‘LG’ วางเป้าทุ่มเงิน 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนาม

Kwon Bong-Seok ซีอีโอของบริษัท LG Electronics เปิดเผยว่าบริษัทได้วางแผนที่จะอัดฉีดเงินเพิ่มไปยังโครงการของกิจการ อยู่ที่ราว 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเร็วๆนี้ บริษัทได้เริ่มที่จะลงทุนในเวียดนามเมื่อปี 2538 และจนถึงปัจจุบัน เงินทุนของกิจการที่ขยายการดำเนินธุรกิจ อยู่ที่ 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ กล้อง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ในครัวเรือนและชิ้นส่วนยานยนต์ โดยปัจจุบันบริษัทมีพนักงานชาวเวียดนามประมาณ 27,000 คนที่ทำงานในโรงงานของบริษัท นอกจากนี้ นายเหงียนซวนฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม กล่าวชื่นชมกับการลงทุนของบริษัทในเวียดนาม และหวังว่าบริษัทจะขยายการลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชิ้นส่วนยานยนต์และโทรศัพท์มือถือ ในขณะเดียวกันให้มีการส่งเสริมความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีและการฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาซอฟต์แวร์

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/lg-plans-to-pour-further-us4-billion-into-vietnam-post988692.vov

“ตลาดฟินเทคเวียดนาม” มูลค่าสูงถึง 18 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567

ตามข้อมูลของนักวิเคราะห์จากบริษัทการเงิน Robocash Group เปิดเผยว่าตลาดฟินเทค (FinTech) ของเวียดนาม จะมีมูลค่าสูงถึง 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2567 โดยเวียดนามเป็นหนึ่งในผู้นำอาเซียนที่เป็นแหล่งจัดหาเงินทุนแก่ธุรกิจฟินเทค รองจากสิงคโปร์ ทั้งนี้ กิจการส่วนใหญ่ราว 93% ดำเนินธุรกิจเงินร่วมลงทุน มุ่งเชื่อมโยงในการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์และกระเป๋าเงินออนไลน์

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ทางการตลาดถือว่ามีการแข่งขันกันสูง ปริมาณการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น 152.8% นับตั้งแต่ปี 2559 และมีผู้ใช้ฟิคเทคหน้าใหม่กว่า 29.5 ล้านคน ด้วยเหตุนี้ ทุกๆวินาที ชาวเวียดนามจะใช้บริการฟินเทคอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ความต้องการบริการดิจิทัลของคนเวียดนามมีความหลากหลาย อาทิ การทำธุรกรรม การชำระเงินและกระเป๋าเงิน) นับว่าเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1270404/viet-nam-fintech-market-expected-to-reach-18-billion-by-2024.html

‘เวียดนาม’ เผยครึ่งแรกของเดือน ก.พ. ยอดการส่งออก-นำเข้า ทะลุ 21.41 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กรมศุลกากรเวียดนาม รายงานว่าการส่งออกและนำเข้าในช่วงครึ่งแรกของเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 21.41 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยการส่งออก มีมูลค่า 8.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกที่ทำรายได้สูงสุด มีจำนวน 3 รายการ ได้แก่ โทรศัพท์และส่วนประกอบ, คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน และเครื่องจักรและอุปกรณ์ ในขณะเดียวกันการนำเข้า มีมูลค่า 12.66 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่นำเข้าคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร เครื่องมือและอะไหล่ ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว เวียดนามขาดดุลการค้าประมาณ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อพิจารณามูลค่าสะสมจนถึงวันที่ 15 ก.พ. คิดเป็นมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/exportimport-turnover-hits-2141-bln-usd-in-first-half-of-february/222417.vnp

รัฐบาลลงนามข้อตกลงระบบทะเบียนราษฎร์อิเล็กทรอนิกส์และระบบสถิติที่สำคัญอิเล็กทรอนิกส์

รัฐบาลกำลังพัฒนาระบบทะเบียนราษฎร์อิเล็กทรอนิกส์และระบบสถิติที่สำคัญเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรวบรวมสถิติด้านประชากรศาสตร์ และผลผลิตเพื่อเผยแพร่ข้อมูลด้านเศรษฐกิจสังคมและความยากจนที่เชื่อถือได้และทันเวลา นอกจากนี้ ระบบยังช่วยให้การติดตามและประเมินผลความคืบหน้าในการบรรลุผลสำเร็จตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลสปป.ลาวได้ลงนามในข้อตกลงกับ WCC Group B.V. บริษัทผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่ให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์ขั้นสูงสำหรับบริการจัดหางานภาครัฐและเอกชน WCC Group B.V. ชนะการประกวดราคาเนื่องจากมีประสบการณ์ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ (HERA) สำหรับการทะเบียนราษฎรทางอิเล็กทรอนิกส์และสถิติสำคัญ (eCRVS) ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในเอกสารการประมูล สัญญามีมูลค่ามากกว่า 3.2 ล้านเหรียญสหรัฐ  รัฐบาลสปป.ลาวคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 พลเมืองสปป.ลาวทุกคนจะสามารถใช้ระบบการขึ้นทะเบียนได้ และเพื่อให้มีการรวบรวมสถิติประชากรในลักษณะที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ภายในปี 2024 พลเมืองลาวร้อยละ 70 ทั้งหมด รวมทั้งเด็กแรกเกิด จะได้รับการจดทะเบียน ระบบการทะเบียนราษฎร์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt04.php

