‘สื่อเยอรมัน’ ยกย่องศักยภาพการพัฒนาและโอกาสการลงทุนของเวียดนาม

หนังสือพิมพ์โฟกัส ของเยอรมนีได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับการพัฒนาการทางเศรษฐกิจของเอเชีย และมองว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีศักยภาพในระดับสูง โดยบทความดังกล่าวอ้างถึงคุณ Horst Geicke นักลงทุนและประธานของบริษัท Deutsches Haus กล่าวว่าเวียดนามเป็นแหล่งลงทุนแห่งใหม่ของนักลงทุนต่างชาติและกิจการเยอรมนี นอกจากประเทศสิงคโปร์แล้วในภูมิภาคเอเชีย มีเพียงเวียดนามประเทศเดียวที่ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EVFTA) นอกจากนี้ เวียดนามดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ประมาณ 27,720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 และตัวเลขเงินลงทุนจากต่างประเทศมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศขยายตัว 8% ในปีที่แล้ว และเฉลี่ยที่ 5.9% ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา

ที่มา : https://en.nhandan.vn/german-newspapers-praise-vietnams-development-potential-investment-opportunities-post127720.html

‘เวียดนาม’ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของบริษัทระดับโลก

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไหลเข้าประเทศ มีมูลค่า 13.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพื่อให้เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาตินั้น ทางหน่วยงานได้เสนอให้รัฐบาลแก้ไขหรือปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพของการลงทุนจากต่างประเทศ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งนี้ ธนาคารโลก (WB) ได้ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เวียดนามประสบความสำคัญในแง่ของการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน ความมั่งคงทางการเมืองและศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เติบโตอยู่ในระดับสูง อีกทั้ง บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก อาทิเช่น ซัมซุง (Samsung), แอลจี (LG) และ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) มีแผนที่จะย้ายสายการผลิตแห่งใหม่ในเวียดนาม

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-remains-leading-destination-of-fdi-businesses-post1031393.vov

“ตลาดหุ้นเวียดนาม” ขึ้นแท่นจุดหมายที่มีความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ

การประชุมประจำปีขององค์กรคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (IOSCO) ในปี 2566 นับเป็นการประชุมประจำปีครั้งที่ 48 ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 13-15 มิ.ย. นาง Vu Thi Chan Phuong ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม กล่าวว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีการพัฒนาที่น่าประทับใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพและการรักษาสภาพคล่องในตลาดที่ดี อีกทั้งยังเป็นช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจของประชาชน และดึงดูดนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้จำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกในการระดมเงินทุนเท่านั้น แต่ธุรกิจเวียดนามยังมีความก้าวหน้าในด้านธรรมาภิบาล ความโปร่งใสและการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-stock-market-becomes-reliable-destination-for-investors-worldwide-post1026603.vov

‘ถอดบทเรียนเวียดนาม’ การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจรุ่ง

ถ้าจะพูดถึงเพื่อนบ้านอาเซียนในฝั่งอินโดจีนเวียดนามถือว่ามีพัฒนาการมากที่สุด การเขียนถึงเวียดนามในวันนี้นับเป็นเวลาอันเหมาะสม ใกล้ถึงวันครบรอบ “ไซ่ง่อนแตก” 30 เม.ย.2518 ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์เวียดนามยุคใหม่  เมื่อแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติเวียดนามใต้หรือเวียดกงเข้ายึดกรุงไซ่ง่อนของเวียดนามใต้ สหรัฐผู้สนับสนุนแตกกระเจิงกลับประเทศ นำไปสู่การรวมชาติในนาม “สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” ในวันที่ 2 ก.ค.2519

ช่วงรวมชาติได้ใหม่ๆ เวียดนามยังเป็นประเทศยากจนเพราะเพิ่งผ่านศึกสงคราม จากการที่เวียดนามมีสหภาพโซเวียตเป็นลูกพี่ใหญ่ แน่นอนว่าต้องเป็นศัตรูกับสหรัฐ (ก็เพิ่งไล่เขากลับประเทศไปหมาดๆ) ส่วนจีนที่เป็นเพื่อนบ้านก็ไม่ได้ญาติดีกัน กับเพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมองหน้ากันได้ไม่สนิทนัก ตอนตั้งสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ก็เคยถูกเวียดนามวิจารณ์

