พาณิชย์เตรียมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนที่เวียดนาม หวังผลักดันการลงนามข้อตกลง RCEP

กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 26 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เร่งพิจารณาเห็นชอบแผนงานด้านเศรษฐกิจที่จะผลักดันให้อาเซียนดำเนินการให้สำเร็จในปี 2563 ติดตามการดำเนินการตาม AEC Blueprint พร้อมเตรียมการประชุมรัฐมนตรี RCEP โดยอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 26 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ เช่น การพิจารณาเห็นชอบแผนงานด้านเศรษฐกิจที่เวียดนามในฐานะประธานอาเซียนผลักดันให้อาเซียนดำเนินการให้สำเร็จในปี 2563 การติดตามการดำเนินการตาม AEC Blueprint โดยเฉพาะเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียน การเตรียมการประชุมระดับรัฐมนตรี RCEP และการหารือกับสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนเรื่องการดำเนินงานของอาเซียน เป็นต้น

ที่มา : https://www.trjournalnews.com/16415

สปป.ลาวได้รับเงินทุนจากธนาคารโลกเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนในชนบท

รัฐบาลได้กู้ยืมเงิน 22.5 ล้านเหรียญสหรัฐผ่านธนาคารโลกในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโภชนาการและความยากจนซึ่งมีกรอบระยะเวลาตั้งแต่ปี 2563-2567 โดยกำหนดเป้าหมายชุมชนทางเหนือของสปป.ลาว นอกจากนี้รัฐบาลยังลงทุน 13 พันล้านกีบในโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรในหลวงน้ำทา หลวงพระบางสะหวันนะเขต สะระวัน เพื่อความยั่งยืนด้านผลผลิตทางเกษตรตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะแก้ปัญหาความขาดแคลนด้านอาหารในสปป.ลาว ดังนั้นการได้รัยเงินช่วยเหลือจากธนาคารโลกจะเป็นแรงสนับสนุนอีกก้าวหนึ่งในการที่จะทำให้สปป.ลาวเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและมีความมั่นคงทางด้านอาหารในอนาคต

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-gov’t-taps-us225-million-world-bank-finance-tackle-rural-poverty-115094

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของสปป.ลาว ต้องการความช่วยเหลือจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเรียกร้องให้ภาครัฐฯช่วยเหลือและร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะแก้ไขสถานการณ์การค้าที่เผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งตัวแทนของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร สายการบิน การท่องเที่ยว เป็นต้น ได้มารวมตัวกันที่กรุงเวียงจันทร์เมื่อวานที่ผ่านมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการหาวิธีแก้ไขต่อสถานการณ์ไวรัสดังกล่าว ทั้งนี้ การประชุมหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติสปป.ลาว ได้เสนอประเด็นต่างๆ ในการช่วยเหลืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปัจจุบัน รวมถึงการลด/เลื่อนการชำระภาษี และให้ธุรกิจท่องเที่ยวได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะดึงดูดลูกค้าผ่านการโปรโมตกลุ่มเป้าหมายในประเทศ ภายใต้ชื่อ “ลาวช่วยลาว” นอกจากนี้ จากตัวเลขการท่องเที่ยวในปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาสปป.ลาว มากกว่า 1 ล้านคน แต่ในปัจจุบันรัฐบาลจีนได้สั่งห้ามบริษัททัวร์จีนไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ ส่งผลให้ธุรกิจท้องถิ่นสปป.ลาว สูญเสียรายได้ราว 20-25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-tourism-industry-seeks-help-wake-covid-19-slump-115095

ก.แรงงาน เปิดคอร์สฝึกแรงงานเพื่อนบ้าน เสริมความเข้มแข็งภูมิภาคอาเซียน

ก.แรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดคอร์สอบรมแรงงาน เพื่อนบ้าน กว่า 10 หลักสูตร สร้างความเข้มแข็งลุ่มน้ำโขงและในภูมิภาคอาเซียน โดยทางกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าความผันผวนทางเศรษฐกิจภายในประเทศไทย เกิดจากปัจจัยหลายด้าน อาทิ การลดลงของปริมาณกำลังแรงงานไทย การปรับเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่รวดเร็ว ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น รวมถึงนักลงทุนจากกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีศักยภาพ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย หันมาลงทุนในประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อความต้องการแรงงานที่มีความรู้และทักษะฝีมือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ จีงกำหนดยุทธศาสตร์ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ กพร. ได้จัดตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาฝีมือและศักยภาพแรงงานในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อยกระดับขีดความสามารถของแรงงานเพิ่มขึ้น ด้วยจำนวน 13 หลักสูตร อาทิ การออกแบบว็บไซต์ด้านโปรแกรม WordPress การโฆษณาและการตลาดด้านการท่องเที่ยว การประยุกต์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร เทคนิคการขับรถยกสินค้าอย่างปลอดภัย และเทคนิคการซ่อมเครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตร เป็นต้น

