กระทรวงเกษตรกัมพูชา พร้อมจัดงานมหกรรมสินค้าเกษตรเดือน มิ.ย.

กระทรวงเกษตรกรรม ป่าไม้ และประมง (MAFF) พร้อมจัดงานนิทรรศการหมู่บ้านเกษตรกรรมเขมร และเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่อง “รสชาติของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเขมร” เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรกรรมของกัมพูชาในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่กำลังจะถึง โดยงานนี้มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ผลผลิตภายในประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ซึ่งการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในท้องถิ่นส่งผลดีโดยตรงต่อเกษตรกรท้องถิ่นที่ทุ่มเทเวลาและแรงกาย ภายใต้ทั้งแสงแดดและฝน เพื่อปลูกพืชและนำมาจำหน่าย กล่าวโดย Khim Finan โฆษกกระทรวงเกษตรกรรม เมื่อวานนี้ว่า นอกจากนี้ยังได้กล่าวเสริมอีกว่าผักและผลไม้ที่ปลูกขึ้นในท้องถิ่นคิดเป็นร้อยละ 60 ถึง 70 ของตลาดภายในประเทศ ขณะที่ประมาณร้อยละ 30 ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501495155/ministry-to-host-june-agricultural-product-fair/

MoC-NBC ผลักดันการใช้ป้ายแสดงราคาสินค้าเป็นสกุลเงินเรียล

กระทรวงพาณิชย์ (MoC) และธนาคารชาติกัมพูชา (NBC) ได้จัดการประชุมระดับสูงเพื่อหารือกลยุทธ์ส่งเสริมการใช้เงินสกุลเรียลของประเทศกัมพูชา โดยเห็นพ้องกันว่าการแสดงป้ายราคาเป็นสกุลเงินท้องถิ่นเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งการประชุมครั้งนี้นำโดย Yim Leat รองผู้ว่าการธนาคารชาติกัมพูชา และ Serey Borapich รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย สำหรับวัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คือการจัดระเบียบความร่วมมือระหว่างสองสถาบัน เพื่อส่งเสริมการใช้เงินเรียลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านธนาคารชาติกัมพูชายังได้นำเสนอวิธีการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ร่วมด้วยซึ่งมีส่วนช่วยในการใช้เงินเรียลมากขึ้น ปัจจุบันปริมาณเงินเรียลที่หมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นจาก 8.5 แสนล้านเรียล (ประมาณ 211 ล้านดอลลาร์) เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นสู่ 14.5 ล้านล้านเรียล (ประมาณ 3.51 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2023

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501495175/moc-nbc-push-for-riel-price-tags/

การจ้างงานในประเทศไทย ไตรมาส 1 ปี 67 ลดลง 0.1%

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เผยว่าการจ้างงานของไทยลดลงในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากงานภาคเกษตรกรรมลดลง โดยการจ้างงานแรงงานต่างชาติที่มาจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวน 39.6 ล้านคน ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลงจากการเติบโตร้อยละ 1.7 ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 การลดลงเล็กน้อยมีสาเหตุมาจากการจ้างงานภาคเกษตรกรรมในช่วงนอกฤดูกาลหดตัวมากกว่าร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่งานนอกภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 2.2 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยการจ้างงานในภาคโรงแรมและร้านอาหารขยายตัวร้อยละ 10.6 จากปีก่อนหน้า ตามจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีมากกว่า 9.3 ล้านคนในช่วงสามเดือนแรกของปี 2567 ทั้งนี้ อัตราการว่างงานของไทยอยู่ที่ร้อยละ 1.01

ที่มา : https://english.news.cn/20240527/e92f9415039b4b8d8df1efa791208996/c.html

‘เวียดนาม’ เผยดึง FDI ช่วง 5 เดือนแรกปี 67 ทะลุ 11.07 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเวียดนาม ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่จากข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ค. พบว่าเวียดนามมีโครงการลงทุน 40,285 โครงการ และมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 481.33 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เกินดุลการค้า 19.57 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ภาคในประเทศ ขาดดุลการค้า 11.05 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ สาขาการผลิตและแปรรูปยังคงได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด มีมูลค่าเกินกว่า 7.43 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 67.1% ของจำนวนเงินทั้งหมด เพิ่มขึ้น 11.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รองลงมาสาขาอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่าราว 1.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ และสาขาการค้าส่งค้าปลีก การขนส่งและการจัดเก็บสินค้า มีมูลค่ากว่า 856.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1656338/fdi-reaches-us-11-07-billion-in-first-five-months-of-2024.html

