‘เวียดนาม’ เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม 10 เดือนแรก โต 0.5%

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (IIP) ของเวียดนาม ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 0.5% ในขณะที่เดือนตุลาคม เพียงเดือนเดียว ขยายตัว 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ คุณ Phi Thi Huong Nga หัวหน้าสำนักงานสถิติอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง กล่าวว่าถึงแม้กิจกรรมการผลิตและการดำเนินธุรกิจของธุรกิจภาคอุตสาหกรรมที่เผชิญกับความยากลำบาก แต่ก็กลับมาฟื้นตัวในเชิงบวกมากกว่าไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ นอกจากนี้ จากข้อมูลเมื่อวันที่ 1 ต.ค.66 พบว่าจำนวนคนงานในธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว 1.0% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และหดตัว 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/industrial-production-index-up-05-in-ten-months/270761.vnp

บริษัท Sailun ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตยางรถยนต์ 6 ล้านเส้นต่อปี

บริษัท Sailun (กัมพูชา) ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Qilu ในจังหวัดสวายเรียง ซึ่งบริหารจัดการโดย Cart Tyre วางแผนลงทุนเพิ่มมูลค่ารวมกว่า 1.47 พันล้านหยวน (ประมาณ 170 ล้านปอนด์) เพื่อขยายกำลังการผลิตยางเรเดียลกึ่งเหล็กในประเทศกัมพูชา ให้มีกำลังการผลิตสูงถึง 6 ล้านเส้นต่อปี หวังตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงยังมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการส่งออกยางไปยังตลาดต่างประเทศอย่างในโซนพื้นที่อเมริกาเหนือ สำหรับบริษัทดังกล่าวถือเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของจีนที่ได้ขยายการลงทุนมายังกัมพูชา โดยเริ่มดำเนินการในกัมพูชาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2021 สร้างการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่นกว่า 4,000 ตำแหน่ง รวมถึงยังทำการซื้อแผ่นยางดิบเพื่อเป็นวัตถุดิบการผลิตยางกว่า 150,000 ตันต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501385870/sailun-cambodia-plant-increases-tyre-production-capacity-by-6-million-units/

‘เวียดนาม-ไทย’ ตั้งเป้ามูลค่าการค้า 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายฟาม มินห์ จิญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หารือร่วมกันในการส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเครือข่ายภายใต้ห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการเชื่อมโยงไปยังภาคอุตสาหกรรม ท้องถิ่น ธุรกิจและอื่นๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ นายปานปรีย์ กล่าวว่าธุรกิจไทยมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของสภาพแวดล้อมการลงทุนในเวียดนาม และหวังว่าจะขยายกิจการให้เติบโตขึ้น ในขณะเดียวกัน นายกฯเวียดนาม เสนอให้รัฐบาลไทยส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชนชาวเวียดนามในไทย และรู้สึกยินดีกับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ เวียดนามและไทย ได้ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้า 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขจัดอุปสรรคทางการค้าและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.nationthailand.com/world/asean/40032235

จีนจ่อลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานกัมพูชา มูลค่ารวมกว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์

ภาคพลังงานของกัมพูชาได้รับแรงผลักดันมหาศาลจากบริษัทจีนในการประกาศแผนการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานมูลค่ารวมกว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต กล่าวขอบคุณและยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับความสนใจด้านการลงทุน ในระหว่างการประชุม ‘Belt and Road Forum’ ที่กำลังดำเนินอยู่ในกรุงปักกิ่ง โดย Wang Bo ประธานบริษัท China Machinery Engineering Corporation (CMEC) ได้ให้คำมั่นว่าจะลงทุนประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ ภายในช่วงระยะเวลา 10 ปี หลังก่อนหน้าประสบความสำเร็จในหลายโครงการที่ได้เข้ามาลงทุนยังกัมพูชา ขณะที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ภายใต้เครือ SINOMACH ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านพลังงานสะอาด และโครงสร้างพื้นฐาน เป็นสำคัญ สำหรับในกัมพูชาบริษัทวางแผนที่จะเพิ่มเงินลงทุนมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ ในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในอนาคตอันใกล้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ห้าเหลี่ยมของรัฐบาลกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501377951/china-to-charge-up-kingdoms-energy-sector-with-3-6-billion/

