จีนยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญของกัมพูชา

หลังจากการลงนามในข้อตกลงกัมพูชา-จีน (CCFTA) เมื่อเดือนตุลาคม 2020 และเริ่มมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างจีน และเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยปริมาณการค้าของกัมพูชาเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าระหว่างปี 2017-2021 เพิ่มขึ้นจากมูลค่า 25.44 พันล้านดอลลาร์ เป็น 48.01 พันล้านดอลลาร์ สำหรับศักยภาพในการส่งออกของกัมพูชาไปยังตลาดในภูมิภาคยังมีจำกัด ซึ่งยังคงต้องบูรณาการอย่างต่อเนื่องในส่วนของห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาค ถึงอย่างไร แม้กัมพูชาจะได้รับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่จีนและกัมพูชาก็ยังสามารถบรรลุเป้าหมายด้านปริมาณการค้าทวิภาคีได้เกินเป้าหมายที่ 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2021 ซึ่งบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับในปี 2022 จีนก็ยังคงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา โดยคิดเป็นมูลค่าการส่งออกรวมของกัมพูชาไปยังจีน 1.24 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 5.5 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501320543/china-remains-the-largest-export-market-for-cambodia/

‘เวียดนาม’ เผยช่วง 6 เดือนแรกปี 66 ยอดผู้โดยสารทางอากาศ พุ่ง 30%

จากข้อมูลขององค์กรท่าอากาศยานเวียดนาม (ACV) เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปีแรก จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศเวียดนาม อยู่ที่ 14.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นราว 30% ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการเติบโตกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ทั้งนี้ ทางองค์กรได้เน้นย้ำถึงการปฏิบัติงานทางด้านการขนส่งและการบิน รวมถึงจำนวนผู้โดยสารที่มีแนวโน้มจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่ฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น เนื่องมาจากการดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ประกอบกับได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้น การปรับปรุงคุณภาพการบริการให้ดียิ่งขึ้น ทางองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงให้ความสำคัญกับการนำไอทีมาใช้ในอุตสาหกรรมการบินของประเทศ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1550719/air-passenger-surges-by-30-per-cent-in-first-six-months.html

กระแส! การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็ว

จากข้อมูลของธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) แสดงให้เห็นว่าการชำระเงินด้วย QR Code ผ่านโทรศัพท์มือถือได้รับความนิยมอย่างมากในเวียดนาม ในขณะที่การทำธุรกรรมการเงินผ่านตู้ ATM มีทิศทางที่ลดลงทั้งในแง่ของมูลค่าและปริมาณ ดังนั้น การทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 75.54% ในแง่ของปริมาณ และ 1.77% ในแง่ของมูลค่า ตลอดจนการทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน QR Code เพิ่มขึ้น 151.14% และ 30.41% ในแง่ของปริมาณและมูลค่า ขณะที่การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้ ATM ลดลง 4.62% ในแง่ของปริมาณ และ 6.43% ในแง่ของมูลค่า สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนไปใช้การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์และการใช้จ่ายไร้เงินสด ด้วยเหตุนี้ ธนาคารกลางจึงดำเนินการปรับปรุงกรอบกฎหมายสำหรับการชำระเงินทางดิจิทัล เพื่อสอดคล้องกับทิศทางการชำระเงินของคนในสังคม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1550712/electronic-payment-continues-to-flourish-in-viet-nam.html

“เมียนมา” เผยตลาดถั่วเขียวนิ่ง เหตุจากอุปสงค์ทั่วโลกซบเซา

หอการค้าและอุตสาหกรรมเขตย่างกุ้ง เปิดเผยว่าราคาถั่วเขียว (Green Gram) ตกต่ำลงมาก ตามความต้องการจากตลาดต่างประเทศที่อ่อนแอลง โดยราคาถั่วเขียวของภาคกลาง แตะระดับสูงสุดที่ 2.092 ล้านจ๊าตต่อตันในช่วงกลางเดือน พ.ค. อย่างไรก็ตาม ราคาถั่วเขียวในปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 1.765 ล้านจ๊าตต่อตัน แสดงให้เห็นว่าราคาถั่วเขียวลดลงราว 300,000 จ๊าตต่อตัน เพียงแค่ 1 เดือนครึ่ง ทั้งนี้ ในเดือน พ.ค. จีนเริ่มมีการดำเนินนโยบายภาษี ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดถั่วเขียวและทำให้ราคาถั่วเขียวปรับตัวลดลง นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าเมียนมาเตรียมความพร้อมที่จะส่งออกถั่วเขียวไปยังสหภาพยุโรปในปีนี้ ซึ่งจะทำให้เมียนมามีส่วนแบ่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งมากขึ้นในตลาดโลก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/green-gram-market-calms-down-on-sluggish-global-demand/#article-title

