การเปลี่ยนแปลงของตลาดข้าวและแนวโน้มราคาก่อนเทศกาล Thingyan ในย่างกุ้ง

ตามรายงานของตลาด เนื่องจากช่วงวันหยุด Thingyan ใกล้เข้ามา ราคาของข้าวที่ไม่ใช่ข้าวพรีเมียมในฤดูร้อนชนิดใหม่จึงลดลงในตลาดย่างกุ้ง แม้ว่าราคาข้าวมรสุม (ทั้งที่ไม่ใช่ข้าวพรีเมี่ยมและพรีเมี่ยม) จะยังคงสูงอยู่ ซึ่งในสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน 2024 ราคาข้าวใหม่ที่ไม่ใช่พรีเมี่ยม ฤดูร้อนอยู่ที่ 76,000 จ๊าดต่อถุง ซึ่งลดลงจาก 80,000 จ๊าดต่อถุง ณ สิ้นเดือนมีนาคม ปัจจุบัน ข้าวมรสุมที่ไม่ใช่พรีเมี่ยมมีราคาอยู่ที่ 86,000 จ๊าดต่อถุง ข้าวมรสุมที่ไม่ใช่พรีเมี่ยมที่เพิ่งเก็บเกี่ยว (พันธุ์ 90 วัน) อยู่ที่ 93,000 จ๊าด และข้าวมรสุมเก่าที่ไม่ใช่พรีเมี่ยม 90 วันอยู่ที่ 110,000 จ๊าดต่อ ถุง ข้าวพันธุ์ Pawkywe ใหม่มีราคาอยู่ที่ 100,000 จ๊าดต่อถุง ข้าวพันธุ์ Ayeyawady อยู่ระหว่าง 123,000 ถึง 141,000 จ๊าด และ ข้าวพันธุ์ Shwebo อยู่ระหว่าง 150,000 ถึง 160,000 จ๊าด ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ตลาดค้าส่งข้าวจะปิดทำการเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ตามที่ระบุไว้ในรายงาน นอกจากนี้ การขนส่งข้าวจากเมืองอื่นๆ ไปยังย่างกุ้งก็จะถูกระงับในช่วงหลายวันก่อนถึงเทศกาล นอกจากนี้ ผู้ค้าข้าวคาดการณ์ว่าความต้องการทั้งข้าวที่ไม่ใช่ข้าวพรีเมี่ยมและพันธุ์จะสูงตามหลังเทศกาล Thingyan ส่งผลให้ราคาในอนาคตคาดว่าจะเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rice-market-dynamics-and-price-trends-ahead-of-thingyan-festival-in-yangon/

คาดกัมพูชาได้รับผลกระทบเชิงบวก หลังธนาคารโลกคาดราคาข้าวตลาดโลกขยายตัว

ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์ราคาข้าวสารในตลาดโลกจะขยายตัวถึงร้อยละ 17 จากปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 510 ดอลลาร์ต่อตัน ในปี 2023 ก่อนที่จะลดลงมาอยู่ที่ 490 ดอลลาร์ต่อตันในปี 2024 ซึ่งได้เผยแพร่ไว้ในรายงานประจำปี “Commodity Market Outlook” สำหรับในช่วงไตรมาสแรกราคาข้าวสารได้เพิ่มขึ้นไปกว่าร้อยละ 11 เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและอุปทานที่ตึงตัวจากประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลก รวมถึงการแข็งค่าของสกุลเงินเมื่อเทียบกับดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501281716/world-bank-expects-international-rice-prices-to-climb-by-17-percent-this-year/

จับตาส่งออกข้าวไทย-เวียดนาม ระอุ ยอดส่งออกไตรมาสแรกเบียดสูสี

ปี 2565 ไทยส่งออกข้าวรั้งอันดับ 2 ของโลก โดยส่งออกได้  7.69 ล้านตัน เบียดเวียดนามที่เป็นคู่แข่งสำคัญที่ครองอันดับ 2  ของโลกติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี โดยเวียดนามส่งออกได้ 6.31 ล้านตัน แม้ว่าในปี 2565 เวียดนามจะถูกไทยเบียดแซงหล่นมาเป็นอันดับ 3 แต่เวียดนามก็ยังเป็นผู้ส่งออกข้าวในอันดับต้นของโลกอยู่ จากความได้เปรียบในเรื่องของพันธุ์ข้าวที่ตรงต่อความต้องการของตลาด และราคาข้าวของเวียดนาม ไม่มีความผันผวนเกินไป ราคาข้าวยังคงที่ ทำให้สามารถทำตลาดค้าข้าวกับลูกค้าได้ง่าย โดยในปี 2566 เวียดนามตั้งเป้าส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น 16% ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าในไตรมาสแรกของปี 2566 ไทยและเวียดนามส่งออกข้าวในปริมาณใกล้เคียงกัน ในส่วนของไทยส่งออกข้าว 2,063,927 ตัน เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่เวียดนามส่งออกข้าวได้ 1.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 19% จากแรงหนุนจากข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป – เวียดนาม (EVFTA) ทำส่งออกไปอียูเพิ่มขึ้นจากราคาข้าวได้เปรียบคู่แข่ง