คณะกรรมการกำกับดูแลน้ำมันเชื้อเพลิงเมียนมาได้รับการจัดตั้งขึ้นใหม่

คณะกรรมการกลางว่าด้วยการกำกับดูแลความเรียบร้อยด้านการค้าและสินค้า ได้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้า จัดเก็บ และจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นใหม่เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา คณะกรรมการดังกล่าว ได้รับการจัดตั้งขึ้น โดยมีหน้าที่สำคัญในการป้องกันการสูญเสียรายได้ของรัฐ ทำให้เกิดเสถียรภาพด้านราคา กำกับดูแลการออกใบอนุญาตและการนำเข้าน้ำมัน การจัดเก็บและจำหน่ายน้ำมันอย่างเป็นระบบให้มีคุณภาพมาตรฐานสำหรับน้ำมันที่นำเข้า จัดการกับความล่าช้าในการเทียบท่าของเรือบรรทุกน้ำมัน ตรวจสอบการจ่ายน้ำมันไปยังถังและสต็อกรายวันในมือ และประเมินระยะเวลาการรักษาความปลอดภัยของน้ำมัน นอกจากนี้ คณะกรรมการต้องแจ้งเรื่องกิจกรรมต้องสงสัยด้านคุณภาพไปยังคณะกรรมการกลางฯ และรายงานเกี่ยวกับบริษัทผู้นำเข้า ประเทศผู้ส่งออก ปริมาณการนำเข้า (ตัน) เลขทะเบียนและวันที่มาถึงของเรือบรรทุกน้ำมัน ไปยังคณะกรรมการจัดการการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และคณะกรรมการกลางฯ รวมทั้งจะมีการประเมินคุณภาพการจ่ายน้ำมันจากถังเก็บน้ำมัน เป็นระยะ เพื่อแจ้งสถานะสต๊อกสินค้าในถังเก็บน้ำมัน และทำการบันทึกและตรวจสอบย้อนกลับว่าพบพฤติกรรมฉ้อโกงในห่วงโซ่อุปทานหรือไม่ (ตั้งแต่การนำเข้าไปจนถึงขั้นตอนการจัดจำหน่าย) และเพื่อการควบคุมราคา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/fuel-oil-supervisory-committee-reestablished/#article-title

‘การค้าเวียดนาม-กัมพูชา’ ช่วง 9 เดือนแรกปี 66 มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลทางสถิติของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 เวียดนามและกัมพูชามีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 4.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3% การส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนาม มีมูลค่า 2.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 30.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 2.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 11% ทั้งนี้ ในปัจจุบัน เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของกัมพูชา รองจากจีนและสหรัฐฯ และยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดในอาเซียนและเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐฯ

นอกจากนี้ สำนักงานการค้าเวียดนาม ประจำประเทศกัมพูชา รายงานว่าโครงสร้างการส่งออกสินค้าเวียดนามไปยังกัมพูชามีความหลากหลาย เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความเชื่อมโยงทางอุตสาหกรรมและธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-cambodia-trade-hits-nearly-us5-billion-over-nine-months-post1052529.vov