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/prg/3102138

ดัชนีอุตฯ IIP เพิ่มขึ้น 6.2% ในช่วง 2 เดือนแรก

จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (IIP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อกิจกรรมการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งไวรัสข้างต้นส่งผลต่อแหล่งวัตถุดิบนำเข้าจากจีนในอุตสาหกรรมบางอย่าง หากจำแนกภาคอุตสาหกรรม พบว่าภาคแปรรูปและการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4, การผลิตไฟฟ้าและจำหน่าย (+8.4%), น้ำประปาและบำบัดน้ำเสีย (+4.9%) แต่การขุดเหมือง (-3.7%) อย่างไรก็ตาม สินค้าสำคัญบางอย่างที่อยู่ในธุรกิจ FDI มีการผลิตขยายตัวสูงขึ้น อาทิ ชิ้นส่วนโทรศัพท์เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 30, โทรศัพท์มือถือ (+25.5%), สมาร์ทโฟน (+3.2%), ถ่านหินสะอาด (+10.3%) และการผลิตไฟฟ้า (+8.6%) นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจของสำนักงาน GSO ระบุว่าจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นที่อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรม ตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้วเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคธุรกิจที่ไม่ใช่รัฐและธุรกิจ FDI จากข้อมูลข้างต้นนั้น แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการพร้อมที่จะฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ผ่อนคลายลง

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/iip-rises-62-in-first-two-months-410915.vov

ราคาส่งออกข้าวพุ่ง ตามความต้องการเพิ่มขึ้น

จากข้อมูลของสมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) เปิดเผยว่าเมื่อไม่นานมานี้ ราคาส่งออกข้าวปรับตัวสูงขึ้น เนื่องมาจากความต้องการเพิ่มขึ้นของตลาดบางแห่ง อาทิ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เป็นต้น ทางตลาดมาเลเซียได้ตกลงที่จะซื้อธัญพืชจากเวียดนาม 90,000 ตัน และจะนำเข้าเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคตข้างหน้า สำหรับเกาหลีใตให้โควตานำเข้าอาหารเวียดนาม 55,112 ตันในปีนี้ ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวจำนวนมากจากเวียดนาม ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2562 และคาดว่ายังคงรักษาตำแหน่งสูงสุดในปี 2563 คิดเป็นปริมาณนำเข้า 2.6 ล้านตัน ทั้งนี้ คณะผู้แทนจากกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ มีกำหนดการเข้าเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปข้าวเวียดนาม เพื่อที่จะเตรียมนำเข้าในอนาคตข้างหน้า นอกจากนี้ จีนที่เคยเป็นตลาดข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามาหลายปีนั้น แต่ในปี 2562 ยอดส่งออกข้าวไปยังประเทศดังกล่าวลดลงอย่างมากร้อยละ 64.2 เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัวสโควิด-19

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/rice-export-prices-surge-amid-high-demand/169579.vnp

รัฐบาลเมียนมาเดินหน้าควบคุมกิจการแพประมง

กรมประมงจะทำการจดทะเบียนธุรกิจแพประมงที่จ้างคนงาน 30 คนขึ้นไปเพื่อจัดการกับปัญหาเรื่องการบังคับใช้แรงงานและการละเมิดสิทธิมนุษยชน ภายใต้กฎระเบียบใหม่ผู้ประกอบการแพตกปลาอาจจ้างเฉพาะคนงานที่มีบัตรประชาชนและรับรองว่าไม่มีการบังคับใช้แรงงาน ในระหว่างการประชุมกับสมาชิกสภานิติบัญญัติผู้ประกอบการเห็นด้วยกับรายการตรวจสอบ 16 จุดเพื่อตรวจสอบการดำเนินธุรกิจ สำหรับบทลงโทษที่ฝ่าฝืนจะปรับสูงถึง 3 ล้านจัต (2,000 ดอลลาร์สหรัฐ) และการห้ามทำประมงสามเดือน เมื่อปีที่แล้วมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คนได้รับบาดเจ็บบาดเจ็บหรือสูญหายเนื่องจากการล่องแพในเขตอิระวดี เมื่อปลายปีที่แล้วมีรายงานว่านักศึกษาของ Dagon University ถูกค้ามนุษย์และถูกบังคับให้ทำงานบนแพตกปลาก่อนที่จะถูกช่วยเหลือไว้ได้ทัน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/government-moves-regulate-raft-fishing-businesses.html

บริษัทต่างชาติลงทุน 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐในธุรกิจ CMP ในย่างกุ้ง

