‘การรถไฟเวียดนาม’ ปักหมุดก้าวหน้าปี 65

การรถไฟเวียดนาม (VRN) ชี้เริ่มต้นปีมีสัญญาเขิงบวกหลายประการ เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่อย่างไรก็ดีการแพร่ระบาดเชื้อโรคยังคงทำให้ผู้คนวิตกกังวล ทั้งนี้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การรถไฟปรับลดราคา 40% สำหรับตั๋วรถไฟ 1 ท่านต่อ 1 คนในกรณีที่เดินทางไกล รวมถึงจองตู้โดยสารทั้งหมดหรืออาหารฟรีบนรถไฟ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริม การรถไฟฯ เร่งปรับปรุงการดำเนินงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายและระงับเส้นทางที่มีผู้โดยสารน้อย ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้เปิดตัวการให้บริการตัวใหม่ เพื่อดึงดูดผู้โดยสารที่มีความต้องการทางด้านการท่องเที่ยวในระดับสูงและการขนส่งสินค้าทางไกล โดยการขนส่งสินค้าทางรถไฟครั้งแรกจากรุงดานังไปยังยุโรป จะเริ่มต้นในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ ตามตัวเลขสถิติของการรถไฟฯ ชี้ให้เห็นว่าในช่วง 4 เดือนนับตั้งแต่มีการเปิดตัวเมื่อเดือนก.ค.ในปีที่แล้ว การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด มีจำนวน 644 ตู้ ขนาด 40 ฟุตผ่านรถไฟ 28 ขบวนไปยังยุโรป หรือเฉลี่ย 3 รถไฟต่อสัปดาห์

ที่มา : https://hanoitimes.vn/vietnam-railway-set-for-breakthroughs-in-2022-320164.html

‘ADB’ ชี้ 3 ทางเลือกที่ยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการหญิงในเวียดนาม

นายโดนัลด์ แลมเบิร์ต ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาธุรกิจภาคเอกชนของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้เปิดเผย 3 ทางเลือกให้กับคณะกรรมการธนาคารเกี่ยวกับการส่งเสริมผู้ประกอบการหญิงในเวียดนาม ธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของนั้นกลายมาเป็นตัวเร่งให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเวียดนามมีผู้หญิงเป็นเจ้าของธุรกิจกว่า 24% อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน ผู้ประกอบการ SMEs ที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของธุรกิจต้องเผชิญกับอุปสรรคทางการเงิน ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานจะคล้ายกับผู้ชายที่เป็นเจ้าของธุรกิจและมีโอกาสต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการชายที่ต้องการกู้เงินจากธนาคาร ข้อจำกัดเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาสำหรับผู้ประกอบการหญิงเท่านั้น แต่สิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นปัญหาในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญของธนาคาร ADB ได้เสนอทางเลือก 3 ด้านในการส่งเสริมผู้ประกอบการหญิงในเวียดนาม ได้แก่ 1) กลยุทธ์ เจ้าหน้าที่ธนาคารต้องทำความเข้าใจถึงความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ประกอบการหญิง 2) กลยุทธ์ขององค์กรว่ามีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ 3) ข้อมูลพื้นฐานของผลิตภัณฑ์ โครงสร้างลูกค้า ฯลฯ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/adb-specialist-proposes-ways-to-empower-women-owned-firms-in-vietnam-post928967.vov

รัฐบาลตั้งเป้า GDP เติบโตอย่างน้อยร้อยละ 4

รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปีอย่างน้อย 4% นับจากนี้จนถึงปี 2025 แม้ว่าจะไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจะควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เมื่อใด ภาครัฐตั้งเป้าภาคการเกษตรคาดว่าจะเติบโตที่อัตราเฉลี่ย 2.5 % ต่อปี คิดเป็น 15.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภายในปี 2568 ด้านอุตสาหกรรมคาดว่าจะเติบโตในอัตราร้อยละ 4.1 ต่อปี และจะประกอบด้วยร้อยละ 32.3 ของ GDP ภายในปี 2568 ในขณะที่ภาคบริการคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 6 คิดเป็นร้อยละ 40.7 ของ GDP ใน อีก 3-4 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ภาคภาษีและภาษีคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 5.8 และควรคิดเป็นร้อยละ 11.7 ของ GDP ภายในปี 2568 รัฐบาลเชื่อว่ารายได้ GDP ต่อหัวต่อปีจะสูงถึง 2,880 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2568 ทั้งนี้สปป.ลาวสามารถบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจได้หากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่มีความคืบหน้าตามแผนที่วางไว้ โครงการเหล่านี้รวมถึงเมืองอัจฉริยะ ทางด่วน เขตเศรษฐกิจพิเศษ ไฟฟ้าพลังน้ำ เหมืองแร่ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรูปแบบอื่นๆ ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของ GDP ได้อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งก็คือความสามารถของรัฐบาลในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govtaims_47_22.php

