“ทุเรียนเวียดนาม” มาแรง จีนนำเข้าพุ่ง 5.4 หมื่นล้าน คู่แข่งสำคัญ”ทุเรียนไทย”

ข้อมูลจากศุลกากรหนานหนิงระบุว่า มูลค่าสินค้านำเข้าจากเวียดนามผ่านด่านโหยวอี้กวน ช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคมของปีนี้ รวมอยู่ที่ 9.14 หมื่นล้านหยวน (ราว 4.47 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 271.8% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการนำเข้าผลไม้เวียดนาม 1.17 หมื่นล้านหยวน (ราว 5.73 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 637.9% โดยมูลค่าการนำเข้าทุเรียนรวมอยู่ที่ 1.11 หมื่นล้านหยวน (ราว 5.43 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นกว่า 3,084% ทั้งนี้ ทุเรียนเวียดนามมีฤดูเก็บเกี่ยวยาวนานกว่า และราคาถูกกว่าได้รับอนุญาตให้เข้าถึงตลาดจีนภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในปี 2022 โดยปัจจุบันจีนกลายเป็นตลาดส่งออกทุเรียนแห่งหลักของเวียดนาม

ที่มา : https://www.prachachat.net/world-news/news-1459289

กัมพูชาดันระบบชำระเงินข้ามพรมแดนร่วมกับจีน หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว

ภาคการท่องเที่ยวกัมพูชามีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการจัดทำข้อตกลงสำคัญอย่างข้อตกลงการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างจีนและกัมพูชา ซึ่งมีศักยภาพในการผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังเฟื่องฟู หลังได้รับผลกระทบมาจากโควิด-19 ด้วยการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เกิดการใช้จ่ายที่มากขึ้นด้วยการเสริมความสะดวกในการชำระเงิน ผ่านระบบภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว นอกจากข้อตกลงข้างต้นทั้งสองประเทศยังวางแผนที่จะผลักดันนโยบายส่งเสริมเที่ยวบินและการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวระหว่างกันเพื่อที่จะส่งเสริมการเดินทางระหว่างกันมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวจีนในกัมพูชาสามารถชำระเงินโดยเข้าถึงระบบ Alipay ผ่านระบบ Bakong ของกัมพูชา และนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาในประเทศจีน ให้สามารถชำระเงินโดยใช้ระบบ Bakong เพื่อซื้อสินค้ากับผู้ขายที่ใช้ Alipay ในประเทศจีนได้สะดวกขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501404692/cross-border-payment-deals-with-china-to-catapult-tourist-numbers/

รถไฟลาว-จีน ให้บริการผู้โดยสารข้ามแดนแล้วกว่าแสนคน ในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา

นับตั้งแต่ให้บริการในวันที่ 13 เมษายน 2566 จนถึงเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รถไฟลาว-จีน มียอดขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนแล้วกว่า 100,000 คน ผู้โดยสารประมาณ 14,900 คนเป็นชาวต่างชาติ อ้างอิงจากสถานีตรวจสอบชายแดนเข้า-ออกโมฮันในประเทศจีน-ชายแดน สปป.ลาว มีเที่ยวรถไฟโดยสาร 474 ขบวนในช่วงเวลาดังกล่าว นับตั้งแต่เปิดตัวให้บริการผู้โดยสารข้ามพรมแดน เส้นทางรถไฟสายนี้ได้กลายเป็นรูปแบบการขนส่งที่ต้องการของนักเดินทางระหว่างประเทศจำนวนมากขึ้น เนื่องจากมีราคาที่สามารถจ่ายได้ และมีความสะดวกสบาย ประกอบกบขั้นตอนพิธีการศุลกากรที่มีความคล่องตัวมากขึ้นและการเดินทางโดยรถไฟจากคุนหมิงไปยังเวียงจันทน์ใช้เวลาเพียงเก้าชั่วโมงครึ่ง ซึ่งใช้เวลาเดินทางลดลงจากตอนเริ่มเปิดให้บริการในระยะแรก

