รัฐบาลมั่นใจศก.โต3.5% ส่งออกพุ่งท่องเที่ยวฟื้น-เก็บภาษีทะลุเป้า

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า รัฐบาลมั่นใจเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ยังขยายตัวต่อเนื่อง และจีดีพีทั้งปี 2565 มีโอกาสขยายตัว 3.5% เนื่องจากปัจจัยบวกจาก การท่องเที่ยวและการส่งออกเป็นตัวชูโรงขณะที่การจัดเก็บรายได้ 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ’65 ยอดเงินกว่า 2.03 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1 แสนล้านบาท หรือ 5.5% โดยกรมสรรพากรจัดเก็บรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2.06 แสนล้านบาท หรือ 14.1% กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ 4.28 แสนล้านบาทต่ำกว่าประมาณการ 6.89 หมื่นล้านบาท หรือ 13.9% เนื่องจากการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนกรมศุลกากรจัดเก็บรายได้ 8.99 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6.38 พันล้านบาท หรือ 7.6%

ที่มา : https://www.naewna.com/business/675763

“เวียดนาม” เผยภาคเครื่องนุ่งห่ม จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน FDI เหตุบรรลุเป้าส่งออก

ภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในชุมชน มีความต้องการเม็ดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ไหลเข้าสู่กระบวนการผลิตผ้า เส้นด้ายและวัตถุดิบอื่นๆ เนื่องจากธุรกิจต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านการส่งออกจากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) โดยจากข้อมูลของกระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีจำนวนโครงการ FDI ทั้งสิ้น 2,787 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 31.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ 18 พ.ค.) ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจเครื่องนุ่งห่ม กล่าวว่าโครงการ FDI มีส่วนร่วมในการเพิ่มกำลังการผลิตและขนาดการส่งออกของอุตสาหกรรมนี้ หากพิจารณามูลค่าการส่งออก จะพบว่าเพิ่มขึ้นจาก 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2561 มาอยู่ที่ 40.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 คิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของมูลค่าการส่งออกรวม

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/garment-sector-requires-greater-fdi-for-export-target-fulfilment-post965641.vov

ราคากาแฟโลก พุ่ง! ท่ามกลางอุปทานของกาแฟเวียดนามลดลง

ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ค้ากาแฟ ซึ่งจัดทำโดย Bloomberg คาดการณ์ไว้ว่าสต็อกของวัตถุดิบจะลดลงครึ่งหนึ่งภายในสิ้นเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ฝั่งด้านผลผลิต เวียดนามจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกกาแฟโรบัสตารายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ทั้งนี้ ปริมาณสำรองที่ลดลงและช่วงเวลาที่ไม่เหมาะกับการเก็บเกี่ยวพืชผล แต่สถานการณ์การบริโภคกาแฟทั่วโลกเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังการระบาดปรับตัวลดลง ด้วยเหตุนี้ พันธุ์กาแฟโรบัสต้า (Robusta) ที่ถูกนำมาใช้โดยบริษัทกาแฟรายใหญ่ของโลก ได้แก่ เนสท์เล่ และเอสเพรสโซ่ เบลนด์ จะกลับมาเริ่มดำเนินกิจการ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2022/08/25/global-coffee-prices-to-rise-amid-drop-in-vietnam-supply/

“รัฐบาลสปป.ลาว” ให้คำมั่นแก้ไขปัญหาศก. ตกต่ำ

จากการที่ประชุมของรัฐบาล โดยมีนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นประธานและคณะรัฐมนตรี ได้มีการสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจมหภาคอย่างจริงจัง รวมถึงการสร้างบรรยากาศการลงทุน ปรับปรุงการชำระหนี้ การรับมือกับภัยธรรมชาติ การควบคุมเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ โฆษกรัฐบาลลาว กล่าวว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องให้ความสำคัญในเรื่องการควบคุมราคาสินค้าและการชำระหนี้ในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะหนี้รัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ ยังได้เน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องหลักเลี่ยงการก่อหนี้ใหม่ เนื่องจากรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะไม่ยอมให้ประเทศผิดนัดชำระหนี้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Govt165.php

เดือนเม.ย.-ก.ค. 65 เมียนมามีรายได้จากการส่งออกก๊าซธรรมชาติ ทะลุกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (วันที่ 1 เม.ย.ถึงวันที่ 31 ก.ค.2565) เมียนมามีรายได้จาการส่งออกก๊าซธรรมชาติถึง 819.503  ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปริมาณการส่งออกจำนวน 77.89 ล้านกิโลกรัม โดยการส่งออกก๊าซธรรมชาติของประเทศในอาเซียนส่วนใหญ่แล้วจะมาจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในเมียนมานอกชายฝั่ง 4 โครงการ ได้แก่ ยาดานา, เยดากุน, ฉ่วย และซอติก้า

ที่มา : https://english.news.cn/20220826/0dedf051781f4e5bbbf355a8fc2c2c93/c.html

หนี้สาธารณะเวียดนาม ลดฮวบ!

