นายกฯ สปป.ลาว แนะโรงงานอาหารสัตว์ ‘เร่งผลิต’

นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีของ สปป.ลาว ให้กำลังใจผู้ประกอบการที่กำลังก่อสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดหาวัตถุดิบแก่ฟาร์มชุมชนและการลดต้นทุน โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตอาหารสัตว์ประมาณ 10 ตันต่อชั่วโมงและเดินเครื่องจักรวันละ 8 ชั่วโมง และผลิตภัณฑ์ของโรงงานสามารถใช้เป็นอาหารสัตว์ปีกและสุกรได้ อีกทั้ง โรงงานแห่งนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการลดความต้องการนำเข้าอาหารสัตว์ และยังช่วยลดต้นทุนการผลิตอาหารและลดราคาอาหารในสปป.ลาวอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการผลิตที่มีอยู่ในท้องถิ่น เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าและลดราคาสินค้าในประเทศ ท่ามกลางค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_PM22.php

การลงทะเบียนเครื่องหมายการค้าในกัมพูชาอยู่ที่ 9,288 ราย ในปี 2022

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา รายงานการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในช่วงปี 2022 ที่จำนวน 9,288 ราย ลดลงร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งออกเป็นการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าผ่านระบบภายในประเทศอยู่ที่ 4,196 รายการ ลดลงร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับปี 2021 ขณะที่การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าผ่านระบบระหว่างประเทศที่เรียกว่า Madrid System มีอยู่ที่จำนวน 5,092 รายการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.7 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งผู้จดทะเบียนโดยส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงเป็นการสร้างมาตรฐาน ในการคุ้มครองผู้บริโภค การควบคุมและปราบปรามการปลอมแปลงสินค้าและบริการทุกประเภท

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501230307/cambodia-trademark-registration-at-9288-in-2022/

คาดอุตสาหกรรมเกมมือถือกัมพูชาโตแตะ 34.28 ล้านดอลลาร์

หลังจากประชาชนคนกัมพูชาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีมือถือ ควบคู่ไปกับจำนวนประชากรในกลุ่มเยาวชนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้อุตสาหกรรมกลุ่มเกมมือถือขยายตัวอย่างรวดเร็วในกัมพูชา โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมมีการขยายตัวกว่าร้อยละ 8.54 ซึ่งภายในปี 2027 คาดว่ามูลค่าตลาดภายในประเทศจะสูงถึง 47.57 ล้านดอลลาร์ โดยในปีนี้คาดว่ารายได้ของอุตสาหกรรมเกมมือถือจะอยู่ที่ประมาณ 34.28 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก statista.com ซึ่งได้คาดการเพิ่มเติมว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า (ภายในปี 2027) จำนวนผู้บริโภคเกมมือถือในประเทศจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.1 ของผู้ใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501230311/kingdoms-mobile-games-revenue-may-reach-34-28m/

“พาณิชย์-DITP”ชี้เป้าส่งออก “เครื่องดื่ม”เจาะตลาดเวียดนามแนะเน้นสินค้าพรีเมียมเพื่อสุขภาพ

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทาง และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับข้อมูลจาก นางสาวธนียา ฟูเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย ถึงแนวโน้มตลาดสินค้าเครื่องดื่มในเวียดนาม และโอกาสในการขยายตลาดสินค้าเครื่องดื่มของผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดเวียดนาม

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานสถานการณ์ตลาดเครื่องดื่มในเวียดนามในปี 2566 มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น หลังจากซบเซาจากโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยฟื้นตัวทั้งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีแอลกอฮอล์ และผู้บริโภคยังให้ความสำคัญต่อสุขภาพมากขึ้น โดยต้องการเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน