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1064275

“เมียนมา” ชี้ราคาข้าวในประเทศกลับมาฟื้นตัว

ศูนย์ค้าข้าววาดัน (Wahdan) เปิดเผยว่าราคาข้าวที่บริโภคในประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มสูงข้นอย่างมาก และจากข้อมูล ณ วันที่ 17 มี.ค. 2566 ราคาข้าวหอม ปอว์ ซาน (Paw San) อยู่ที่ 70,000 – 85,000 วอนต่อกระสอบ อย่างไรก็ตามราคาข้าวขึ้นอยู่กับพื้นที่เพาะปลูกของแต่ละเมือง อาทิเช่น Shwebo, Myaungmya, Dedaye, Pyapon และ Pathein เป็นต้น และเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2566 ราคาข้าวหอม ปอว์ ซาน ขยับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 72,000 – 90,000 วอนต่อกระสอบ และราคาข้าวพันธุ์อื่นๆ เพิ่มขึ้น 500 – 4,500 วอนต่อกระสอบภายในช่วง 2 สัปดาห์ ในขณะเดียวกัน การสต็อกข้าวเก่ามีปริมาณลดลง ทำให้ราคาข้าวเปลือกและข้าวสารสูงขึ้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rice-prices-rebound-in-domestic-markets/#article-title

“ราคาข้าวเวียดนาม” ยังคงพุ่งสูงขึ้นในตลาดโลก

ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนาม ปรับตัวเพิ่มสูงที่สุดในตลาดโลก นับตั้งแต่เดือน ส.ค.2565 แซงหน้าข้าวไทยที่อยู่ระดับ 15-27 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และอินเดียที่ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และเมื่อปีที่แล้ว ปริมาณการส่งออกข้าวของเวียดนาม 7.1 ล้านตัน สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ถึงแม้ว่าปริมาณการส่งออกข้าวลดลงมากกว่า 20% ในเดือนแรกของปีนี้ แต่ราคาส่งออกข้าวมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยอยู่ที่ 519 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในช่วง 2 เดือนแรกของปี ทั้งนี้ สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) ระบุว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ในปัจจุบัน อยู่ที่ 463 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบปีที่แล้ว นอกจากนี้ สถานการณ์การส่งออกข้าวของเวียดนามเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากซัพพลายเออร์ต้นทุนต่ำรายอื่นๆ เช่น อินเดียและปากีสถาน รวมถึงข้อจำกัดของการกระจายตลาด

ที่มา : https://hanoitimes.vn/vietnams-rice-prices-stay-highest-in-world-market-323203.html

ราคาข้าวในเมียนมาพุ่งสูงขึ้น

จากข้อมูลของศูนย์ค้าส่งข้าววาดัน พบว่า ในวันที่ 20 มกราคม 2566 ราคาข้าวหอม “Pearl Paw San” อยู่ระหว่าง 61,000 ถึง 80,000 จัตต่อกระสอบ ส่วนข้าวเกรดธรรมดาราคาอยู่ระหว่าง 43,500-67,000 จัตต่อกระสอบ ต่อมาวันที่ 23 มกราคม 2566 ราคาข้าวหอม “Pearl Paw San” เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1,000-4,000 จัตต่อกระสอบ ราคาจะอยู่ระหว่าง 45,500-70,000 จัตต่อกระสอบ ส่วนราคาข้าวเกรดธรรมดา เพิ่มขึ้นเฉลี่ยถุง 2,000-4,000 จัตต่อถุง ราคาจะอยู่ระหว่าง 63,000-84,000 จัตต่อกระสอบ เป็นผลมาจากความต้องการข้าวเปลือกสูงทำให้ราคาข้าวในตลาดเพิ่มขึ้นไปด้วย ที่ผ่านมา สหพันธ์ข้าวแห่งเมียนมา สมาคมผู้ผลิตและปลูกข้าวแห่งเมียนมา สมาคมโรงสีข้าวแห่งเมียนมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามร่วมมือกันเพื่อหาทางออกในการกำหนดราคาที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ค้าส่งและผู้บริโภค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rice-price-skyrockets-in-domestic-market/

รัฐบาลกัมพูชาเพิ่มทุนจัดซื้อข้าวภายในประเทศ 10 ล้านดอลลาร์

รัฐบาลกัมพูชาประกาศเพิ่มวงเงินจัดซื้อข้าวภายในประเทศ 10 ล้านดอลลาร์ ผ่านธนาคารแห่งรัฐเพื่อการพัฒนาชนบทและการเกษตร ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจัดซื้อข้าวและช่วยรักษาเสถียรภาพราคาข้าวให้กับเกษตรกร โดยรัฐบาลได้พิจารณาอย่างรอบคอบและตัดสินใจที่จะจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมให้กับกองทุนจัดซื้อข้าวขั้นต้นมูลค่า 83 ล้านดอลลาร์ ผ่านธนาคารเพื่อการพัฒนาชนบทและการเกษตรเพื่อสนับสนุนโรงสีข้าว และผู้ส่งออกข้าวในการจัดหาข้าวจากเกษตรกร ซึ่งในช่วงไม่กี่วันมานี้ราคาข้าวภายในประเทศเกิดความผันผวนในบางจังหวัดที่มีการผลิตข้าว โดยเฉพาะพระตะบองและบันทายมีชัย เนื่องจากเป็นฤดูเก็บเกี่ยวประจำปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501189189/additional-10-million-released-by-royal-government-for-rice-procurement/

ราคาข้าวเมียนมาในประเทศ ดิ่งฮวบ!