แต่สถานการณ์เปลี่ยนเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามตัดสินใจปฏิรูปประเทศใช้ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมแบบตลาดทีละน้อยๆ ปี 2530 เวียดนามออกกฎหมายว่าด้วยกฎหมายการลงทุนของต่างชาติ ความเปลี่ยนแปลงในทางบวกค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างที่เราเห็นในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติแห่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม ที่น่าสนใจคือธุรกิจค้าปลีกเพราะเป็นตัวชี้วัดว่าไลฟ์สไตล์คนเวียดนามเปลี่ยนไป ชนชั้นกลางเติบโตขึ้น รายได้มากขึ้น พร้อมจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการเพื่อความสะดวกสบายในชีวิตไปจนถึงเพิ่มความหรูหรา นอกจากนี้เวียดนามยังเป็นประเทศที่ประชากรหนุ่มสาวมาก พวกเขาสนใจในเทคโนโลยี ยังไม่เข้าสู่สังคมสูงวัยเหมือนไทย โอกาสที่เศรษฐกิจเติบโตจึงมีอีกมาก เรียกได้ว่า เข้าไปลงทุนทำอะไรในเวียดนามตอนนี้มีแต่ได้กับได้

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/politics/1064510

“อสังหาฯเวียดนาม” ยังคงเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

CBRE Vietnam บริษัทที่ให้บริการและการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ รายงานผลการสำรวจมุมมองของนักลงทุนในเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2566 แสดงให้เห็นว่าเมืองโฮจิมินห์และฮานอย เป็นหนึ่งใน 10 จุดหมายปลายทางของการลงทุนข้ามพรมแดนที่น่าสนใจที่สุด โดยเฉพาะเมืองโฮจิมินห์เป็นครั้งแรกที่อยู่ในอันดับที่ 3 ของผลการสำรวจในครั้งนี้ ประกอบกับอยู่อันดับดีกว่าออสเตรเลีย เนื่องจากอัตราการขยายตัวของเมืองที่คาดการณ์ไว้ที่ 42% ในปี 2568 ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ จากรายงานของ PropertyGuru Group บ่งชี้ให้เห็นถึงนโยบายเศรษฐกิจเปิดของเวียดนามและการรวมเข้ากับห่วงโซ่อุปทานโลก ด้วยเหตุนี้ ห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นจึงเป็นกุญแจสำคัญในความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของเวียดนามและเพิ่มความน่าดึงดูดอสังหาริมทรัพย์แก่นักลงทุนต่างชาติ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-real-estate-remain-attractive-to-foreign-investors/249435.vnp

“นักลงทุนต่างชาติ” ส่งสัญญากลับมาซื้อหุ้นเวียดนาม

แม้ว่าดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม (VN-Index) ปรับตัวลงแรง 33% ในปี 2565 แต่นักลงทุนต่างชาติได้อัดฉีดเงินทุนเข้าสู่ตลาดเมื่อเร็วๆนี้ ส่งผลให้ตลาดพริกกลับมาขยายตัวในรอบ 3 ปี และในช่วงสัปดาห์แรกของปี 2566 นักลงทุนต่างชาติได้อัดฉีดเงินเข้าตลาดหุ้นเวียดนาม จำนวนกว่า 1,720 พันล้านดอง ถึงแม้ว่าตลาดจะอยู่ในระดับทรงตัวก็ตาม โดยเงินทุนส่วนใหญ่ราว 95% อยู่ในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ ทั้งนี้ ตามข้อมูลทางสถิติของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ แสดงให้เห็นว่าในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน 12,000 พันล้านดอง เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ทำให้เม็ดเงินทุนรวมของตลาดหุ้นเวียดนาม ขยับสูงขึ้นอยู่ที่ 23,600 พันล้านดองเวียดนามในปี 2565

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/foreign-investors-return-to-vietnamese-stocks/

ธุรกิจที่ปรึกษาอสังหาฯ ระดับโลก ชี้ “เวียดนาม” จุดหมายปลายทางชั้นนำของนักลงทุนต่างชาติ