ที่มา : https://www.thailandplus.tv/archives/664609

“เวียดนาม” เผยยอดธุรกิจจัดตั้งใหม่ ม.ค. 10,800 ราย

เวียดนามเปิดเผยว่าตัวเลขจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมกราคม 2566 พบว่ามีจำนวน 10,800 ราย ลดลง 16.6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจรวมทั้งหมด 15,100 รายที่กลับมาดำเนินกิจการ เพิ่มขึ้น 146.8% และลดลง 21.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้จำนวนวิสาหกิจและธุรกิจที่ตั้งขึ้นใหม่ทั้งหมดที่กลับมาเปิดดำเนินกิจการการในเดือนมกราคมอยู่ที่ 25,900 ราย

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/10-800-new-enterprises-established-in-vietnam-in-january-2023-2105124.html

“เวียดนาม” เผยเดือน ม.ค. เกินดุลการค้า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าการส่งออกสินค้าของเวียดนามในเดือน ม.ค. มีมูลค่าทั้งสิ้น 25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 13.6 21.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 21.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 28.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้เดือนนี้เวียดนามเกินดุลการค้า 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากเวียดนามรายใหญ่ที่สุด มีมูลค่า 7.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือน ม.ค. 2566 คาดว่าจะปรับตัวลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-has-trade-surplus-of-over-us3-6-billion-in-january/

เมียนมาตั้งเป้าส่งออกข้าวโพดกว่า 2 ล้านตัน ในฤดูกาลผลิตปี 66

สมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดแห่งเมียนมา เผย ปี 2566 เมียนมามีผลผลิตข้าวโพดรวมทั่วประเทศ 3 ล้านตัน โดยมีเป้าส่งออกมากกว่า 2 ล้านตัน และเก็บไว้บริโภคภายในประเทศอีก 1 ล้านตัน ซึ่งตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ ไทย จีน อินเดีย เวียดนาม ในปัจจุบันราคาข้าวโพดพุ่งสูงสุดถึง 1,280 จัตต่อ viss (1 viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) จากความต้องการของต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมาส่งออกข้าวโพด 2.3 ล้านตัน ส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปยังไทย และบางส่วนส่งออกไปยัง จีน อินเดีย และเวียดนาม ปัจจุบันการปลูกข้าวโพดของเมียนมาส่วนใหญ่อยู่ในรัฐฉาน รัฐกะฉิ่น รัฐกะยา รัฐกะเหรี่ยง ภาคมัณฑะเลย์ ภาคซะไกง์ และภาคมะกเว โดยมีฤดูกาลปลูกอยู่ 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูมรสุม ส่วนผลผลิตข้าวโพดต่อปีอยู่ที่ 2.5-3 ล้านตัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-sets-over-2-mln-tonnes-of-corn-export-target-this-season/#article-title

“สปป.ลาว” ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ ปี 66

เว็บไซต์ Traveller ของออสเตรเลีย ได้รวบรวมสถานที่น่าท่องเที่ยวที่ดีที่สุดจากทั่วโลก พบว่าสปป.ลาว ติดอันดับ 10 สถานที่ที่น่าท่องเที่ยวชั้นนำของโลกจาก 25 จุดหมายปลายทางในปีนี้ และจากบทความชี้ให้เห็นว่าในอดีตที่ผ่านมา ใครก็ตามที่เคยไปเที่ยวในลาว จะทราบถึงเสน่ห์และบรรยากาศสบายๆ รวมถึงความงามทางวัฒนธรรมของเมืองหลวงพระบาง ไปจนถึงพลังแห่งวัยเยาว์ของเวียงจันทน์ อย่างไรก็ตาม สปป.ลาว ได้เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา มีการเปิดเส้นทางรถไฟลาว-จีน ในปี 2564 ทำให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวได้ดีขึ้นและสะดวกในการเดินทาง นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ มองว่าการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนผ่านรถไฟลาว-จีน ทำให้รัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ อยู่ที่ราว 1.4 ล้านคน  และมีแผนที่จะปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ เพื่อรองรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้าประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2023_Laos21.php