อัตราแลกเปลี่ยนจ๊าด-ดอลลาร์ในตลาดลดลงอยู่ที่ 3,500 จ๊าด

ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา การอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยนจ๊าดเทียบกับดอลลาร์ชะลอตัวลงที่ประมาณ 3,500 จ๊าดที่ตลาดซื้อขายที่เคาน์เตอร์อย่างไม่เป็นทางการหลังจากแตะ 3,560 จ๊าด เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ธนาคารกลางแห่งเมียนมา (CBM) เข้ามาแทรกแซงตลาดสกุลเงินโดยการอัดฉีดเงินดอลลาร์เข้าสู่ตลาดการเงินเพื่อควบคุมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ในตลาดฟอเร็กซ์ โดยในวันที่ 2-5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา CBM อัดฉีดเงินตราต่างประเทศ รวมมูลค่า 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐและ 250 ล้านบาท ในแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงของธนาคารกลางเมียนมาที่กำหนดไว้อยู่ที่ 2,100 จ๊าด/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ธนาคารกลางแห่งเมียนมาได้อนุญาตให้ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต (ธนาคารเอกชน) ดำเนินการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้อย่างอิสระตามอัตราตลาดที่กำหนดโดยกลไกของตลาดอุปสงค์และอุปทาน นอกจากนี้ CBM ยังได้แจ้งว่าการโอนเงินไปต่างประเทศจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อบังคับของคณะกรรมการบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/kyat-dollar-exchange-rate-dips-to-k3500-in-market/#article-title

MRF เปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์ขึ้นทะเบียนโกดังข้าว หนุนเสถียรภาพตลาด

สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) รายงานว่าโกดังเกือบ 300 แห่งได้ลงทะเบียนบนแพลตฟอร์ม MyRO (Myanmar Rice Online) ซึ่งช่วยในการคำนวณอุปทานข้าวที่เหลืออยู่ในประเทศ ทั้งนี้ สหพันธ์ระบุว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาข้าวในท้องถิ่นโดยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของข้าวสำรอง และยังคาดว่าจะแก้ไขปัญหาการเก็งกำไรราคา อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าจะต้องลงทะเบียนใน MyRO หากเก็บข้าวได้มากถึง 50 ตันหรือตะกร้าข้าว 5,000 ตะกร้าเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า ตามประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 3 มกราคมกรมกิจการผู้บริโภคยังได้ออกการแจ้งเตือนไปยังผู้ค้า สั่งให้จดทะเบียนโกดังถ้าขายข้าวในศูนย์การค้า นอกจากนี้ สหพันธ์ได้ประกาศข้อกำหนดให้ลงทะเบียนในวันที่ 12 มกราคม 2567

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mrf-launches-online-platform-for-rice-warehouse-registration-bolstering-market-stability/

คนรุ่นใหม่ใน สปป.ลาว ให้ความสนใจภาษาจีนเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน

คนรุ่นใหม่ใน สปป.ลาว ให้ความสนใจในการเรียนรู้ภาษาจีนเพิ่มมากขึ้น โดยตระหนักโอกาสในการทำงานในอนาคต ท่ามกลางการหลั่งไหลเข้ามาของนักลงทุนชาวจีนจำนวนมาก ในปีการศึกษา 2566-2567 การลงทะเบียนเรียนที่สถาบันขงจื้อ ซึ่งเป็นสถาบันภาษาจีนที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากข้อมูลเผยให้เห็นว่าจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในเวลาเพียง 2 ปี โดยเพิ่มขึ้นจาก 193 คน ในปี 2564 เป็น 562 คน ในปี 2566 นอกจากนี้ นักศึกษาลาวเริ่มลงทะเบียนสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติ โดยสาขาวิชาภาษาจีนกลายเป็นวิชาที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด โดยมีนักศึกษาลงทะเบียนมากกว่า 2,000 คน นี่เป็นจำนวนที่สูงที่สุดในบรรดาวิชาทั้งหมดสำหรับปีการศึกษานี้ ซึ่งส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงความสนใจทางวิชาการในหมู่เยาวชนของ สปป.ลาว

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/02/08/rising-interest-in-chinese-language-reflects-future-job-prospects-for-lao-youth/

นายกฯ สปป.ลาว แนะเจ้าหน้าที่แขวงบ่อแก้ว ลดนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยจากต่างประเทศ

นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว แนะนำให้ทางการปฏิบัติตามมติของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมแนวทางการพัฒนาใหม่ๆ สู่การเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมถึงวิธีการบริหารสมัยใหม่ แขวงบ่อแก้วควรปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาที่กำหนดความรับผิดชอบในการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนงบประมาณของรัฐ และแผนสกุลเงิน ปี 2567 โดยแนะนำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าเม็ดเงินที่เข้ามาสู่แขวงบ่อแก้วและการชำระเงินโดยทั่วไป จะถูกชำระผ่านบัญชีธนาคารมากขึ้น เพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบธนาคาร การจัดการสกุลเงินจะต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น รวมถึงการควบคุมเงินที่นำเข้าเพื่อการลงทุนให้มีความสอดคล้องกับกฎหมาย นอกจากนี้ ทางการควรลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลีกเลี่ยงการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_28_PM_y24.php

ADB ตกลงสนับสนุนผู้ประกอบการ MSMEs กัมพูชา

ธนาคารการค้าต่างประเทศแห่งกัมพูชา (FTB) เข้าร่วมโครงการการเงินการค้าและห่วงโซ่อุปทาน (TSCFP) ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อส่งเสริมทางด้านการเงิน การค้า สำหรับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก และขนาดกลาง (MSMEs) ในกัมพูชา โดยเป็นการลงนามระหว่าง Dith Sochal ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FTB และ JyotsanaVarma ผู้อำนวยการ ADB ประจำกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ ซึ่งคาดว่าจะเติมเต็มช่องว่างให้กับผู้ประกอบการ MSEMs ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านธนาคารพันธมิตร ด้าน MSMEs คิดเป็นกว่าประมาณร้อยละ 99 ขององค์กรทั้งหมดในกัมพูชา ขณะที่ TSCFP ได้ให้สินเชื่อและค้ำประกันแก่ธนาคารพันธมิตรมากกว่า 200 แห่งในหลายประเทศ เพื่อสนับสนุนการค้า ส่งเสริมการนำเข้าและส่งออก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501435837/cambodia-adb-agree-to-support-micro-small-and-medium-sized-enterprises/

2023 มูลค่าการส่งออก-นำเข้า ผ่าน SSEZ กัมพูชา แตะ 3.36 พันล้านดอลลาร์

ปริมาณการนำเข้าและส่งออกรวมของเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ) มีมูลค่า 3.36 พันล้านดอลลาร์ สำหรับในปี 2023 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 34.8 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยมูลค่าการค้าผ่าน SSEZ คิดเป็นประมาณกว่าร้อยละ 7.18 ของปริมาณการค้าทั้งหมดของกัมพูชา สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ SSEZ ถือเป็นโครงการเรือธงภายใต้โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งร่วมลงทุนโดยนักลงทุนจีนและกัมพูชา ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดพระสีหนุ โดยเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแง่ของขนาดและจำนวนผู้ประกอบการในเขต ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรและบริษัทเอกชนรวมกว่า 180 แห่ง จากทั้งทางฝั่งจีน ยุโรป สหรัฐฯ และจากภูมิภาคอื่นๆ สร้างการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่นเกือบ 30,000 ตำแหน่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501435871/ssezs-export-import-valued-at-3-36-billion-in-2023/

นายกฯนั่งหัวโต๊ะเตรียมเจ้าภาพจัดประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกปี 69

นายพรชัย  ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในวันนี้(7ก.พ.)ได้มีการประชุมคณะกรรมการระดับชาติครั้งแรกเพื่อเตรียมการจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (คณะกรรมการฯ) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมในปี 2569 โดยมีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการจัดประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์สำหรับการประชุมประจำปีฯ เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมการดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีฯ ของไทยให้กับคนในประเทศและนานาชาติได้ทราบ นอกจากนี้ เพื่อให้การดำเนินการเตรียมการจัดการประชุมประจำปีฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสำเร็จลุล่วงด้วยดี คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการด้านสารัตถะ มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายกฤษฎา  จีนะวิจารณะ) เป็นประธานอนุกรรมการ คณะอนุกรรมการ ด้านพิธีการและอำนวยการ มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์  อมรวิวัฒน์) เป็นประธานอนุกรรมการ และคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัย การจราจร และสาธารณสุข มีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานอนุกรรมการ อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีได้มีดำริให้มีการรายงานความคืบหน้าและประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีฯ ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตลอดปี โดยการประชุมประจำปีฯ เป็นการประชุมระดับโลกที่จัดขึ้นนอกสหรัฐอเมริกาเพียงครั้งเดียวทุก 3 ปี โดยการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยในปี 2569 จะเป็นเพียงครั้งที่ 2 ต่อจากการประชุมประจำปีฯ 2534 ที่ไทยจะได้รับโอกาสในการแสดงศักยภาพและความสามัคคีของทุกภาคส่วนในการร่วมเตรียมความพร้อมและต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ว่าการธนาคารกลาง และผู้บริหารของสถาบันการเงินที่สำคัญและคณะเดินทางของประเทศสมาชิกของธนาคารโลกทั้ง 189 ประเทศอีกด้วย