‘เวียดนาม’ ส่งออกปลาสวาย มีแนวโน้มฟื้นตัว

จากข้อมูลทางสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าเวียดนามทำรายได้จากการส่งออกปลาสวาย (Tra fish) ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ราว 725 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่จากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลของเวียดนาม (VASEP) ระบุว่าสหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำเข้าปลาสวายจากเวียดนามรายใหญ่ที่สุด รองลงมาจีน สหภาพยุโรปและอเมริกาใต้ โดยเฉพาะสินค้าส่งออกปลาแช่แข็งของเวียดนามที่ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ทำรายได้มากกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือคิดเป็นสัดส่วน 98% ของสินค้าส่งออกปลาสวายทั้งหมด

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญ มองว่าแนวโน้มการส่งออกปลาสวายไปยังตลาดยุโรปจะปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดของสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ทำให้เวียดนามต้องใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรียุโรป-เวียดนาม (EVFTA) เพื่อที่จะเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-tra-fish-export-tipped-to-bounce-back-post287558.vnp

‘ไมโครซอฟท์’ เผยผลสำรวจชี้ว่าเวียดนามใช้ AI ในการทำงานสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก

จากรายงานของไมโครซอฟท์ (Microsoft) เปิดเผยผลการสำรวจแรงงาน 31,000 คน จาก 31 ประเทศทั่วโลก รวมถึงเวียดนาม พบว่าอัตราการใช้งานปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative AI) เข้ามาช่วยในการทำงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ด้วยเครื่องมือยอดนิยม ได้แก่  ChatGPT, Copilot และ GitHub Copilot เป็นต้น

โดยเฉลี่ยกลุ่มตัวอย่าง 3 ใน 4 หรือคิดเป็น 75% มีการใช้ AI โดยเฉพาะเวียดนามที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 88% ใช้ AI ในการทำงาน และมีอัตราสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก

ทั้งนี้ นาง Nguyen Quynh Tram ผู้อำนวยการทั่วไปของ Microsoft Vietnam กล่าวว่าในปัจจุบัน AI ไม่เพียงแต่ใช้งานทั่วไปแล้ว เช่น การแปลเอกสาร การสรุปผลหรือการร่างอีเมล์ แต่ยังมีการใช้งานในการสร้างสรรค์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นให้คนหันมาใช้ AI จากระดับลูกจ้างนั้น เป็นไปได้ยาก

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/rate-of-using-ai-to-work-in-vietnam-is-higher-than-worlds-average-microsoft-post1097732.vov

เขตมินบู มีแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรจากโครงการชลประทานพลังงานแสงอาทิตย์ 19 โครงการ

กรมชลประทานและการจัดการการใช้น้ำของเมียนมา ระบุว่า โครงการชลประทานพลังงานแสงอาทิตย์ 19 โครงการได้ดำเนินการในเขตมินบู โดยได้รับเงินกู้จากกองทุนส่งเสริมเศรษฐกิจของรัฐ เพื่อปรับปรุงคุณทางสังคมและเศรษฐกิจของเกษตรกรในภูมิภาคจากเมืองต่างๆ และเพื่อเพิ่มผลผลิตพืชผลในท้องที่ โดยทั้ง 19 โครงการ ได้รับการอนุมัติด้วยเงินกู้จำนวน 78.365 ล้านจ๊าด และประสบความสำเร็จอย่างมากในการปลูกพืชผลในเขตดังกล่าว  อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จากกรมชลประทานและการจัดการการใช้น้ำ กล่าวว่า ชาวนาแต่ละรายกู้ยืมเงิน 5.625 ล้านจ๊าด ในอัตราดอกเบี้ยต่ำโดยมีระยะเวลากู้ยืม 1 ปี สิ่งอำนวยความสะดวกด้านชลประทานได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีในการจัดหาน้ำเพื่อการเกษตรให้กับพืชผลในพื้นที่ที่ยากลำบาก นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่าเกษตรกรในท้องถิ่นสามารถปลูกพืชได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าต่อปี ด้วยระบบชลประทานพลังงานแสงอาทิตย์แบบใหม่ ระบบใช้น้ำใต้ดินและจัดหาน้ำประปาที่เชื่อถือได้ทุกครั้งที่ต้องการ สิ่งนี้มาแทนที่การพึ่งพาน้ำฝนแบบดั้งเดิมและลดต้นทุนเชื้อเพลิงสำหรับเกษตรกร รวมทั้ง ระบบดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มผลผลิตพืชผลและปรับปรุงชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของเกษตรกร จากข้อมูลของหน่วยงานดังกล่าว กองทุนส่งเสริมเศรษฐกิจของรัฐจะถูกใช้เพื่อขยายระบบน้ำประปาพลังงานแสงอาทิตย์นี้ไปยังเมืองอื่นๆ ในเขตมินบูด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/minbu-district-enjoys-agricultural-water-from-19-solar-powered-irrigation-projects/

