กัมพูชาส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 ในปี 2022

สมาพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) กล่าวถึงสถานการณ์การส่งออกข้าวสารของกัมพูชาในช่วงปี 2022 พุ่งแตะ 637,004 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศในปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 จากปริมาณ 617,069 ตัน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่งออกไปยัง 59 ประเทศทั่วโลก ขณะที่การส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มูลค่ารวมอยู่ที่ 414 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนยังคงเป็นผู้นำข้าวข้าวสารรายใหญ่อันดับต้นๆ ของกัมพูชา โดยพันธุ์ข้าวที่ได้รับความนิยมในการส่งออก ได้แก่ ข้าวหอมพรีเมียม ข้าวหอม ข้าวขาวเมล็ดยาว ข้าวนึ่ง ข้าวอินทรีย์ และข้าวเหนียว ด้าน Dith Tina รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงของกัมพูชากล่าวเสริมว่าจีนจะยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญสำหรับสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพของกัมพูชาผ่านข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CKFTA)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501213617/cambodias-milled-rice-export-up-3-2-pct-in-2022/

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศ RCEP โต 5% มูลค่า 5.6 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 5,671 ล้านดอลลาร์ ไปยังประเทศกลุ่มสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในช่วง 11 เดือนของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งประเทศปลายทางสำคัญสำหรับการส่งออกของกัมพูชาผ่าน RECP 3 อันดับแรก ได้แก่ เวียดนาม จีน และญี่ปุ่น คิดเป็นมูลค่าการส่งออกมูลค่า 1,894 ล้านดอลลาร์ 1,109 ล้านดอลลาร์ และ 1,069 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ โดยจีนยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าส่งออกกัมพูชา ด้วยมูลค่ารวม 9,470 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือเวียดนาม, ไทย และสิงคโปร์ ด้วยมูลค่า 3,617 ล้านดอลลาร์, 3,542 ล้านดอลลาร์ และ 3,169 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ซึ่งกัมพูชาคาดว่าการส่งออกจะเติบโตระหว่างร้อยละ 9.4 ถึงร้อยละ 18 ในปี 2023 ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตระหว่างร้อยละ 2 ถึงร้อยละ 3.8

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501213231/cambodias-export-to-rcep-countries-up-5-percent-at-5-6b/

ส่งออกข้าวไทย 11 เดือน โกย 1.2 แสนล้าน โตเกิน 100%

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึง การส่งออกข้าวช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ย. 2565) มีปริมาณ 6,907,761 ตัน มูลค่า 123,511.3 ล้านบาท (3,552.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 26.8% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 29.2% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ส่งออกปริมาณ 5,445,810 ตัน มูลค่า 95,591.7 ล้านบาท (3,027.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) การส่งออกเดือน พ.ย. 2565 มีปริมาณ 706,270 ตัน มูลค่า 14,333.3 ล้านบาท ปริมาณลดลง 11.1%แต่มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2565 ที่ส่งออกปริมาณ 794,224 ตัน มูลค่า 13,974.1 ล้านบาท เนื่องจากเดือน พ.ย. ส่งออกข้าวนึ่งและข้าวขาวลดลงจากเดือนก่อนที่มีการเร่งส่งมอบข้าวเพื่อให้ทันใช้ในช่วงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ นายเจริญ กล่าวว่าการส่งออกข้าวหอมมะลิ พบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นมากจากเดือนก่อนมาก โดยมีปริมาณ 136,435 ตัน เพิ่มขึ้น 102.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดที่สำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง แคนาดา สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวขาวมีปริมาณ 347,473 ตัน ลดลง 17.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศอิรัก จีน ญี่ปุ่น แองโกล่า โมซัมบิก ฟิลิปปินส์ แคเมอรูน เป็นต้น และข้าวนึ่งมีการส่งออกปริมาณ 118,321 ตัน ลดลง 43.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังตลาดหลักในแอฟริกา เช่น แอฟริกาใต้ เยเมน บังคลาเทศ แคเมอรูน เบนิน เป็นต้น

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7444370

โรงไฟฟ้าตองดอวิน แหล่งพลังงานแสงอาทิตย์แห่งที่ 3 ของเมียนมา เสร็จสมบูรณ์แล้ว

บริษัท กรีน เพาเวอร์ เอ็นเนอร์จี จำกัด เผย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตองดอวิน ใกล้กับเมืองธัญญวาและเมืองมิตธา ในภาคมัณฑะเลย์ ของเมียนมา ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งโรงไฟฟ้านี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 25 เมกะวัตต์ต่อปี ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์จำนวน 45,980 แผง และระบบติดตามแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มพลังงานไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ (PV) จากดวงอาทิตย์ โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้ที่มีแรงดันไฟฟ้าขนาด 132KV จะถูกส่งไปยังโครงข่ายสายส่งแห่งชาติ (National Grid) ผ่านระบบจ่ายไฟฟ้าแบบยกสูงขนาด 33 kV ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตองดอวินเป็นหนึ่งในโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 29 โครงการ และเป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 3 ที่สร้างแล้วเสร็จของเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/taungdawgwin-solar-power-project-completed/#article-title

ไทยผ่ามรสุมส่งออกปี 66 เร่งเปิดตลาดใหม่พยุงเป้าโต3%

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.คาดการณ์การแนวโน้มภาพรวมการส่งออกไทยปี 2566 จะขยายตัว 2-3% โดยประเมินจากการส่งออกปี 2565 ที่การส่งออกเชิงปริมาณไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดูจากจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ขนส่งปี 2565 ใกล้เคียงปี 2564 หากแต่เป็นราคาสินค้าจากวัตถุดิบและน้ำมันที่ปรับขึ้นและอานิสงค์ของค่าเงินบาทอ่อนค่ามากกว่าค่าเงินของคู่แข่งในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ ปี 2566 ราคาน้ำมันประเมินต่ำกว่าปี 2565 โดยอยู่ระดับ 75-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และค่าเงินบาทจะอยู่ 33-35 บาทต่อดอลลาร์ โดยอาจแข็งค่ากว่าค่าเงินของคู่แข่งทำให้ปี 2566 จะได้รับแรงกดดันจากราคาที่มีแนวโน้มลดลงตามราคาน้ำมันและวัตถุดิบ

