ผนึก 5 ประเทศอาเซียน วีซ่าฟรี แลก “วีซ่าเชงเก้น”

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการควิก-วิน ด้านการกระตุ้นการท่องเที่ยวว่า พยามยามทำทุกวิถีทาง เช่น เปิดวีซ่าให้ประเทศต่าง ๆ เริ่มได้ผลกลับคืนมา จีนมีการเซ็นข้อตกลงวีซ่าฟรีถาวร รวมถึงการขยายสนามบิน ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จัดเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวของประเทศอนุภูมิภาคกลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันให้เป็นเอกภาพและมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่่อนุภูมิภาคและส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างกันต่อไป โดยตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้านอื่นในอนุภูมิภาคนี้ รวมถึงประเทศมาเลเซียด้วย หลังได้พบปะหารือกับผู้นำประเทศอาเซียนหลายประเทศ

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/tourism/587611

‘เวียดนาม-จีน’ ยอดค้าชายแดนพุ่ง โอกาสเติบโตสูงในอนาคต

คณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจประตูชายแดนดงดัง-ลางเซิน เปิดเผยว่าสัปดาห์แรกของปีนี้ มีรถบรรทุกขนส่งสินค้าผ่านด่านชายแดน 6 แห่งในจังหวัดหลั่งเซิน จำนวนมากกว่า 300 คัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และมีรถบรรทุกสินค้าส่งออกเฉลี่ย 400 คัน และรถบรรทุกสินค้านำเข้าประมาณ 800 คัน โดยตัวแทนของคณะกรรมการระบุว่าความต้องการของตลาดจีนสำหรับสินค้าเกษตรและผลไม้สดของเวียดนามมีมากขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในขณะที่ผู้ประกอบการเวียดนามจำเป็นที่จะต้องนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคและชิ้นส่วนประกอบเพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศที่สูงขึ้น ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนสูงขึ้นอย่างมาก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-china-see-surge-in-border-trade-with-more-to-come/278112.vnp

‘เวียดนาม’ เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ม.ค. เพิ่มขึ้น 18.3%

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (IIP) เดือน ม.ค.67 เพิ่มขึ้น 18.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ดัชนีผลผลิตอุตฯ ปรับตัวลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสาขาของภาคอุตสาหกรรมเวียดนาม พบว่าสาขาการผลิตและการแปรรูป ขยายตัว 19.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตฯ ในภาพรวมปรับตัวสูงขึ้น 15.1 จุด ตามมาด้วยการผลิตและการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 21.6% การจัดการน้ำเสียและการบำบัดน้ำเสีย เพิ่มขึ้น 5.7% และการทำเหมืองแร่ เพิ่มขึ้น 7.3%

อีกทั้ง สินค้าอุตสาหกรรมที่มีส่วนให้ดัชนีผลผลิตอุตฯ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์ไฟฟ้า โลหะ เคมีภัณฑ์ เครื่องหนังและสินค้าที่ได้จากการแปรรูปอาหาร

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1650167/industrial-production-index-up-18-3-y-on-y-in-january.html

การค้าชายแดนเมียนมาร์-ไทยมีมูลค่าทะลุ 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมกราคม

ช่วงระหว่างวันที่ 1 ถึง 28 มกราคมที่ผ่านมา การค้าชายแดนของเมียนมากับไทยผ่านทางชายแดนเมียวดี อยู่ใกล้เคียงมีมูลค่า 45.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคิดเป็นมูลค่าการส่งออก 10.452 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 34.768 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญของเมียนมา ได้แก่ ถั่วลิสง หัวหอม พริกแห้ง และพริกสดมายังไทย ส่วนสินค้านำเข้าจะเป็น วัตถุดิบพลาสติก ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง ผงซักฟอก อาหาร และอะไหล่เครื่องจักร นอกจากนี้ การตรวจสอบผลิตภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่เน่าเสียง่ายและผลิตภัณฑ์สีเขียว เช่น หัวหอมและพริก ที่ด่านชายแดน จะได้รับการจัดลำดับความสำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกและเร่งรัดการส่งออก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-thailand-border-trade-reaches-over-us45-mln-in-january/#article-title

BCEL เปิดตัวแอปชำระเงินใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวระหว่างเยือนลาวปี 2567

Banque pour le Commerce Exterieur Lao Public (BCEL) เปิดตัวแอปพลิเคชัน EZyKip เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนลาวในช่วง Visit Laos Year 2024 ช่วยอำนวยความสะดวกในการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม BCEL ที่มีมากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศลาว ด้วยค่าธรรมเนียม 0% ผ่านการสแกน QR ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการพกพาเงินสด ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนและโอนยอดคงเหลือกลับไปยังบัตรธนาคารของตนได้อย่างง่ายดาย ทำให้มั่นใจได้ถึงระบบนิเวศการชำระเงินที่ปลอดภัยและไม่ยุ่งยากตลอดการเดินทางในลาว ทั้งนี้ แอป EZyKip ถูกพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับการเป็นเจ้าภาพการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียนของลาวและการเป็นประธานอาเซียนตลอดปี 2567 โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสบการณ์โดยรวมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และลดความซับซ้อนของการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างการเยือนประเทศลาว

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/02/02/bcel-launches-new-payment-app-for-tourists-during-visit-laos-year-2024/

ธนาคารกลางเมียนมาอัดฉีดเงิน 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ50 ล้านบาทเข้าสู่ตลาดการเงิน