ศูนย์ค้าส่งข้าววะดาน เผย ราคาข้าวหักในในประเทศราคาร่วงลงอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างวันที่ 11 – 15 ก.ค.2565 ราคาข้าวหักที่เคยสูงถึง 35,000 จัตต่อถุง (108 ปอนด์) ราคาลดฮวบเหลือ 28,000 จัตต่อถุงในวันที่ 18 ก.ค.2565  ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 7,000 จัตต่อถุงภายใน 3 วัน ราคาข้าวปัจจุบันอยู่ในช่วงระหว่าง 31,200 จัตต่อถุง ถึง 55,000 จัตต่อถุงขึ้นอยู่กับสายพันธ์ ตั้งแต่ ไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2565-2566 (เม.ย.-มิ.ย.2565) เมียนมาส่งข้าวและข้าวหักกว่า 550,000 ตัน โดยส่งออกทางทะเลกว่า 510,000 ตัน และผ่านชายแดนอีก 33,000 ตัน โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฟิลิปปินส์, จีน, เบลเยียม, สเปน ฯลฯ ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563-2564 ที่ผ่านมา เมียนมา มีรายได้กว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกข้าว 2 ล้านตัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/broken-rice-prices-fall-again/#article-title

คาดราคาข้าวในกัมพูชาพุ่งสูงขึ้น

คาดราคาข้าวสารในกัมพูชาอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 20 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากสงครามระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อ และต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตข้าวที่สูงขึ้น ด้าน Lun Yeng เลขาธิการสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) กล่าวถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ระหว่างร้อยละ 10-20 ของราคาปัจจุบัน หลังจากราคาน้ำมันเบนซินและปุ๋ยยังเป็นปัจจัยผลักดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงสต็อกข้าวสารในตลาดต่างประเทศกำลังลดต่ำลง เนื่องจากการผลิตลดลงจากเหตุผลข้างต้น โดยราคาข้าวพรีเมียมของกัมพูชาในปัจจุบันอยู่ที่ 840 ดอลลาร์ต่อตัน ด้าน CRF ก็ได้พยายามอย่างมากในการกระตุ้นการส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป แม้ว่าค่าขนส่งจะสูงขึ้นก็ตาม โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2022 กัมพูชาส่งออกข้าวมากกว่า 220,000 ตันไป ยังตลาดต่างประเทศ โดยมีรายได้มากกว่า 139 ล้านดอลลาร์ รายงานโดย CRF นอกจากนี้ กัมพูชายังได้ส่งออกข้าวเปลือกปริมาณรวมกว่า 1.6 ล้านตัน ในช่วงเวลาเดียวกันไปยังเวียดนาม สร้างรายได้ 376.6 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501081588/rice-price-expected-to-go-up/

ราคาข้าวคุณภาพต่ำในเมียนมา พุ่งถึง 30,000 จัตต่อถุง

นาย อู่ ธาน อู เลขาธิการตลาดค้าส่งข้าวบุเรงนอง เผย ราคาข้าวพันธุ์คุณภาพต่ำ (ข้าวเมล็ดยาว) ในประเทศมีราคาสูงถึง 30,000 จัตต่อถุง นอกจากนี้ราคาข้าวพันธุ์ปวาสันต์ยังมีมูลค่าถุงละ 40,000-50,000 จัตอีกด้วย ข้าวหอม “Pearl Paw San” ที่นิยมบริโภคและปลูกในพื้นที่เมืองชเวโบ เขตซะไกง์ ราคาพุ่งไปถึงถุงละ 50,000 จัต อย่างไรก็ตาม ตลาดในประเทศค่อนข้างซบเซา ส่วนราคาส่งออกมีความเกี่ยวพันอย่างมากกับตลาดค่างินและตัวชี้วัดเศรษฐกิจโลก ปัจจุบันเงินจัตอ่อนค่าลงลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ที่ 1,980 จัต ช่วงนี้ข้าวนาข้าวปีเริ่มถูกส่งเข้าสู่ตลาดข้าวบุเรงนองประมาณ 30,000-40,000 ถุงต่อวัน ทั้งนี้ตลาดข้าวบุเรงนองเป็นจุดสำคัญสำหรับการส่งออกข้าวผ่านทางทะเล

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/low-grade-rice-price-rises-over-k30000-per-bag-in-domestic-market/