กัมพูชาส่งออกข้าวไปยังจีนกว่า 1 แสนตัน ภายใต้ MoU ฉบับล่าสุด

สหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) กล่าวว่ากัมพูชาส่งออกข้าวมากกว่า 100,000 ตัน ไปยังจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกความเข้าใจฉบับที่ 6 โดยทางการจีนกำหนดให้โควตาการส่งออกข้าวสารกัมพูชาไปยังจีนรวม 400,000 ตันต่อปี ซึ่ง MoU ได้ลงนามเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2021 โดย ปาน สรศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา และหลู่ จุน ผู้อำนวยการทั่วไปของ China Oil and Foodstuffs Corporation (COFCO) ตามรายงานของ CRF ซึ่งได้ระบุเพิ่มเติมว่าความต้องการข้าวหอมมะลิของกัมพูชาเพิ่มสูงขึ้นในจีน โดยในปัจจุบันเป็นที่นิยมใน 9 จังหวัดของจีน ได้แก่ กวางตุ้งนำเข้าข้าวสารจากกัมพูชาคิดเป็นร้อยละ 77.6 ของส่งออกข้าวสารไปยังจีน ในขณะที่หูเป่ยนำเข้าร้อยละ 6.8, มณฑลฝูเจี้ยนร้อยละ 3.7, มณฑลหูหนานร้อยละ 3.4 เป็นต้น ซึ่งในปี 2021 กัมพูชาส่งออกข้าวสารไปยังจีนปริมาณรวม 306,222 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทะลุเป้าหมายโควตาที่ได้กำหนดไว้ที่ 300,000 ตัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501037594/kingdom-exports-over-100000-tonnes-of-rice-to-china-under-sixth-mou/

FDI กัมพูชาขยายตัวร้อยละ 22 มูลค่าแตะ 4.35 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2021

ตามรายงานของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) กัมพูชาสามารถดึงเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ได้จำนวน 4.35 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจีน สหรัฐฯ และสิงคโปร์ ถือเป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ของกัมพูชา ซึ่งภายหลังรัฐบาลกัมพูชาได้ประกาศกรอบยุทธศาสตร์และแผนงานสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ประจำปี 2021-2023 โดยมีเสาหลัก 3 ประการ ได้แก่ การกู้คืน การปฏิรูป และการสร้างความยืดหยุ่น เพื่อการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ การอำนวยความสะดวกทางการค้า กฎหมายที่จะเกิดขึ้น รวมถึงเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษและการดำเนินการตามกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยมากขึ้นสำหรับนักลงทุน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501037592/cambodia-fdi-inflows-zoom-22-percent-at-4-35-billion-in-2021/

ราคาทองคำเมียนมาพุ่งเป็น 2 ล้านจัต ด้านราคาน้ำมันเบนซินตลาดย่างกุ้งพุ่งแตะ 2,130 จัตต่อลิตร

สมาคมผู้ประกอบการทองคำแห่งย่างกุ้ง ระบุว่า ราคาทองคำได้แตะระดับ 2,012,000 จัต ในขณะที่ราคาทองคำโลกแตะระดับ 2,014 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำในวันที่ 7 มี.ค.65 ปิดที่ 199,000จัต เพิ่มขึ้นอีก 22,000 จัตในวันนี้ (8 มี.ค.65) ส่วนราคาน้ำมันเบนซินของตลาดย่างกุ้งเพิ่มขึ้นอีก 92 จัตต่อลิตร เป็น 2,130 จัตต่อ ส่งผลให้ราคาน้ำมันก๊าดพุ่งขึ้นเป็น 200 จัต ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ราคาน้ำมันขายในตลาดน้ำมันย่างกุ้ง อย่าง น้ำมันดีเซล 95 อยู่ที่ 2,195 จัตต่อลิตร, ดีเซลธรรมดาราคา 2,325 จัตต่อลิตร และดีเซลพรีเมียมราคา 2,335 จัตต่อลิตร