รัฐบาล สปป.ลาว สั่งทุกหน่วยงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศอย่างจริงจัง

รัฐบาล สปป.ลาว เรียกร้องให้หน่วยงานกลางและระดับท้องถิ่นเร่งดำเนินการเพื่อบรรลุยุทธศาสตร์และมาตรการทางเศรษฐกิจที่มุ่งแก้ไขความยากลำบากทางเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่ ท่ามกลางความกังวลที่เกิดจากความวุ่นวายทั่วโลกและแรงกดดันทางเศรษฐกิจภายในประเทศ แนวทางหลักที่ต้องปฏิบัติคือลดการพึ่งพาการนำเข้าและเพิ่มการบริโภคสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ เนื่องจากการพึ่งพาสินค้านำเข้าในสัดส่วนที่มาก ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศขยายตัว จนอัตราเงินเฟ้อมีระดับที่สูงในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_99_govt_y24.php

AMRO คาด GDP กัมพูชาโต หนุนโดยการส่งออกและการท่องเที่ยว

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (AMRO) คาดการณ์เศรษฐกิจกัมพูชามีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 2024 โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการส่งออกและการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 5.6 ในปี 2024 และร้อยละ 5.9 ในปี 2025 กล่าวโดย Jinho Choi นักเศรษฐศาสตร์ประจำสำนักงาน AMRO อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวนี้ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงภายนอกและจุดอ่อนภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวและคุณภาพสินเชื่อที่ปรับตัวลดลง ขณะที่การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2024 โดยแรงขับเคลื่อนมากจากความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นในตลาดหลักของประเทศพัฒนาแล้ว ในขณะเดียวกัน ภาคการผลิตนอกเหนือจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ คาดว่าจะรักษาโมเมนตัมการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อไป โดยได้รับการสนับสนุนจากการไหลเข้าของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่มั่นคง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501494147/amro-forecasts-rosier-growth-for-cambodia-in-2024/

กรมสรรพากรกัมพูชา รายงานการจัดเก็บภาษีไตรมาส 1 ลดลง

กรมสรรพากร (GDT) รายงานการจัดเก็บภาษี ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2024 ที่มูลค่ารวม 1.18 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 11.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดการจัดเก็บภาษี 1.34 พันล้านดอลลาร์ สำหรับกัมพูชามีหน่วยงาน 2 แห่ง ที่รับผิดชอบการจัดเก็บภาษี หน่วยงานแรกคือ กรมสรรพากร (GDT) ซึ่งมุ่งเน้นการจัดเก็บภาษีภายในประเทศ เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีเงินเดือน ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีที่ดิน อีกหน่วยงานคือกรมศุลกากร (GDCE) ซึ่งทำหน้าที่จัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าและส่งออก โดยการจัดเก็บภาษีในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม คิดเป็นร้อยละ 28.5 ของเป้าหมายการจัดเก็บภาษีที่ตั้งไว้ในปีงบประมาณ 2024 ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้จัดเตรียมมาตรการกระตุ้นการจัดเก็บภาษีสำหรับภาคการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และภาคการเกษตร เพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501493907/gdt-tax-collection-falls-in-q1/