ธนาคารกลางเมียนมา (CBM) ขายเงินตราต่างประเทศในตลาดฟอเร็กซ์ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ได้ 13 ล้านดอลลาร์ และขายบนแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์สำหรับผู้ส่งออกและผู้นำเข้าเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 5 ล้านดอลลาร์และ 50 ล้านบาท ซึ่ง CBM ปกปิดอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการทำธุรกรรมเหล่านั้นจากสาธารณะ โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงที่กำหนดโดย CBM คือ 2,100 จ๊าดต่อดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่มีการแลกเปลี่ยนในตลาดไม่เป็นทางการอยู่ที่ประมาณ 3,550 จ๊าดต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินบาทปัจจุบันมีอยู่ที่ 101 จ๊าดต่อบาท อย่างไรก็ดี ในเดือนมกราคม 2567 CBM ขายเงินตราต่างประเทศได้ 68.33 ล้านดอลลาร์, 313.5 ล้านบาท และ 4.2 ล้านหยวนจีน และเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก็อัดฉีดเงิน 22.15 ล้านดอลลาร์เข้าสู่ภาคน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย นอกจากนี้ CBM อนุญาตให้ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต (ธนาคารเอกชน) ดำเนินการซื้อขายฟอเร็กซ์ออนไลน์ได้อย่างอิสระตามอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดโดยกลไกตลาด ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทาน โดยที่ขั้นตอนการโอนเงินไปต่างประเทศจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อบังคับของคณะกรรมการกำกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/cbm-injects-us18-mln-50-mln-thai-baht-into-financial-market-in-two-days/#article-title

สปป.ลาว มีรายได้ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการส่งออกสินค้าเกษตรในปี 2566

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและป่าไม้ สปป.ลาว เผย ลาวมีรายได้มากกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการส่งออกผลิตผลทางการเกษตรในปีที่แล้ว ซึ่งเกินเป้าหมายปี 2566 20.18% โดยมูลค่าการผลิตในภาคเกษตรและป่าไม้ของประเทศลาว ขยายตัว 3.4% ในปี 2566 คิดเป็น 21.4% ของจีดีพี โดยมีการเก็บเกี่ยวพืชผลประมาณ 9.74 ล้านตัน ซึ่งเกินเป้าหมาย 3.7% โดยผลผลิตมันฝรั่งเพิ่มขึ้น 28.62% กาแฟ 7.5% กล้วย 16.7% และอ้อย 10.1% ปัจจุบันมีฟาร์มปศุสัตว์ 2,261 แห่ง ซึ่งมีสัตว์มากกว่า 6.5 ล้านตัว เพิ่มขึ้น 123 แห่ง เมื่อเทียบกับปี  2565 จำนวนดังกล่าวประกอบด้วยฟาร์มปศุสัตว์ 55 แห่ง ฟาร์มหมู 34 แห่ง และฟาร์มสัตว์ปีก 18 แห่ง ซึ่งผลิตเนื้อสัตว์คิดเป็น 41% ของทั้งประเทศ รัฐบาลยังคงเจรจาเพื่อการส่งออกผลิตผลทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันสามารถส่งออกสินค้าได้ 64 ชนิด มากกว่าปี 2565 16 ชนิด ในจำนวนนี้ มีการส่งออกไปยังจีน 33 ชนิด ส่งออกไปยังเวียดนาม 16 ชนิด และส่งออกให้ไทย 15 ชนิด

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_24_Laowearns_y24.php

รัฐบาลกัมพูชาพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมเกษตรขึ้นเป็นอุตสาหกรรมหลักของชาติ

รัฐบาลกัมพูชา (RGC) ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการเกษตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดภายในประเทศ ภูมิภาค และต่างประเทศ กล่าวโดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ในระหว่างการเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมประจำปี 2023 ของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ซึ่งอุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากบริษัทต่างชาติอย่าง สิงคโปร์ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลที่ได้เพิ่มการลงทุนไปยังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างระบบชลประทาน ระบบการขนส่งในชนบท โลจิสติกส์ ไฟฟ้าและกระบวนการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล อีกทั้งรัฐบาลยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างทุนมนุษย์และให้สิ่งจูงใจทางด้านการเงินเพื่อปรับปรุงคุณภาพประสิทธิภาพ ผลผลิต และความปลอดภัย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์เกษตรในตลาดภายในประเทศ ภูมิภาค และต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501432466/agricultural-modernisation-govts-top-priority-says-pm/

กัมพูชาจับตาจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชากำลังพิจารณาสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่ โดยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ในระหว่างการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “โครงการพิเศษเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดพระสีหนุ 2024” ในจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งเน้นย้ำถึววิสัยทัศน์ของรัฐบาลสำหรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในอนาคต เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่หลากหลายในระยะต่อไป และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย รัฐบาลได้กำหนดนโยบายและดำเนินโครงการนำร่องภายในเขตเศรษฐกิจอย่างจริงจัง โดยเน้นไปที่การดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยีสีเขียว อุตสาหกรรมที่ยั่งยืน และภาคดิจิทัล เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501432763/cambodia-eyes-establishing-special-economic-zone-by-countries-says-pm/

รัฐบาลประกาศเจรจา FTA ไทย-อียู จบปี 2568 ดันการค้า-ลงทุน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก ผลักดันการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Area: FTA) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดโลก พัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

สำหรับการประชุมเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป (EU) รอบที่ 2 เมื่อวันที่ 22 – 26 มกราคม 2567 ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการแปลกเปลี่ยนมุมมองและข้อเสนอต่าง ๆ ด้านการค้าและการลงทุน พร้อมสร้างความเข้าใจในการร่วมกันยกระดับไปสู่หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในอนาคตให้มากขึ้น

ทั้งนี้ การประชุมเจรจา FTA ไทย-EU รอบที่ 3 EU รับเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือประเด็นต่าง ๆ ด้านความร่วมมือไทย-EU เพิ่มเติม ในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 โดยรัฐบาลตั้งเป้าให้การเจรจา FTA สามารถบรรลุข้อสรุปได้ภายในปี 2568

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/economy/587341