ที่มา : https://english.news.cn/20231206/40001f12600549e0abe431812819cd18/c.html

สระแก้วถือมีบทบาทสำคัญต่อภาคโลจิสจิสติกส์ระหว่างกัมพูชา เวียดนาม และจีน

นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เดินทางเยือนจังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หวังหารือเกี่ยวกับความสำคัญของจังหวัดในด้านเครือข่ายการค้าชายแดนและโลจิสติกส์ของประเทศไทย โดยสามารถรองรับการจราจรและการค้าได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันมีผู้คนข้ามแดนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี และมีมูลค่าการค้าชายแดนประมาณ 110,000 ล้านบาทต่อปี ด้านนายกฯ ยังได้เน้นย้ำถึงความสามารถของจังหวัดสระแก้วในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าของไทยกับประเทศที่มีชายแดนติดกันกับไทย อย่าง กัมพูชา เวียดนาม และจีน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเทศคู่ค้ารายสำคัญของไทย อีกทั้งยังมีแนวนโยบายในการจัดทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวสำหรับผู้ที่ไม่ใช่ชาวสระแก้ว เพื่อให้สามารถข้ามชายแดนได้โดยไม่ต้องมีหนังสือเดินทาง ภายใต้การดำเนินงานของด่านผ่านแดนคลองลึก-ปอยเปต ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางในเขตพื้นที่ดังกล่าวหวังดันการค้าและการเดินทางเติบโตต่อเนื่องในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501398538/sa-kaeo-plays-crucial-role-in-logistics-sector-commercial-relationships-with-cambodia-vietnam-and-china/

นักลงทุนจีนจ่อลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ ในกัมพูชา

นักลงทุนจีนเข้าลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ โดยนับเป็นโรงงานผลิตยางรถยนต์แห่งที่ 4 ในกัมพูชา หลังจากสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนดังกล่าว ด้านนายกฯ ฮุน มาเน็ต กล่าวเสริมว่าการมีโรงงานผลิตยางรถยนต์ภายในประเทศจะเป็นส่วนช่วยให้ภาคเกษตรกรรม อย่างในฝั่งของเกษตรกรผู้เพาะปลูกยางพาราในกัมพูชา ไม่จำเป็นต้องส่งออกยางไปยังตลาดต่างประเทศเนื่องจากนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตยางรถยนต์ภายในประเทศ รวมถึงนายกฯ ยังได้ขอให้สถาบันซึ่งเกี่ยวข้องกับภาคเอกชน และสมาคมยางกัมพูชา จัดทำกลไกประสานการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคและปัญหาการเพาะปลูก เพื่อให้แน่ใจว่าห่วงโซ่อุปทานการผลิตยางรถยนต์ภายในประเทศกัมพูชาจะสมบูรณ์แบบ สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาส่งออกยางแห้งปริมาณกว่า 242,304 ตัน ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังมาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และจีน สร้างรายได้เข้าประเทศราว 320 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของ General Directorate of Rubber (GDR) ปัจจุบันกัมพูชามีสวนยางพาราครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 404,578 เฮกตาร์ ซึ่งร้อยละ 78 ของพื้นที่พร้อมที่จะให้ผลผลิตน้ำยางดิบ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501392268/cambodia-to-get-500m-chinese-tyre-factory/

รถไฟจีน-ลาว เริ่มให้บริการนักท่องเที่ยวจาก ‘กรุงปักกิ่ง-นครหลวงเวียงจันทน์’

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รถไฟจีน-ลาว ได้เริ่มเปิดให้บริการรถไฟท่องเที่ยวข้ามพรมแดนจากกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยมีป้ายจอดหลายสถานีตั้งแต่เมืองหลวงพระบางและวังเวียง ขากลับจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวของจีน เช่น สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน และเมืองจิบิ มณฑลหูเป่ย รวมเวลาไป-กลับ 15 วัน ทั้งนี้ รถไฟสายนี้ได้ขนส่งสินค้าแล้วกว่า 9.62 ล้านตัน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 94.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีปริมาณสินค้าข้ามพรมแดนมากกว่าสามเท่าอยู่ที่ 2.3 ล้านตัน (ไชน่านิวส์รายงาน) สินค้าหลักที่บรรทุกบนทางรถไฟสายนี้ ได้แก่ ผลไม้ แป้งมัน ข้าวบาร์เลย์ ยางพารา เบียร์ แร่เหล็ก และปุ๋ยเคมี นอกจากนี้ นับตั้งแต่เริ่มให้บริการรถไฟจีน-ลาวได้ขนส่งผู้โดยสารไปแล้วกว่า 3 ล้านคน เฉพาะแปดเดือนกว่าของปี 2566 ขนส่งผู้โดยสารไปแล้ว 1,759,900 คน

