“เมียนมา” เผยราคาน้ำมันปาล์มพุ่ง แม้นำเข้า 7.5 หมื่นตัน

ราคาน้ำมันปาล์มตามใบส่งมอบสินค้า (D/O) ยังคงอยู่ในระดับสูงขึ้น ถึงแม้ว่าจะนำเข้าน้ำมันจำนวนมาก ก่อนที่จะถึงเทศกาลสงกรานต์ (Thingyan) และจากรายงานของผู้ค้าน้ำมัน เปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 1 เมษายน เมืองติลาวาและย่างกุ้ง มีปริมาณการนำเข้าน้ำมันพืชจากต่างประเทศอยู่ที่ราว 3 หมื่นตัน ในขณะที่เรือขนส่งน้ำมัน 8 ลำที่บรรทุกน้ำมันพืช 35,000 ตัน และมีเรือขนส่งน้ำมัน 2 ลำที่บรรทุกน้ำมันปาล์ม 11,000 ตัน โดยราคาน้ำมันปาล์มตามใบส่งมอบสินค้า อยู่ที่ประมาณ 6,400-6,450 จั๊ต อย่างไรก็ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบการจัดเก็บน้ำมันปาล์มหรือจัดจำหน่ายที่มีเจตนาปั่นราคาน้ำมัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/palm-oil-price-spikes-despite-arrival-of-around-75000-tonnes-of-imported-oil/

เอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว เข้าเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน

เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน (Savan Park) และ Savannakhet Dry Port ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทย นำโดยเอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ ในการเข้าเยือนพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย และสปป.ลาว โดยปัจจุบันภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษมีบริษัทเข้าลงทุนทั้งหมด 78 บริษัท ซึ่งเขตเศรษฐกิจดังกล่าวมีประสิทธิภาพและข้อได้เปรียบในหลายๆด้าน โดยเฉพาะทางด้านโลจิสติกส์ที่มีท่าเรือบกภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งในปี 2022 การค้าผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษ แบ่งเป็นมูลค่าการนำเข้ามากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นการส่งออกที่มีมูลค่า 207 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานล่าสุดของท่าเรือบก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten65_Thai_y23.php

รัฐบาลกัมพูชาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ภาษี ฉบับใหม่

รัฐบาลกัมพูชาได้อนุมัติร่างกฎหมายการจัดเก็บภาษีฉบับใหม่ ซึ่งคาดหวังว่าจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมและยกระดับภาคธุรกิจของกัมพูชา รวมถึงเพิ่มสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่เอื้ออำนวย ลดช่องโหว่ในการหลีกเลี่ยงภาษี โดยการอนุมัติดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน เป็นประธาน ซึ่งร่างกฎหมายภาษีอากรฉบับใหม่ ประกอบด้วยตัวบทกฎหมาย 20 บท 255 มาตรา นอกจากนี้ยังช่วยให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมและส่งเสริมเศรษฐกิจกัมพูชาในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ขณะที่กรมภาษีอากร (GDT) ได้รายงานการจัดเก็บภาษีในช่วงปี 2022 ที่มูลค่ารวม 3.45 พันล้านดอลลาร์ เกินเป้าหมายประจำปีถึง 2.81 พันล้านดอลลาร์ ที่ร้อยละ 22.54 และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24.20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021 สำหรับเป้าหมายในปี 2023 ทางการกัมพูชาตั้งเป้าจัดเก็บภาษีให้ได้ 3.57 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501266503/government-approves-new-draft-law-on-taxation/

ในช่วง 3 เดือนแรก นครวัดกัมพูชาโกยรายได้จากการขายตั๋วเข้าชม 11 ล้านดอลลาร์

ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2023 กัมพูชาสร้างรายได้จากการขายตั๋วมูลค่ารวม 11,135,492 ดอลลาร์ โดยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 236,341 คน ตามรายงานของอังกอร์เอ็นเตอร์ไพรส์ ซึ่งได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา จากข้อมูลของ Angkor Enterprise ในช่วงเดือนมีนาคม 2023 เพียงเดือนเดียว บริษัทขายตั๋วไปถึง 79,390 ใบ สร้างรายได้กว่า 3,748,700 ดอลลาร์ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายตั๋ว รัฐบาลกัมพูชาได้บริจาคเงินบางส่วนให้กับโรงพยาบาล Kantha Bopha ของกัมพูชา เพื่อช่วยชีวิตเด็กชาวกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501267097/cambodia-earns-more-than-11-million-from-angkor-tickets-sales-in-first-three-months/

ส่งออกนมและผลิตภัณฑ์ไปตลาดคู่ FTA เดือนม.ค.66 เพิ่ม 8.4% ตลาดอาเซียนเบอร์ 1

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมไปตลาดคู่ FTA เดือนม.ค.66 มีมูลค่ากว่า 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 8.4% ตลาดอาเซียนเบอร์ 1 เพิ่ม 8.6% มีสัดส่วน 86.5% ของการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ตลาดกัมพูชา ฟิลิปปินส์ และสปป.ลาว เติบโตได้ดี ส่วนสินค้ามาแรงนม UHT นมเปรี้ยวและโยเกิร์ต นมถั่วเหลืองที่มีนมผสม ระบุปัจจุบัน 14 ประเทศคู่ FTA ยกเลิกเก็บภาษีนมและผลิตภัณฑ์นมจากไทยแล้ว เหลือแค่ 4 ประเทศที่ยังเก็บอยู่