ที่มาภาพจาก : เว็ปไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1112177

‘เวียดนาม’ เผย ม.ค.67 โทรศัพท์สินค้าส่งออกอันดับ 1 ยอดโต 6.7%

กรมศุลกากรเวียดนาม รายงานว่าการส่งออกโทรศัพท์และชิ้นส่วนในช่วงครึ่งแรกของเดือน ม.ค.67 มีมูลค่า 2.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และโทรศัพท์ยังคงเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ในแง่ของมูลค่าการส่งออก รวมถึงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนามในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การส่งออกโทรศัพท์และชิ้นส่วนในปี 2566 ทำรายได้สูงถึง 52.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 2 รองจากคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ในขณะเดียวกันตลาดส่งออกหลักของเวียดนาม ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/phone-exports-rank-top-in-1h-january.htm

‘นายกฯ’ เรียกร้องให้มีการพัฒนาระบบโลจิสติกส์สินค้าเกษตรของเวียดนาม

นายฝ่าม มิงห์ จิญ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ออกแถลงการณ์ที่จะมุ่งส่งเสริมการเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์ เพื่อขับเคลื่อนการบริโภคและการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมง โดยถือว่าเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของเกษตรกรรมและการพัฒนาชนบท

ทั้งนี้ บทบาทภาระดังกล่าว ทางกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) ได้รับทำหน้าที่สำคัญในการประสานงานกับกระทรวงและหน่วนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมมือโครงการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ ปรับปรุงคุณภาพและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของสินค้าเกษตรเวียดนาม

นอกจากนี้ยังต้องร่วมมือกับท้องถิ่นในการตรวจสอบและพัฒนาศูนย์บริการโลจิสติกส์ให้มีความเหมาะสมกับสินค้าเกษตร ตลอดจนจัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะผู้บริหารของรัฐฯ ภาคธุรกิจและสหกรณ์ในภาคเกษตรกรรม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/pm-urges-logistics-connectivity-for-vietnamese-farm-produce/279364.vnp

เมียนมาให้ข้อมูลเชิงลึกถึงสถานการณ์ปัจจุบันในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-สหภาพยุโรป ครั้งที่ 24

กระทรวงการต่างประเทศเมียนมา รายงานว่า เมียนมาเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-สหภาพยุโรป ครั้งที่ 24 โดยมี U Soe Lin Han เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำเบลเยียมเข้าร่วมและเข้าร่วมการประชุมที่จัดขึ้นที่ SQUARE Brussel Meeting Centre กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ โดยมีการพูดถึงสถานการณ์การโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในเมียนมา และมาตรการที่มุ่งเป้าไปที่การกำหนดการปกครองตนเอง และการจัดการการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยหลายพรรคที่เสรีและยุติธรรม ทั้งนี้ ในการประชุมเอกอัครราชทูตเมียนมาแสดงความขอบคุณสำหรับโครงการยกเว้นภาษีการค้าพิเศษ (GSP/EBA) ของสหภาพยุโรป และการตระหนักรู้ของประเทศเกี่ยวกับสิทธิแรงงานของคนงานในเมียนมา ซึ่งสอดคล้องกับการตรวจสอบสถานะที่กำหนดภายใต้โครงการ GSP/EBA และ การดำเนินการของรัฐบาลตามกฎหมายที่มีอยู่ อย่างไรก็ดี สาเหตุของการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในเมียนมาร์ ได้แก่ แก๊งฉ้อโกงออนไลน์และปัญหาการค้ายาเสพติด ดังนั้น 3 ประเทศ เมียนมาร์-จีน-ไทย จึงประสานงานเพื่อปราบปรามและแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ด้านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศลาวและประธานอาเซียนหมุนเวียน นายสะเหลิมไซ คมมะสิด กล่าวว่าเขาจะมุ่งมั่นที่จะค้นหาแนวทางที่ยั่งยืนในระยะยาวตามกระบวนการดำเนินงานของเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-provides-insight-into-current-situation-at-24th-asean-eu-ministerial-meeting/