สมาชิกสภาแห่งชาติขอรัฐบาล สปป.ลาว ซ่อมแซมถนนหมายเลข 13

สภาแห่งชาติ (NA) ของแขวงหลวงพระบาง ได้ขอให้รัฐบาลดำเนินการซ่อมแซมถนนหมายเลข 13 ทางตอนเหนือของประเทศ เนื่องจากรถบรรทุกที่มีการบรรทุกน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถนนสายดังกล่าวถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญภายในประเทศ โดยเฉพาะในส่วนระหว่างอำเภอ Kasy, Phoukhoun และ Xieng Ngeun และทางเชื่อมไปยังถนนหมายเลข 7 ที่นำไปสู่จังหวัด Xieng Kuang ซึ่งหน่วยงานผู้รับผิดชอบอย่างกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ได้เร่งพิจารณาแนวทางฉุกเฉินในการซ่อมแซมถนน เพื่อไม่ให้การเดินทางระหว่างเวียงจันทน์และแขวงทางภาคเหนือเป็นอุปสรรค อีกทั้งยังสนับสนุนให้มีการตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุกเป็นการป้องกันการบรรทุกน้ำหนักเกินขนาด จนส่งผลทำให้ถนนเสื่อมสภาพไวกว่าปกติ ในขณะเดียวกัน กระทรวงกำลังมองหาสถานที่ที่เหมาะสมในการสร้างสถานีชั่งน้ำหนักเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_128_NAmember_y23.php

CRF-Alibaba ส่งเสริมการส่งออกข้าวของกัมพูชาไปยังจีน

Lun Yeng เลขาธิการสมาพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) กล่าวว่าปัจจุบันกำลังร่วมมือกับ Alibaba Group แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน ในการหารือเกี่ยวกับวิธีการส่งเสริมการส่งออกข้าวสารของกัมพูชาในตลาดจีน ภายใต้การพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งปัจจุบันผู้นำเข้าข้าวสารของจีนจากกัมพูชาบางราย ได้เริ่มขายข้าวสารออนไลน์แล้วในจีน โดยกัมพูชาส่งออกข้าวสารไปยังตลาดจีนกว่า 118,041 ตัน ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ทำรายได้เข้าประเทศกว่า 77.4 ล้านดอลลาร์ รายงานโดย CRF ซึ่งจีนถือเป็นตลาดส่งออกหลักสำหรับข้าวสารของกัมพูชา คิดเป็นกว่าร้อยละ 42.43 ของปริมาณการส่งออกข้าวทั้งหมดของกัมพูชาในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับพันธุ์ข้าวที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ข้าวหอมพรีเมียม ข้าวหอม ข้าวขาวเมล็ดยาว ข้าวนึ่ง และข้าวอินทรีย์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501318853/crf-alibaba-to-promote-cambodian-rice-in-china/

คาดการร่วมทุนระหว่างภาคธุรกิจ จีน-กัมพูชา ดันเศรษฐกิจโต

หลังจากการร่วมทุนกันระหว่างภาคธุรกิจจีนและกัมพูชา เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ได้ส่งผลทำให้เศรษฐกิจของกัมพูชา รวมถึงชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ) ที่ปัจจุบัน มีขนาดกว้างถึง 11.13 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในจังหวัดสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นสวนอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชาที่มีบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนกว่า 175 แห่ง ภายใต้โครงการความร่วมมือ Belt and Road Initiative โดยนับตั้งแต่เปิดดำเนินการ ปริมาณการนำเข้าและส่งออกภายใต้เขตเศรษฐกิจพิเศษเติบโตอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นจาก 139 ล้านดอลลาร์ ในปี 2013 เป็นเกือบ 2.5 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดธุรกิจจากประเทศเข้ามาลงทุนยังกัมพูชามากขึ้น อีกทั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สวนอุตสาหกรรมได้เปิดคลินิกสุขภาพ ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย และสถาบันการศึกษา 2 แห่ง ได้แก่ สถาบันโปลีเทคนิคมิตรภาพพระสีหนุกัมพูชา-จีน และสถาบันธุรกิจและเทคโนโลยีสีหนุวิลล์-จีน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเป็นการสารสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501319228/chinese-cambodian-joint-venture-changes-lives-for-the-better/