‘เวียดนาม’ เผยสินค้าส่งออกหลัก 7 รายการที่มีมูลค่ามากกว่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ตามข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ย. เปิดเผยว่าสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม จำนวน 7 รายการที่มีมูลค่าการส่งออกแต่ละรายการ มากกว่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากธุรกิจกลับมาดำเนินกิจการอีกครั้ง โดย 2 สัปดาห์แรกของเดือน พ.ย. เวียดนามมีมูลค่าส่งออก 14.61 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ยอดการส่งออกรวมทั้งสิ้นตั้งแต่ต้นปีนี้ แตะ 284.45 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี

โดยเฉพาะสินค้าประเภทเหล็กและเหล็กกล้าที่เข้าร่วมรายการสินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากกว่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นครั้งแรก ตามมาด้วยโทรศัพท์และชิ้นส่วน, คอมพิวเตอร์และส่วนประกเอบ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องจักร, เสื้อผ้าและสิ่งทอ, รองเท้า, ไม้และผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ ทั้งนี้ โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ทำรายได้จากการส่งออกสูงที่สุด ด้วยมูลค่า 48.8 และ 43.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ รองลงมาเครื่องจักร เสื้อผ้า ไม้และผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ เป็นต้น

ที่มา :  https://english.vov.vn/en/economy/seven-commodities-with-export-value-hitting-over-us10-billion-each-906875.vov

‘เวียดนาม’ ยังคงเป็นแหล่งดึงดูดของบริษัทผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของโลก

ข้อมูลจากศูนย์วิจัย Fitch Solutions เปิดเผยว่าถึงแม้เวียดนามเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เวียดนามยังเป็นที่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากให้เป็นฐานการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจากการสำรวจชี้ว่าผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ต่างชาติส่วนใหญ่ 65% ได้ตั้งฐานการผลิตในภาคเหนือของเวียดนาม ขณะที่ 30% สร้างโรงงานในภาคใต้และอีกไม่กี่แห่งในภาคกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจของกลุ่มซัมซุงของเกาหลีใต้ที่เข้ามาลงทุนไปแล้วกว่า 17.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในเวียดนาม และมีสัดส่วนมากกว่า 20% ของยอดการส่งออกทั้งหมดของเวียดนามผ่านสินค้าไฮเอนด์ ‘โทรศัพท์’ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่าปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ต่างชาติเข้ามาเวียดนาม คือ เขตอุตสาหกรรม (IP) โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าเขตอุตสาหกรรมส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่สะดวกต่อการขนส่งและมีระบบโลจิสติกส์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-remains-attractive-to-multinational-electronics-companies/206095.vnp

“ภาคอิเล็กทรอนิกส์” ดันอุตสาหกรรมโดยรวมของเมืองโฮจิมินห์

การผลิตอิเล็กทรอนิกส์ในเมืองโฮจิมินห์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ สาเหตุหลักมาจากการรักษาเสถียรภาพของตลาดส่งออกและการส่งเสริมการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ นาง Nguyễn Thị Xuân Thủy รองผู้​อำนวยการศูนย์ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม กล่าวว่าภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ จึงจำเป็นที่ต้องตัดเงินเดือนพนักงาน ดังนั้น ธุรกิจต้องเร่งหาตลาดใหม่และค้นหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ เพื่อรับมือกับปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเติบโตในอัตรา 32.4% ส่งผลในทิศทางที่ดีขึ้นต่อ 4 อุตสาหกรรมหลักในเมืองโฮจิมินห์ ถึง 7.8% และปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/903910/electronics-lead-hcm-city-industrial-revival.html

เอสแอนด์พี โกลบอล คาดเศรษฐกิจเวียดนามโตสูงที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก ปี 64 โต 10.9%

เวียดนามจะกลับมาบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจในปีหน้า คาดการณ์อัตราการเติบโตของ GDP ปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 10.9 นับว่าสูงที่สุดในภูมิภาคนี้ นาย Vishrut Rana นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P) กล่าวว่าถึงว่าแม้มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัววัคซันในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ส่งผลไปในทิศทางที่เป็นบวกแก่กลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก แต่เวียดนามก็ยังคงเป็นประเทศที่ขยายตัวได้ดีกว่าในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจ ด้วยสัดส่วนร้อยละ 6 ของ GDP และคาดว่าจะเผชิญกับความท้าทายในปีหน้า ในส่วนของการบริโภคภาคเอกชนนั้น จะกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติเร็วๆนี้ แต่การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวยังคงหดตัวลงอยู่ จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจเวียดนาม เนื่องมาจากความต้องการสินค้าเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 2.5-3 ในปีนี้ และจะพุ่งขึ้นร้อยละ 6 ในปี 2564

