คาดอัตราการว่างงานกัมพูชาลดลงเหลือร้อยละ 0.3 ภายในปี 2023

คาดอัตราการว่างงานของกัมพูชาจะลดลงเหลือร้อยละ 0.3 ภายในปี 2023 จากร้อยละ 0.4 ในปีที่แล้ว ตามตัวเลขล่าสุดที่เผยแพร่โดยกระทรวงแรงงาน ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ของหน่วยงานสหประชาชาติ (UN) โดยตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานของกัมพูชาต่ำที่สุดในบรรดาประเทศที่มีระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจใกล้เคียงกันและต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อย่างเช่น ไทย เวียดนาม และ สปป.ลาว ในขณะที่อัตราการว่างงานโดยเฉลี่ยของกลุ่มประเทศอาเซียนคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4 ในปี 2023 จากร้อยละ 2.6 ในปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501354673/unemployment-rate-to-fall-to-0-3-percent-in-2023/

‘ไบเดน’ เตรียมเยือนเวียดนาม 10 ก.ย.นี้

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ มีกำหนดการเยือนเวียดนามในวันที่ 10 ก.ย.นี้ เพื่อหารือกับผู้นำระดับสูง และต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเพื่อตอบโต้จีน ในขณะที่ทำเนียบข่าว กล่าวว่าไบเดนจะพบกับนาย เหงียน ฟู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและผู้นำระดับสูงสุดของเวียดนาม รวมทั้งหารือแนวทางกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีในด้านต่างๆ ได้แก่ การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนาม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสร้างสันติภาพ ความมั่งคั่งและความมีเสถียรภาพในภูมิภาค

ที่มา : https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/20230829_09/

สปป.ลาว พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะรัฐมนตรีท่องเที่ยวและ Tourism Forum 2024

ขณะนี้ สปป.ลาว กำลังเร่งเตรียมการเพื่อเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีการท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 27 และการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน (ATF) ครั้งที่ 42 ณ นครเวียงจันทน์ ระหว่างวันที่ 22-27 มกราคม ปีนี้ นำโดย Khom Douangchantha อธิบดีกรมการตลาดการท่องเที่ยว ซึ่งได้เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว (MICT) ได้จัดตั้งคณะกรรมการเตรียมการจำนวน 13 คณะ ซึ่งจะรับผิดชอบในการคัดเลือกสถานที่ และจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย รวมถึงจัดทำการ์ดเชิญสำหรับผู้นำประเทศต่างๆ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมมากกว่า 800-1,000 คน ขณะที่ทางการ สปป.ลาว คาดหวังเป็นอย่างมากว่าจะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 2.7 ล้านคน เพื่อหวังกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/08/28/laos-gears-up-to-host-asean-tourism-ministers-meeting-tourism-forum-2024/

ส่งออกเดี้ยงศก.แย่ สศช.หั่นจีดีพีทั้งปีเหลือ2.5-3%

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีช่วงไตรมาส 2/2566 มีอัตราการเติบโต 1.8% ชะลอลงจากการขยายตัว 2.6% ในไตรมาสแรกของปี 2566 และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้วเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สองของปี 2566 ขยายตัวจากไตรมาสแรกของปี 2566 ที่ 0.2% ค่อนข้างต่ำกว่าคาดการณ์ จากสาเหตุภาคส่งออกติดลบ 5.7% เป็นการหดตัว 3 ไตรมาสติดต่อกัน และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ติดลบ 3.3% รวมถึงการอุปโภค-บริโภคของภาครัฐ ติดลบ 4.3% โดยครึ่งปีแรกเศรษฐกิจขยายตัว 2.2% หลักๆ มาจากรายได้ภาคท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.naewna.com/business/751534

7 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังตลาดกลุ่ม RCEP กว่า 4.6 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังประเทศในกลุ่มความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มูลค่ารวมกว่า 4.59 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามคำแถลงของกระทรวงพาณิชย์ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของกลุ่มประเทศ RCEP คิดเป็นร้อยละ 30 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั่วโลก (GDP) รวมถึงคิดเป็นร้อยละ 28 ของมูลค่าการค้าโลก และมีเม็ดเงินลงทุนร้อยละ 32.5 ของมูลค่าการลงทุนทั่วโลก ซึ่งข้อตกลงนี้คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการรวมกลุ่มอาเซียนเข้ากับเศรษฐกิจโลก ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และป้องกันแนวโน้มต่อต้านโลกาภิวัตน์ รวมถึงฝ่าวิกฤตการกีดกันทางการค้าระดับโลก ด้านกัมพูชาคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาดและพัฒนาฐานการผลิตในอาเซียน ไปจนถึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้อาเซียนเป็นตัวแปรหลักบนห่วงโซ่อุปทานในระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501346750/cambodias-exports-4-6b-to-rcep-markets-in-first-7-months/

‘สตาร์ทอัพฟินเทคเวียดนาม’ เผยครึ่งแรกปี 66 ระดมทุนได้เพียง 6.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานจาก Tracxn เปิดเผยว่าธุรกิจฟินเทค (FinTech) ของเวียดนามเผชิญกับอุปสรรคจากการระดมทุนที่ลดลงอย่างมากในปีนี้ เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญยังคงมองทิศทางไปในเชิงบวกจากการฟื้นตัวของภาคธุรกิจตามความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ จากรายงานชี้ให้เห็นว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2566 การระดมเงินทุนของฟินเทคที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งจากตัวเลขของเงินทุนปรับตัวลดลงเหลือเพียง 6.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามพยายามส่งเสริมภาคธุรกิจฟินเทคด้วยการปรับเปลี่ยนประเทศสู่ความเป็นดิจิทัลแห่งชาติ  (National Digital Transformation)