กระทรวงการคลังเวียดนาม เปิดเผยว่าหนี้สาธารณะของเวียดนามอยู่ที่ 157 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 หรือคิดเป็นสัดส่วน 43.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่า 62.2% ในปี 2559 และยังต่ำกว่าที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ โดยในช่วงปี 2560-2564 อัตราภาระหนี้ต่อ GDP ลดลง 12.6% ตามมาด้วยหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน ลดลง 5.3% และหนี้ของจังหวัด ลดลง 0.5% ในขณะที่อัตราหนี้ต่างประเทศต่อ GDP ลดลงจาก 49% มาอยู่ที่ 38.4% และหนี้ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อยู่ที่ 67.2% ของหนี้ภาครัฐทั้งหมด ทั้งนี้ ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการระดมเงินทุน โดยการออกพันธบัตรในประเทศ ตลอดจนการระดมทุนผ่านความช่วยเหลือด้านการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) และเงินให้กู้ยืมจากต่างประเทศ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-public-debt-drops-sharply/

ภาคการท่องเที่ยวเวียดนามฟื้นตัว ดันเศรษฐกิจฟื้นฟูหลังโควิด-19

สำนักข่าวสิงคโปร์ The Business Times of Singapore เปิดเผยว่าภาคการท่องเที่ยวของเวียดนามคาดว่าจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังเวียดนามจะอยู่ในระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาด ภายในปี 2567 ทั้งนี้ ศูนย์วิจัย Fitch Solutions ชี้ว่าภาคการท่องเที่ยวของเวียดนามจะทำรายได้ราว 11.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 ซึ่งมีมูลค่าเกินกว่า 10.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้แล้ว คุณ Noemi Perez ผู้จัดการโรงแรมมีเลีย บา วี เมาน์เทน รีทรีท ประเทศเวียดนาม กล่าวว่าการตอบสนองนโยบายของรัฐที่มีความยืดหยุ่น ช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศมากขึ้นและยังสร้างการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยและมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/tourism-rebound-drives-vietnams-postpandemic-economic-recovery-singaporean-daily/236149.vnp

ราคามะม่วง Yingwe ในเมียนมา ดิ่งลง เมื่อเทียบกับปีก่อน

เกษตรกรในรัฐฉานตอนใต้ เผย เนื่องจากฝนตกอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มะม่วง Yingwe  เกิดความเสียหาย ราคาดิ่งลงอยู่ที่ประมาณ 10,000 จัตต่อตะกร้าลดลงจากปีก่อนที่ 20,000 จัตต่อตะกร้า ทั้งนี้เกษตรกรในรัฐฉานส่วนใหญ่ส่งออกมะม่วง Seintalone และมะม่วง Machitsu ไปยังจีน ส่วนมะม่วง Yingwe ส่งไปขายยังตลาดย่างกุ้งเป็นหลัก จากสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่สามารถส่งออกมะม่วงไปยังจีนได้ ทำให้เกษตกรมีรายได้ลดลงอย่างมาก

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/price-of-yingwe-mango-weak-in-domestic-market/#article-title

พันธบัตรรัฐบาล สปป.ลาว มูลค่า 5 ล้านล้านกีบ ขายออกแล้วกว่าร้อยละ 80

ประมาณร้อยละ 80 ของพันธบัตรมูลค่า 5 ล้านล้านกีบ ที่ออกโดยธนาคารแห่ง สปป.ลาว (BOL) ได้ถูกขายออกไปแล้วนับตั้งแต่มีการเสนอขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน โดยพันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าวให้อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อปี จากข้อมูลของธนาคารกลาง สปป.ลาว ซึ่งบุคคลทั่วไปเข้าซื้อพันธบัตรร้อยละ 42 ผ่านธนาคาร 9 แห่ง ใน สปป.ลาว ในขณะที่อีกร้อยละ 38 ถูกซื้อโดยบริษัทและนิติบุคคลอื่นๆ โดยเงินที่ได้จากการขายพันธบัตรจะช่วยให้รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และการเงิน ที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งพันธบัตรดังกล่าวขายผ่าน BCEL, ธนาคารเพื่อการพัฒนา สปป.ลาว (LDB), ธนาคารส่งเสริมการเกษตร (APB), ธนาคารเพื่อการพัฒนาร่วม (JDB), ธนาคารพงสวรรค์, ธนาคาร ST, ธนาคาร BIC, ธนาคารร่วมทุน สปป.ลาว-เวียต และธนาคารไอซีบีซี ในขณะที่มูลค่าที่ตราไว้ของพันธบัตรเริ่มต้นที่ 100,000 กีบต่อหน่วย บุคคลทั่วไปสามารถซื้อพันธบัตรได้มูลค่าสูงสุดที่ 2 พันล้านกีบ ในขณะที่นิติบุคคล เช่น บริษัท สามารถซื้อพันธบัตรได้มูลค่าสูงสุด 1 หมื่นล้านกีบ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten163_80percent.php

กัมพูชางดการนำเข้าแป้งเด็กปนเปื้อนแร่ใยหินเป็นการชั่วคราว

กัมพูชาระงับการนำเข้าและจำหน่ายแป้งทาตัวสำหรับเด็กหลายยี่ห้อเป็นการชั่วคราว หลังจากตรวจพบแร่ใยหินในผลิตภัณฑ์เหล่านั้น กล่าวโดยอธิบดีกรมคุ้มครองผู้บริโภค การแข่งขัน และการปราบปรามการทุจริตกัมพูชา (CCF) โดยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแร่ใยหินที่มีการจัดจำหน่ายในกัมพูชายกตัวอย่างเช่น ยี่ห้อจอห์นสัน, ดีนี่, โคโดโม, Bhaesaj และเบบี้มายด์ ซึ่งผลิตในประเทศไทย เช่นเดียวกับ แป้งเด็ก Pureen และ Laffair Be Love ที่ผลิตในมาเลเซีย โดย CCF ยังสั่งให้ผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายเรียกคืนผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจากตลาด โดยให้เวลาสองสัปดาห์ในการนำตัวอย่างผลิตภัณฑ์เข้าตรวจทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาการปนเปื้อนของแร่ใยหินในผลิตภัณฑ์ โดยห้องทดลอง (Lab) ต้องเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501137845/cambodia-temporarily-bans-imports-of-asbestos-contained-talc-baby-powder/