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-gdp-to-record-highest-growth-in-asia-pacific-at-109-in-2021-sp-315173.html

INFOGRAPHIC : เวียดนามเผยสินค้าส่งออกสำคัญ 5 รายการ มีมูลค่ารวมกว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 สินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม จำนวน 5 รายการที่มีมูลค่ามากกว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่

  • โทรศัพท์และชิ้นส่วน มีมูลค่าส่งออก 36.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (18.1% ของยอดส่งออกรวม)
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ มีมูลค่าส่งออก 32.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (15.9% ของยอดส่งออกรวม)
  • เครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ มีมูลค่าส่งออก 22.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (10.9% ของยอดส่งออกรวม)
  • เครื่องจักร อุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบ มีมูลค่าส่งออก 18.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (9.0% ของยอดส่งออกรวม)
  • รองเท้า มีมูลค่าส่งออก 12.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (6.0% ของยอดส่งออกรวม)

ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญดังกล่าว 5 รายการ มีมูลค่าส่งออกรวมกันร้อยละ 69.4 ของยอดส่งออกทั้งหมดของเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/5-commodities-record-export-values-of-over-10-billion-usd/188129.vnp

สปป. ลาวเตรียมให้บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2563 ศูนย์ข้อมูลข่าวสารทางด้านการค้าของ สปป. ลาวได้เผยแพร่ข้อตกลงว่าด้วยการดำเนินกิจการลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 29 พ.ค. 2563 โดยจะมีการให้บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมการดำเนินกิจการให้มีความเป็นระเบียบ ถูกต้อง ได้มาตรฐาน ทันสมัย และปลอดภัย โดยลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวอักษร เครื่องหมาย สัญลักษณ์ ตัวเลข เสียง หรือสิ่งอื่นที่สร้างขึ้นในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อบ่งบอกและยืนยันตัวตนของผู้ลงลายมือชื่อและความถูกต้องของข้อมูล โดยหน่วยงานออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์มี 2 ระดับ คือ

  1. หน่วยงานออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National Root Certificate Authority) เป็นหน่วยงานให้บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์รายย่อย ซึ่งศูนย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบ
  2. หน่วยงานออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์รายย่อย (Sub – Certificate Authority) ให้บริการ 4 ประเภท ได้แก่
    1. บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป (Public Certificate Authority)
    2. บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (Government Certificate Authority)
    3. บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างชาติ (Foreigner Public Certificate)
    4. บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ภาคเอกชน (Private Certificate Authority)

บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์จะประกอบด้วยการบริการยืนยันลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Certificate) บริการยืนยันระบบแม่ข่าย (Secure Sockets Layer) บริการประทับเวลา (Time Stamp) และบริการอื่น ๆ ตามที่กระทรวงไปรษณีย์ โทรคมนาคม และการสื่อสาร สปป. ลาวกำหนด โดยนิติบุคคลหรือองค์กรที่ประสงค์จะดำเนินธุรกิจให้บริการออกรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปต้องขอใบอนุญาตจากกระทรวงไปรษณีย์ฯ และขอใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์จากผู้ออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ โดยต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้ (1) ใบรับรอง (2) ประวัติผู้บริหาร (3) ประวัติเจ้าหน้าที่เทคนิคและใบรับรองการศึกษา (4) สำเนาใบทะเบียนวิสาหกิจหรือใบรับรองการก่อตั้ง (5) ใบรับรองที่ตั้งสำนักงาน (6) บทวิพากษ์เศรษฐกิจและแผนด้านเทคนิค (7) กฎระเบียบการให้บริการ  (8) ใบรับรองสถานะทางการเงินจากธนาคารแห่งสปป. ลาว และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เงื่อนไขการพิจารณาออกใบอนุญาตให้บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป คือ ต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 10 พันล้านกีบ (1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ไม่อยู่ในระหว่างการถูกอายัติทรัพย์สิน อยู่ในกระบวนการฟ้องล้มละลายหรือถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายตามกฎหมายของ สปป. ลาว และไม่เคยถูกยกเลิกหรือถอนใบอนุญาตจากกระทรวงไปรษณีย์ฯ มาก่อน โดยกระทรวงไปรษณีย์ฯ จะพิจารณาออกใบอนุญาตให้บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องและเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง ในกรณีคำร้องถูกปฏิเสธ กระทรวงไปรษณีย์ฯ จะแจ้งเหตุผลให้ผู้ยื่นคำร้องทราบภายใน 10 วันทำการ

สำหรับอายุของใบอนุญาตการให้บริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปมีอายุ 3 – 5 ปี โดยสามารถต่ออายุได้ สำหรับใบอนุญาตบริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐมีอายุ 1 – 3 ปี ใบอนุญาตบริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างประเทศมีอายุไม่เกิน 3 ปี และใบอนุญาตบริการออกใบรับรองลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์เฉพาะมีอายุไม่เกิน 5 ปี

ที่มา : https://globthailand.com/laos-03072020/