ที่มา : https://vir.com.vn/vietnamese-fintech-startups-secure-a-mere-62-million-funding-in-1h2023-104530.html

กัมพูชา-สปป.ลาว เปิดตัวระบบการชำระเงิน QR code ข้ามพรมแดน

กัมพูชาและ สปป.ลาว เปิดตัวระบบการชำระเงินด้วย QR code ข้ามพรมแดนในเฟสแรก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค.) ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาสามารถใช้เงินสกุลเรียลในการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการใน สปป.ลาว ได้สะดวกยิ่งขึ้น กล่าวโดยธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ในทางกลับกันนักท่องเที่ยวจาก สปป.ลาว ก็จะสามารถใช้เงินกีบในการซื้อสินค้าและบริการในบริเวณชายแดนติดกับกัมพูชาได้ง่ายขึ้น โดยในระยะแรกของโครงการอนุญาตให้ชาวกัมพูชาซึ่งมีบัญชีธนาคารในสกุลเงินเรียลใช้แอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือเพื่อชำระเงินผ่านการสแกน LAO QR Code กับพ่อค้าหรือร้านค้าใน สปป.ลาว ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้จะส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นและยังเป็นส่วนในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและการค้าข้ามพรมแดนระหว่างกัมพูชาและ สปป.ลาว ต่อไปในอนาคต สำหรับในระยะที่สองจะเปิดให้ชาว สปป.ลาว ที่มีบัญชีธนาคารในสกุลเงินกีบสามารถชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือโดยการสแกนรหัส KH QR Code กับร้านค้าหรือร้านค้าในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501345403/cambodia-laos-launch-1st-phase-of-cross-border-qr-code-payments/

จับตา SME เริ่มขาดสภาพคล่องสูงหลังแรงซื้อทั้งในและ ตปท.ดิ่งหนัก

นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.มีความกังวลถึงความอยู่รอดของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) ที่ขณะนี้กำลังประสบปัญหาสภาพคล่องมากขึ้นหลังจากต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิต และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นต่อเนื่อง แต่รายได้กลับสวนทางลดต่ำลงเนื่องจากแรงซื้อทั้งภายในประเทศและต่างประเทศปี 2566 ภาพรวมต่างชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ดังนั้นรัฐบาลใหม่จำเป็นจะต้องหามาตรการมาช่วยเหลือในการให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อพยุงเศรษฐกิจเร่งด่วน โดยปัจจุบันภาคการผลิตและส่งออกของไทยถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยคิดเป็นสัดส่วนราว 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และธุรกิจส่วนใหญ่มี SMEs อยู่ในห่วงโซ่การผลิตจำนวนมากที่ต้องยอมรับว่าภาคส่งออกของไทยครึ่งปีแรกของปี 2566 หดตัวร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและแม้แต่การค้าชายแดนเองก็ปรับตัวลดลงจึงกระทบต่อ SMEs ภาพรวมที่บางส่วนต้องปรับลดกำลังการผลิตลงตามคำสั่งซื้อที่ลดต่ำ และหากปัญหานี้ยังคงมีมากขึ้นอาจต้องปิดตัวลงซึ่ง ส.อ.ท.กำลังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

ที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9660000074361

‘ธนาคารโลก’ ชี้เวียดนามวิกฤตขาดแคลนไฟฟ้า พ.ค.-มิ.ย. สูญเงินกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากรายงานล่าสุดของธนาคารโลก (WB) เปิดเผยว่าจากเหตุการณ์ปัญหาไฟฟ้าดับในจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม เดือน พ.ค.-มิ.ย. ได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก สูญเสียเงินกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 0.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม รวมถึงยังส่งผลกระทบไปในวงกว้างต่อกิจกรรมทางด้านพลังงานเกิดหยุดชะงัก ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ ของระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ภาคพลังงานของเวียดนามเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และมีส่วนส่งเสริมการพัฒนาและการเข้าถึงไฟฟ้าของคนในประเทศ อย่างไรก็ตาม ปัญหาไฟฟ้าดับในเดือน พ.ค.-มิ.ย. ได้เปิดเผยช่องโหว่ที่ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/may-june-power-shortages-cost-vietnam-us-1-4-billion-world-bank-2177190.html/

‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ มีทิศทางดีดตัวฟื้นขึ้นในปี 2567

นางดอร์สาติ มาดานิ (Dorsati Madani) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลก (WB) กล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามมีแนวโน้มดีดตัวฟื้นขึ้นมาในปี 2567 และปี 2568 และระบุว่าประเทศคู่ค้าสำคัญของเวียดนาม อาทิเช่น สหรัฐฯ ยุโรปและจีน ต่างได้รับผลกระทบเชิงลบในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์โลกที่อ่อนแอ ได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และการส่งออกและนำเข้าที่หดตัวลง ตลอดจนมีผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ นาย Nguyen Anh Duong ผู้อํานวยการฝ่ายวิจัยธุรกิจภายใต้สถาบันกลางการบริหารจัดการเศรษฐกิจ (CIEM) มองว่าเวียดนามจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปการจัดการนโยบาย และการรักษาสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและเอื้ออำนวยต่อนักลงทุน เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-economic-growth-projected-to-rebound-from-2024/266184.vnp