บริษัท คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ จำกัด (Cushman & Wakefield) ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เปิดเผยผลการสำรวจตัวแทนผู้ประกอบการที่อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง จำนวน 200 ราย ส่วนใหญ่เลือกเข้าไปลงทุนในเวียดนามเป็นประเทศแรกและอันดับสองในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ทั้งนี้ เพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เวียดนามหันมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน รวมถึงปรับปรุงทางหลวงและท่าเรือหลักของประเทศ อีกทั้ง ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นสาขาธุรกิจที่น่าดึงดูดเป็นอันดับ 2 ของมุมมองนักลงทุนต่างชาติ คิดเป็น 26% ของเงินลงทุนรวม นักลงทุนส่วนใหญ่มาจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เดนมาร์ก จีนและเกาหลีใต้

นอกจากนี้ คุณจอห์น แคมป์เบลล์ จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก Savills Vietnam กล่าวว่านโยบายในการสนับสนุนเศรษฐกิจและการรณรงค์ฉีดวัคซีนที่ประสบความสำเร็จของเวียดนาม ได้สร้างฐานที่มั่นคงสำหรับบริษัทต่างชาติที่จะมีความมั่นใจต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-top-destination-for-foreign-investors-says-cushman-wakefield-2059452.html

5 ประเทศชั้นนำของโลก เข้ามาลงทุนในเวียดนามเท่าไร?

ตามรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่าในปี 2564 สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เกือบ 22,940 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาจีน 16,863 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ, ญี่ปุ่น เยอรมนีและสหราชอาณาจักร ตามลำดับ โดยทั้ง 5 ประเทศข้างต้นได้เข้ามาลงทุนในเวียดนามมาหลายปีแล้ว หากพิจารณาในช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค. 2565 ญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากจำนวนโครงการใหม่ 123 โครงการ ตามมาด้วยจีนกลายมาเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 2 ในเวียดนาม สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักและเยอรมนี

นอกจากนี้ กระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม (MPI) ระบุว่าอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปเป็นสาขาการลงทุนที่น่าสนใจที่สุดสำหรับนักลงทุนชาวญี่ปุ่น

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/how-much-do-the-5-largest-economies-invest-in-vietnam-2059410.html

“อุตสาหกรรมการผลิตของเวียดนาม” ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

สำนักงานการลงทุนจากต่างประเทศ (FIA) ของเวียดนาม เปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีเม็ดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไหลเข้ามายังภาคอุตสาหกรรมการผลิตของเวียดนาม มูลค่า 252 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของเงินทุนจากต่างประเทศทั้งหมดที่ไหลเข้าไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตามรายงานของสำนักงาน ชี้ให้เห็นว่าปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนจากต่างชาติ จำนวน 34,898 โครงการ ด้วยมูลค่า 426.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภาคอุตสาหกรรมได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของโลก อาทิ Samsung, LG, Canon, Honda และ Toyota สะท้อนให้เห็นถึงการเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-process-manufacturing-attractive-to-foreign-investors/234399.vnp

CDC ให้การสนับสนุนภาคธุรกิจมาเลเซียในกัมพูชา

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) พร้อมที่จะให้บริการและสนับสนุนแก่นักลงทุนชาวมาเลเซียในกัมพูชา เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมายังกัมพูชามากขึ้น ด้าน Sok Chenda Sophea เลขาธิการสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา กล่าวในการประชุม ‘การเจรจาระดับสูงอาเซียน-อิตาลีว่าด้วยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ’ ครั้งที่ 6 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเลขาธิการ CDC กล่าวว่า ปัจจุบันกัมพูชาได้ออกกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ เพื่อเป็นการสนับสนุนนักลงทุนและเป็นการสร้างแรงจูงใจแก่นักลงทุนมากขึ้น ในการเข้ามาลงทุนยังกัมพูชา ด้าน Lim Heng รองประธานหอการค้ากัมพูชา กล่าวว่า ในเดือนมิถุนายนกัมพูชาจะสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติจากมาเลเซียและประเทศอื่น ๆ ได้มากขึ้น อันเนื่องมาจากข้อตกลงทางการค้า อาทิเช่น EBA, GSP, FTA กัมพูชา-จีน และ RCEP ที่ถือเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต่างชาติสนใจ โดยในช่วง มกราคม-พฤษภาคม ปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและมาเลเซียอยู่ที่ 244 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิต ซึ่งคิดเป็นการส่งออกของกัมพูชามูลค่า 44 ล้านดอลลาร์ ไปยังมาเลเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 จากปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501108010/cdc-offers-support-for-malaysian-businesses-in-cambodia/