ที่มา : https://news-eleven.com/article/227070

เดือนก.พ.65 การค้าเมียนมา-บังคลาเทศ ลดฮวบ

รายงานของกระทรวงพาณิชย์ เผย ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. ถึง 25 ก.พ.65 ของงบประมาณย่อย การค้าเมียนมา-บังคลาเทศผ่านชายแดนมีมูลค่า 18.002 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว 20.498 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 2.49 ล้านเหรียญสหรัฐจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 17.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้ามูลค่า 0.080 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การค้าชายส่วนใหญ่ผ่านจุดเข้าเมืองซิตต์เวย์และเมืองมองตอ ซึ่งสินค้าที่ซื้อขายระหว่างสองประเทศ ได้แก่ ไม้ไผ่ ขิง ถั่วลิสง กุ้งทะเลและปลา ลูกพลัมแห้ง กระเทียม ข้าว ถั่วเขียว ผ้าห่ม ลูกอม แยมลูกพลัม รองเท้า อาหารแช่แข็ง สารเคมี หนัง ผลิตภัณฑ์จากปอกระเจา ยาสูบ พลาสติก ไม้ เสื้อถัก และเครื่องดื่ม

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/e-paper/

‘เวียดนาม-สหรัฐฯ’ มุ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการค้า

การประชุมสุดยอด “The Vietnam-US Business Summit 2022” ว่าด้วยการปรับโฉมอนาคตของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในระดับทวิภาคี จะมีขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม และจะหารือเกี่ยวกับวิธีการส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยมีหอการค้าอเมริกันในกรุงฮานอย (AmCham Hanoi) และสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมที่จะต้อนรับนาย ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และผู้นำของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ โดยประเด็นสำคัญที่จะหารือในครั้งนี้ ได้แก่ การขับเคลื่อนนวัตกรรมในอนาคตผ่านเศรษฐกิจดิจิทัลและส่งเสริมการลงทุนที่ยั่งยืน ตลอดจนการใช้นโยบายเพื่อฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจ นอกจากนี้แล้ว กรมศุลกากร เปิดเผยว่าการส่งออก-นำเข้าของทั้งเวียดนามและสหรัฐฯ มีมูลค่า 111.56 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นราว 21 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับปี 2563 ส่งผลให้สหรัฐฯ เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนามที่มีมูลค่าการค้ารวมกันมากกว่า 100 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองจากจีน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-us-seek-to-propel-trade-ties-forward-post928764.vov

 

ทำไมนักลงทุนต่างชาติเลือก ‘เวียดนาม’ แทนตลาดเพื่อนบ้าน?

บริษัทที่ปรึกษา PwC เผยแพร่รายงาน Vietnam Outlook: “โอกาสทางเศรษฐกิจท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19” ระบุว่าหลังจากรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสเป็นเวลานาน เวียดนามยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของ GDP ที่ 2.58% ในปี 2564 และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตติดต่อกัน 2 ปีติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจไม่ได้แสดงถึงผลกระทบจากโควิด-19 ที่แท้จริง เนื่องจากเศรษฐกิจจะฟื้นตัวรูปตัว K โดยภาคเศรษฐกิจสำคัญของประเทศได้รับผลกระทบในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว โรงแรม บริการอาหารและเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ตลอดจนภาคการส่งออก นอกจากนี้ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางการค้ากับตลาดโลกดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับตลาดเพื่อนบ้านแล้ว เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของห่วงโซ่อุปทานจำนวนมากและคลื่นการย้ายฐานการผลิต

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/business/what-makes-foreign-investors-choose-vietnam-instead-of-neighboring-markets-820867.html

 

YesPls แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ลาว ส่งเสริมอีคอมเมิร์ซสปป.ลาว

TK Group พัฒนาแพลตฟอร์มการช้อปปิ้งออนไลน์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไปผ่านการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น “YesPls” เพื่อส่งเสริมอีคอมเมิร์ซและช่วยให้ SMEs เติบโตในยุคดิจิทัลในสปป.ลาว พิธีเปิดตัวแอปพลิเคชั่น YesPls อย่างเป็นทางการจัดขึ้นที่ Lao-ITECC ในเวียงจันทน์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การจัดตั้งแอปพลิเคชัน YesPls เป็นการรวมตัวกันของร้านค้ากว่า 500 แห่งที่มีสินค้ามากกว่า 2,000 รายการ รวมถึงสินค้านำเข้าและสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น และสินค้าเหล่านี้มีให้เลือกซื้อ โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตในประเทศลาว แพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นนี้เป็นสะพานเชื่อมที่ทันสมัยระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ เพื่อให้พวกเขาสามารถพบกันและแลกเปลี่ยนสินค้าคุณภาพสูงได้หลากหลาย ด้วยการชำระเงินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และบริการจัดส่งที่รวดเร็วยิ่งขึ้นทั่วประเทศ แอปพลิเคชันจะช่วยส่งเสริมการเติบโตของ SMEs สปป.ลาวและการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ลาว โดยในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายบริการช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วสปป.ลาว

 ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Online_shopping_46.php