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1045692

‘เวียดนาม’ ผลิตรถจักรยานยนต์ ทะลุ 3.3 ล้านคัน ปี 2565

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าปริมาณการผลิตรถจักรยานยนต์ในเดือนธันวาคม ปี 2565 ผลิตได้ทั้งสิ้น 351,100 คัน ชะลอตัวลง 0.8% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน แต่ขยายตัว 4.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 รวมทั้งสิ้น 1,024 ล้านคัน ขยายตัว 19.8% จากช่วงเดียวปีก่อน สาเหตุสำคัญมาจากผู้ประกอบการปรับแผนและส่งเสริมการผลิต รวมถึงสามารแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบและสินค้าของตัวแทนจำหน่ายได้ เหตุผลข้างต้นบ่งบอกให้เห็นสาเหตุว่าทำไมราคารถจักรยานยนต์ถึงปรับตัวพุ่งสูงขึ้นในช่วงแรกและช่วงกลางของปีนี้ ทั้งนี้ ยอดผลิตรถจักรยานยนต์ภาพรวมทั้งปี 2565 เวียดนามผลิตรถจักรยานยนต์มากกว่า 3.32 ล้านคัน ขยายตัว 9.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1445274/more-than-3-3-million-motorbikes-manufactured-in-viet-nam-in-2022.html

‘เวียดนาม’ นับเป็นหนึ่งตลาดที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพ

ตามรายงานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก “ซาวิลส์” เปิดเผยว่าเวียดนามเป็น 1 ใน 4 แบรนด์ตลาดที่อยู่อาศัยที่มีชื่อเสียงและยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้ โดยกลุ่มแบรนด์ชื่อดังของภาคอสังหาฯ มองว่าภาคอสังหาฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถเผชิญกับความไม่แน่นอนและความผันผวนของสถานการณ์โลกได้ พร้อมกับเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ คุณ Matthew Powell ผู้อำนวยการของบริษัทซาวิลส์ ประจำกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม กล่าวว่าตลาดเวียดนามในกลุ่มแบรนด์ที่อยู่อาศัยชื่อดัง อยู่ในช่วงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในเมืองและรีสอร์ทของประเทศเวียดนามที่มีศักยภาพที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ด้านอุปสงค์ พบว่ามีความต้องการจำนวนมากสำหรับอพาร์ทเมนท์แบบ 3 และ 4 ห้องนอน ซึ่งมีพื้นที่พิเศษสำหรับครอบครัว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1445263/viet-nam-is-one-of-potential-markets-for-branded-residences.html

‘ทองลุน สีสุลิด’ ประธานประเทศลาว ให้แรงบันดาลใจคนทั้งประเทศ ฟันฝ่าความท้าทาย

นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว กล่าวสุนทรพจน์ปีใหม่ผ่านสื่อตามช่องทางต่างๆ และกระตุ้นให้ประชาชนทั้งประเทศรวมพลังและสามัคคีกัน เพื่อให้สปป.ลาวก้าวข้ามอุปสรรคหรือความท้าทายในปี 2566 และยังได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของลาวในปี 2565 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำก็ตาม โดยทั้งปี 2565 สปป.ลาวเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงสถานะทางเศรษฐกิจและการเงินที่เผชิญกับความรุนแรง แต่ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทั้งพรรค รัฐบาลและสังคม ตลอดจนความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ทำให้สปป.ลาว สามารถจัดการกับความท้าทายเหล่านั้นได้ในระดับหนึ่ง และป้องกันไม่ให้ประเทศผิดนัดชำระหนี้ได้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten01_President_y23.php

กัมพูชาดึงนักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่แตะ 2 ล้านคน

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชารายงานถึงการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 2 ล้านคน ในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 76.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา 2,006,117 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด 16,803 คน โดยกรุงพนมเปญถือเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเลือกไปฉลองปีใหม่มากที่สุดจำนวน 455,832 คน จังหวัดพระสีหนุจำนวน 338,552 คน ในขณะที่จังหวัดกำปอดให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว 330,659 คน และจังหวัดพระตะบองดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 158,110 คน เป็นสำคัญ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดทั่วประเทศดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยห้องพัก โรงแรม เกสต์เฮ้าส์ รีสอร์ท และบังกะโลได้รับการจองเกือบร้อยละ 100 ซึ่งในปี 2022 กัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากถึง 2 ล้านคน และนักท่องเที่ยวภายในประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 12.5-13 ล้านคน ในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501212761/cambodia-attracts-over-2m-new-year-visitors/

คาด GDP กัมพูชา ปี 2023 เติบโตต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน กล่าวถึงการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะสูงถึงร้อยละ 6.6 ในปี 2023 ในขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัวซึ่งคาดว่าจะสูงถึงเกือบ 2,000 ดอลลาร์ต่อปี รวมถึงคาดว่ากัมพูชาจะยังคงใช้นโยบายภาครัฐแบบเกินดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางกลับเข้ามายังกัมพูชา หลังจากจีนมีกำหนดที่จะเปิดประเทศอีกครั้งในเดือน ม.ค. ซึ่งการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวจีนที่คาดการณ์ไว้จะทำให้เศรษฐกิจกัมพูชากลับมาขยายตัวอีกครั้ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501213048/gdp-increase-expected-for-2023/