าวว่า โครงการค้ำประกันสินเชื่อมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างผู้ประกอบการและปรับปรุงการเข้าถึงบริการทางการเงินในกัมพูชาเป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501346090/credit-guarantees-to-smes-reach-nearly-140-million/

ครึ่งปีแรกกัมพูชาส่งออกสินค้าผ่าน SEZs พุ่ง 1.39 พันล้านดอลลาร์

การส่งออกของกัมพูชาผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZs) สูงถึง 1.39 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ตามการรายงานของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) โดยปัจจุบันกัมพูชามีเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งสิ้น 24 แห่ง สร้างการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่นประมาณกว่า 175,000 คน ซึ่งประมาณร้อยละ 90 ของโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นโรงงานผลิตสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าเดินทาง (GFT) ด้าน Heng Sokkung เลขาธิการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวเสริมว่าการเพิ่มขึ้นอย่างมากของการส่งออกในกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่ม ถือเป็นผลมาจากความหลากหลายของการส่งออกที่กระจายตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นโมเมนตัมที่ดีและสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมของกัมพูชาปี 2015-2025 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นสู่อุตสาหกรรมที่ใช้ทักษะหรือเทคโนโลยี

ขณะที่ CDC ได้สรุปร่างกฎหมายใหม่เกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศโดยให้สิ่งจูงใจ เพิ่มความโปร่งใส และส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม สำหรับการส่งออกของกัมพูชาในช่วงครึ่งแรกของปีรวม 1.146 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501346089/exports-through-sezs-up-by-1-39-billion-in-h1/