ตามรายงานของคณะกรรมการการลงทุนเขตย่างกุ้ง บริษัท ต่างๆ จะเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจผลิตเสื้อผ้าและกระเป๋าแบบ CMP (Cutting Making และ Packaging) ในเขตอุตสาหกรรมในเขตย่างกุ้งรวมถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษติวาล่า ด้วยการลงทุนเกือบ 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัท ไฟน์ไลน์ จำกัด จากฮ่องกง ลงทุน 2.087 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเขตเศรษฐกิจพิเศษติวาล่า บริษัท Genesis Myanmar Garment จำกัด จำนวน 4.285 ดอลลาร์สหรัฐ ในเขตอุตสาหกรรมอีสต์ ดราก้อน South Frame Myanmar Limited จากเอสโตเนีย 0.852 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  Myanmar Journey Bags Co Ltd (ฮ่องกง) 1.622 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเขตอุตสาหกรรมวาตายา Kai Sheng (เมียนมา) ของไต้หวัน 0.911 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน ในเมืองชเวปยีธา บริษัท การ์เม้นท์ จำกัด จากจีน 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัท ศรีหยวน (เมียนมา) จำกัด จากฮ่องกง 0.906 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเมืองไล่ง์บแว่ บริษัท ซันไรส์ (เมียนมา) แฟชั่น จำกัด จากจีน 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเขตอุตสาหกรรม Thadukan บริษัท ซีรานนอนวูฟเวน (เมียนมา) จำกัด จากฮ่องกง 2.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Allland Fashion Limited จากจีน 1.002 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเขตอุตสาหกรรมไลง์ตายา และมีบริษัททั้งจากจีน ไต้หวัน และอื่น ๆ ที่ลงทุนในธุรกิจเสื้อผ้าแบบ CMP ในหลายเขตอุตสาหกรรม การลงทุนในครั้งนี้สามารถสร้างงานในท้องถิ่นมากกว่า 8,920 ตำแหน่ง

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/companies-to-invest-24-m-in-cmp-garment-bag-making-in-yangon

กัมพูชามองถึงการเติบโตด้านการท่องเที่ยวหลังสิ้นสุดการระบาด Covid-19

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนกัมพูชาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหลังจากสิ้นสุดการระบาดของ COVID-19 โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยรัฐบาลได้มีการแนะนำมาตรการและแผนงานเพื่อฟื้นฟูภาคต่างๆโดยเฉพาะในจังหวัดเสียมราฐ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของกัมพูชา ซึ่งในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในกัมพูชาลดลงถึง 15% เมื่อปีที่แล้วภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาเติบโตถึง 6.6% คิดเป็น 6.6 ล้านคน โดยมีรายรับจากภาคการท่องเที่ยวถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากลัวคือ COVID-19 จะลดจำนวนนักท่องเที่ยวลงในปีนี้ประมาณไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนและรัฐมนตรีต่างประเทศของกระทรวงการท่องเที่ยวเรียกร้องให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นเพื่อเป็นการช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50698040/cambodia-optimistic-of-exponential-tourism-growth-and-foreign-arrivals-after-end-of-covid-19

ทางหลวงสู่สีหนุวิลล์แล้วเสร็จไปกว่า 20%

โครงการทางด่วนแห่งแรกในกัมพูชาเชื่อมโยงระหว่างเมืองหลวงกรุงพนมเปญกับสีหนุวิลล์ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 20% นับตั้งแต่เริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้วตามรายงานจากกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT) สร้างโดย China Road และ Bridge Corp (CRBC) ซึ่งเป็นของรัฐผ่านบริษัทย่อยของบริษัท PPSHV Expressway Co Ltd. โดยคาดว่าค่าใช้จ่ายของโครงการจะมีมูลค่าประมาณ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ระยะทางทอดยาว 190 กิโลเมตร ความกว้าง 24.5 เมตร ซึ่งถือเป็นพื้นฐานในการให้บริการอุตสาหกรรมที่ทันสมัยของประเทศและอำนวยความสะดวกในกิจกรรมการขนส่งระหว่างประเทศ การก่อสร้างทางด่วนเป็นไปตามวัตถุประสงค์การรวมตัวของภูมิภาคอาเซียนและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งจะเชื่อมโยงเครือข่ายการขนส่งในระดับภูมิภาคจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง โดยทางหลวงใหม่นี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งของกัมพูชาควบคู่ไปกับการพัฒนาโลกาภิวัตน์ ซึ่งการพัฒนาทางพิเศษเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Belt and Road” ของรัฐบาลจีนครอบคลุมเกาะเทียมในศรีลังกา สะพานในบังคลาเทศและโครงการไฟฟ้าพลังน้ำทั้งในเนปาลและอินโดนีเซีย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50697727/billion-dollar-highway-to-sihanoukville-20pct-ready