ที่มา : https://news.cgtn.com/news/2023-11-13/Tourism-train-service-from-Beijing-to-Vientiane-begins-1oH7tCQQNUc/index.html?fbclid=IwAR0g6s1-g2ck3bAU4kcP3n4ZFSA8Dde0soivCj5FalcSAcAlh7_XT23rl-s

จีนพร้อมสนับสนุนภาคพลังงานกัมพูชา

ทางการกัมพูชาพร้อมตอบสนองต่อความต้องการด้านพลังงานภายในประเทศ ภายใต้การร่วมมือของนักลงทุนจีน โดยเฉพาะการช่วยลดต้นทุนการบริโภคพลังงานของภาคครัวเรือนกัมพูชาซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 0.25 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างประเทศไทยมีต้นทุนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงอยู่ที่ 0.139-0.141 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง และเวียดนามโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.073-0.078 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง สิ่งนี้พิสูจน์แล้วว่ากัมพูชามีต้นทุนทางด้านพลังงานที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ด้วยความพยายามของรัฐบาลในการปรับปรุงภาคพลังงานได้เริ่มดำเนินโครงการไว้ตั้งปี 2018 ด้วยการเปิดตัวโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 400 เมกะวัตต์ “Lower Sesan 2” ในจังหวัดสตึงแตรง ภายใต้เงินทุนสนับสนุนจาก China Hwaneng Group จับมือร่วมกับ Royal Group ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 800 ล้านดอลลาร์ ในการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำครอบคลุมกำลังการผลิตคิดเป็นกว่าร้อยละ 51 ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501391160/china-proves-godsend-for-cambodias-energy-sector/

การค้า “กัมพูชา-จีน” ยังคงแข็งแกร่ง แม้อุปสงค์ทั่วโลกอ่อนตัว

การค้าระหว่าง กัมพูชา-จีน ยังคงแข็งแกร่ง ท่ามกลางอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนตัวลง เป็นผลมาจากการมีข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CCFTA) สำหรับมูลค่าการค้าสินค้าระหว่างกัมพูชาและจีนในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตของกัมพูชา (GDCE) โดยสินค้าศักยภาพของกัมพูชาที่ได้ทำการส่งออกไปยังจีน ได้แก่ ข้าวสาร กล้วย มะม่วง ลำไย และพริกไทย เป็นสำคัญ ขณะเดียวกันปริมาณการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของกัมพูชาในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ 3.87 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 3.1 จากมูลค่า 3.99 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501390478/cambodia-china-trade-stays-robust-amid-weakening-global-demand/

อาเซียน-จีน ตั้งเป้าอัปเกรด FTA ให้ได้เกินครึ่งทางภายในปีนี้ ก่อนสรุปผลปี 67

น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยได้เข้าร่วมการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA Upgrade Negotiations) ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา ณ เมืองบันดุง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีนายหวี เปิ่นหลิน อธิบดีกรมเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายจีน โดยไทยในฐานะประธานร่วมฝ่ายอาเซียนได้ร่วมกับจีนผลักดันให้การเจรจารอบนี้ มีความคืบหน้ามากที่สุด ซึ่งตั้งเป้าให้การเจรจาคืบหน้าได้เกินครึ่งทางภายในปีนี้ เพื่อสรุปผลการเจรจาภายในปี 2567 ทั้งนี้ จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรอบต่อไป ในช่วงปลายเดือน ม.ค.2567 ณ กรุงปักกิ่ง

ที่มา : https://corehoononline.com/index.php/economy/commerce-moc/showcontent/214785.html

Moc จับมือบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน IT จากจีน หวังกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชา

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา (MoC) ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำของจีนอย่าง บริษัท Converge Cloud Co., Ltd. หวังดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาและส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์ในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นำโดย Someth Somnea ปลัดกระทรวงกระทรวงการต่างประเทศ ในระหว่างการเป็นประธานในพิธีเปิดตัวบริษัท Converge Cloud ณ กรุงพนมเปญ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 พ.ย.) ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ให้เกิดการแพร่หลายและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันบริษัทมีบริษัทคลาวด์รายใหญ่ อย่างเช่น Google, Amazon, Huawei, Alibaba, Tencent, Basihan และ Azure เป็นหลัก ร่วมถึงรัฐบาลให้ความสำคัญด้านอีคอมเมิร์ซ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่เป็นก้าวสำคัญต่อไปในการเร่งความร่วมมือในระดับทวิภาคี พร้อมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501387364/moc-join-hands-with-chinese-it-firms-to-boost-economic-growth/