กกร.ชง 3 เรื่อง วางอุตสาหกรรมยั่งยืน EEC-จัดการน้ำ-คาร์บอนเครดิต พบ ต.ค.น้ำลดเหลือ 55% หวั่นเกิดวิกฤติน้ำขาด เร่งรัฐรับมือจัดการน้ำยั่งยืน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในฐานะประธาน กกร.เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย โดย กกร.ได้จัดประชุมคณะกรรมการประจำเดือนตุลาคม 2566ว่า เนื่องจากสถานการณ์เศรษกิจโลกชะลอตัว จากปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ ทำให้ประเทศที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ จึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย แนวโน้มโน้มเศรษฐกิจของไทยจึงขยายตัวได้ในกรอบ 2.5-3.0% ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตโดยตรง คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปรากฎการณ์เอลนีโญ ที่จะมีผลกระทบต่อภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม รวมถึงราคาพลังงานในตลาดโลกที่มีทิศทางสูงขึ้นซึ่งอาจจะมีผลต่อราคาพลังงานในประเทศหลังจากช่วงการลดราคาตามนโยบายของรัฐสิ้นสุดลง ดังนั้นข้อเรียกร้องสำคัญของ กกร. ที่ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาเร่งแก้ไขปัญหา ซึ่งเกี่ยวข้องกับทิศทางการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ คือ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน EEC เพื่อดึงดูดการลงทุนต่อเนื่อง โดยมีประเด็นสำคัญที่จะต้องขับเคลื่อนต่อเนื่อง ตามร่างแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนา EEC ระยะที่ 2 บริบทการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อ EEC การจัดกลุ่ม Cluster อุตสาหกรรมเป้าหมาย ระหว่างปี 2566-2570 ตาม 5 แนวทาง ประกอบด้วย 1) ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและบริการแห่งอนาคต 2) เพิ่มประสิทธิภาพและการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภค 3) ยกระดับทักษะแรงงานให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและนวัตกรรม 4) พัฒนาเมืองให้มีความทันสมัยน่าอยู่อาศัยและเหมาะสมกับการประกอบอาชีพ 5) เชื่อมโยงประโยชน์จากการลงทุนสู่ความยั่งยืนของชุมชน โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ EEC ให้มีความเพียงพอต่อการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมและเป็นการสร้างความมั่นใจถึงความพร้อมกับนักลงทุนต่างชาติ

ที่มา : https://www.thaiquote.org/content/251251

‘S&P Global’ เผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเวียดนาม ปรับตัวลดลงเล็กน้อย มียอดคำสั่งซื้อใหม่ เดือน ก.ย.

รายงานของ S&P Global ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนาม เดือน ก.ย.66 อยู่ที่ระดับ 49.7 จากระดับ 50.5 ในเดือน ส.ค.66 ได้ส่งสัญญาถึงภาวะถดถอยทางธุรกิจแก่ภาคอุตสาหกรรมในเวียดนาม ถึงแม้ว่ายอดคำสั่งซื้อใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน อย่างไรก็ดี จากข้อมูลพื้นฐานแสดงให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมทางการตลาดมีความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นทางธุรกิจดีขึ้น แต่หากพิจารณาในภาพรวมยังเผชิญกับอุปสรรคหลากประการ ได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อสูง ผลผลิตและการจ้างงานลดลง ต้นทุนวัตถุดิบและราคาผลผลิตที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1594585/viet-nam-records-21-68-billion-trade-surplus-in-nine-months.html

‘นายกฯ เวียดนาม’ ชวนบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐ ลงทุนในเวียดนามมากขึ้น

นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทชั้นนำของสหรัฐอเมริกาในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 19 ก.ย. กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 78 โดยมีนายมาร์ค แนปเปอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเวียดนาม และจอห์น นิวฟ์เฟอร์ ประธานและซีอีโอของสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐฯ (SIA) เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ นักธุรกิจสหรัฐฯ ยกย่องศักยภาพของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในเวียดนาม ซึ่งมีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูง รวมถึงมีการส่งเสริมศักยภาพของธุรกิจในประเทศและสถาบันฝึกอบรม อีกทั้ง นายกฯ เวียดนาม เชิญชวนให้บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ ลงทุนในเวียดนามมากขึ้น ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี การออกแบบ การผลิต การฝึกอบรมกำลังคนและสถาบันวิจัย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/pm-calls-on-us-semiconductor-firms-to-invest-more-in-vietnam/268253.vnp

‘เวิลด์แบงก์’ ชี้การลงทุน FDI ในเวียดนามยังคงทรงตัว ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก

ธนาคารโลก (WB) ได้ออกรายงาน Vietnam Macro Monitoring ประจำเดือน ส.ค. 2566 ระบุว่ากระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการเบิกจ่ายงบประมาณ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่จะมองหาโอกาสทางธุรกิจในตลาดเวียดนาม ทั้งนี้ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี เหตุจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมในประเทศและการส่งออก ในขณะที่ยอดค้าปลีก ปรับตัวดีขึ้น 7.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด อีกทั้ง การลงทุน FDI ยังคงอยู่ในระดับทรงตัว ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก ด้วยเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้าไปยังเวียดนาม มีมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 32% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค.

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-fdi-performance-remains-steady-amid-global-uncertainties-wb-post1046850.vov