ที่มา : https://www.agrinewsthai.com/domestic-animal/61399

“พาณิชย์” เผยสถิติใช้สิทธิ FTA ส่งออกเดือน ม.ค. อาเซียนแชมป์ RCEP พุ่ง 1,039%

กรมการค้าต่างประเทศเผยสถิติการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA จำนวน 12 ฉบับ เดือน ม.ค. 66 มีมูลค่า 5,399.38 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 16.13% คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ 71.79% อาเซียนนำโด่งใช้สิทธิสูงสุด ตามด้วยอาเซียน-จีน ไทย-ออสเตรเลีย ไทย-ญี่ปุ่น และอาเซียน-อินเดีย ส่วน RCEP ใช้สิทธิเพิ่ม 1,039%

ที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9660000030822

“เวียดนาม” ตั้งเป้าจำนวนธุรกิจ 1.5 ล้านแห่งในปี 2568

รัฐบาลต้องการให้ภาคเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการพัฒนาประเทศ โดยตั้งเป้าว่ามีจำนวนธุรกิจ 1.5 ล้านแห่งในปี 2568 และกว่าครึ่งหนึ่งของกิจการในประเทศเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ กระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนามได้นำนโยบายในการส่งเสริมการดำเนินกิจการของธุรกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการวางโครงสร้างพื้นฐาน เขตเศรษฐกิจและเขตอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ มูลค่าของภาคเอกชน คาดว่ามีสัดส่วน 55% ของ GDP ในปี 2568 และปรับตัวสูงขึ้น 60-65% ในปี 2573 อย่างไรก็ดี ธุรกิจส่วนใหญ่ 95%  หรือประมาณ 1 ล้านแห่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs)

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-plans-to-have-15-million-businesses-in-2025-post1011250.vov

“OECD” คาดเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ขยายตัว 6.6%

องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) รายงานว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.6% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้าไปยังภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร สิ่งทอและรองเท้า รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากการที่ประเทศจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ ทางองค์การ OECD มองว่าเวียดนามยังคงเป็นประเทศชั้นนำที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดจาก 5 อันดับแรกในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ตามรายงาน ระบุว่าหลังสิ้นสุดโครงการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ได้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกแก่เวียดนามที่จะหันไปแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินของประเทศ อย่างไรก็ดี อุปสงค์ที่อ่อนแอ ส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามชะลอตัวตามไปด้วย ตลอดจนภาวะเงินเฟ้อ เวียดนามควรติดตามทิศทางและแนวโน้มของเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-economy-to-grow-by-66-this-year-oecd-post1011080.vov

“เมียนมา” เผยสัปดาห์ที่ 2 ของ มี.ค. ส่งออกข้าว 3 หมื่นตัน มูลค่า 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลสถิติของกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน มี.ค. เมียนมาส่งออกข้าวและข้าวหัก (Broken Rice) ไปยังตลาดต่างประเทศ ด้วยปริมาณมากกว่า 33,250 ตัน คิดเป็นมูลค่า 13.289 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และตั้งแต่วันที่ 11-17 มี.ค. เมียนมาส่งออกข้าวทางเรือไปยังประเทศในเอเชีย 10,090 ตัน และส่งออกข้าวมากกว่า 9,000 ตันไปยังกลุ่มประเทศยุโรป ตลอดจนส่งออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์ จีนและมาเลเซีย ฯลฯ เป็นต้น นอกจากนี้ เมียนมาส่งออกข้าวหักไปยังช่องทางการค้าชายแดนและทางทะเล มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 4.673 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/over-30000-tonnes-of-rice-worth-us13-mln-exported-in-march-2nd-week/

นายกฯ สปป.ลาว เล็งดึงเม็ดเงินลงทุนเพิ่มจากจีน

นายกฯ สปป.ลาว ได้ร้องขอความร่วมมือจากผู้นำมณฑลยูนนาน ในการส่งเสริมให้บริษัทสัญชาติจีนเข้ามาลงทุนใน สปป.ลาว มากขึ้น โดยกล่าวขึ้นในระหว่างการประชุมที่จัดขึ้น ณ เวียงจันทน์ ซึ่งคาดหวังที่จะใช้ประโยชน์จากทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน ในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าระหว่างระหว่างประเทศ ซึ่งตลาดจีนถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญของ สปป.ลาว เนื่องจากมีประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน โดย สปป.ลาว มีศักยภาพในการเพาะปลูกพืชและเลี้ยงโค-กระบือ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดจีน ซึ่งในปี 2021 มีบริษัทจีนกว่า 300 แห่ง แสดงความสนใจที่จะลงทุนในภาคการเกษตรและป่าไม้ใน สปป.ลาว โดยคาดว่าเงินลงทุนรวมจะสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ จากปัจจัยสนับสนุนในด้านต่างๆ ขณะที่ภาคการค้าระหว่างประเทศ จีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของ สปป.ลาว นับตั้งแต่ปี 2018-2022 มีมูลค่ารวมถึง 1.59 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 15.63 ต่อปี ในแง่ของการลงทุนระหว่างประเทศจีนก็ยังคงเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว ด้วยมูลค่าการลงทุนของจีนในเขตสัมปทานและเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีมูลค่าถึง 13.67 พันล้านดอลลาร์ กระจายอยู่ใน 921 โครงการ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten64_PM_y23.php