“พาณิชย์” จัดมหกรรมการค้าชายแดน จ.สระแก้ว วันที่ 7-9 ก.ค.นี้

กรมการค้าต่างประเทศจัดงาน “มหกรรมการค้าชายแดน” จ.สระแก้ว วันที่ 7-9 ก.ค.นี้ เปิดบูธนำสินค้าจากผู้ประกอบการไทยและกัมพูชาจำหน่ายกว่า 50 คูหา จัดสัมมนาติดปีก SMEs ด้วย E-commerce และจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจไทย-คู่ค้า CLMV พร้อมลงพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย–กัมพูชา (หนองเอี่ยน–สตึงบท) ดันเปิดใช้งานเต็มรูปแบบ เอื้อการขนส่งและส่งออก โดยมี 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1.การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ณ ห้าง Big C อรัญประเทศ มีสินค้าจากผู้ประกอบการไทยและกัมพูชาที่ผ่านการคัดเลือกมาร่วมออกร้าน กว่า 50 คูหา 2.การสัมมนา “ติดปีก SMEs ด้วย E-commerce” ณ โรงแรม เดอะ เวโล โฮเต็ล โดยวิทยากรจาก Klangthai.com , EXIM Bank และกระทรวงพาณิชย์ ที่จะมาถ่ายทอดความรู้ในการเพิ่มศักยภาพด้านการค้าต่างประเทศ กฎระเบียบ ตลอดจนสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และ 3.การเจรจาจับคู่ธุรกิจไทย–คู่ค้า CLMV ณ โรงแรม เดอะ เวโล โฮเต็ล เพื่อสร้างและขยายเครือข่ายการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ กรมฯ จะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย–กัมพูชา (หนองเอี่ยน–สตึงบท) ที่ปัจจุบันได้เปิดใช้งานชั่วคราวแทนจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ที่ไม่สามารถขนส่งสินค้าผ่านได้ เนื่องจากเหตุอัคคีภัยที่กาสิโนฝั่งปอยเปต โดยหากสามารถเปิดใช้งานด่านบ้านหนองเอี่ยนได้อย่างเต็มรูปแบบ จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนจังหวัดสระแก้วได้เป็นอย่างมาก ตลอดจนเพิ่มมูลค่าส่งออกชายแดนไทย–กัมพูชาให้สูงขึ้นในอนาคต ในปี 2565 การค้าชายแดนไทย–กัมพูชา มีมูลค่าการค้ารวม 198,315 ล้านบาท โดยไทยส่งออกไปกัมพูชา 164,186 ล้านบาท นำเข้า 34,129 ล้านบาท และไทยได้ดุลการค้า 130, 058 ล้านบาท ซึ่งจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก (ด่านศุลกากรอรัญประเทศ) จังหวัดสระแก้ว เป็นด่านที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 103,062 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62.77 ของการส่งออกชายแดนไทย–กัมพูชาทั้งหมด

ที่มา : https://www.amarintv.com/spotlight/positioning/detail/48347

‘Google’ ชี้การท่องเที่ยวเวียดนามพุ่ง จากจำนวนค้นหาการท่องเที่ยวอยู่ในอันดับ 6 ของโลก

สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) เปิดเผยว่าปริมาณการค้นหาสำหรับการท่องเที่ยวของเวียดนาม ผ่านเครื่องมือที่ใช้ในการติดตามแนวโน้มตลาดของกูเกิล (Google) เติบโตขึ้น 10-25% จากต้นปีนี้ ไต่ขึ้นสู่อันดับที่ 6 จากอันดับที่ 11 ในการจัดอันดับทั่วโลก ทั้งนี้ อินเดียและออสเตรเลียมีศักยภาพในการเติบโตในระดับสูง เนื่องจากสายการบินต่างๆ เริ่มฟื้นตัวและขยายเส้นทางการบินที่เชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ของเวียดนามและทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ แหล่งที่มาของจำนวนการค้นหาเพื่อการท่องเที่ยวมากที่สุดในเวียดนาม ได้แก่ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร มาเลเซีย เยอรมนีและฝรั่งเศส แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการที่จะท่องเที่ยวในเวียดนามมากขึ้น และมีความได้เปรียบกว่าคู่แข่งในภูมิภาค

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/search-volume-for-vietnamese-tourism-ranks-6th-worldwide-2161432.html

ดัชนี PMI ภาคการผลิตเวียดนาม ฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าในเกณฑ์ที่กำหนด

S&P Global เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของเวียดนามอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ 50.0 แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนี PMI เดือน มิ.ย. อยู่ที่ 46.2 เพิ่มขึ้นจาก 45.3 ในเดือน พ.ค. และจากรายงานล่าสุดชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ยังอยู่ในทิศทางที่ย่ำแย่ เนื่องมาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงตามยอดคำสั่งซื้อที่ลดลง ตลอดจนการจดทะเบียนธุรกิจใหม่ลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และยอดคำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออกที่ลดลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้ง ไฟดับในเวียดนาม เหตุจากคลื่นความร้อนสูง ทำให้ผลผลิตมีจำกัด

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1550654/pmi-recovers-slightly-but-still-below-threshold-of-50-points.html