“เวียดนาม-เม็กซิโก” ส่งเสริมความร่วมมือเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน

นายโด๋ถางไห่ (Do Thang Hai) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม นำคณะผู้แทนผู้ประกอบการชาวเวียดนาม 23 ราย เข้าร่วมการประชุมฟอรั่มธุรกิจไทย-เวียดนาม เมื่อวันที่ 4 ก.ค. วัตถุประสงค์เพื่อดำเนินความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี นาง Luz Maria de la Mora ปลัดกระทรวงเศรษฐกิจเม็กซิโก กล่าวว่าในมุมมองของเม็กซิโกถือว่าตลาดเวียดนามเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและหวังว่าทั้งสองประเทศจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ตลอดจนใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมข้อตกลง CPTPP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ตามตัวเลขสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม ชี้ว่าในปี 2564 การค้าของทั้งสองประเทศ อยู่ที่ 5.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 37.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเวียดนามสนใจที่จะลงทุนในเม็กซิโก อาทิ อุตสาหกรรมพลังงาน โทรคมนาคม การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง เป็นต้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-mexico-promote-economic-trade-investment-cooperation/232181.vnp

จีนให้คำมั่นกัมพูชา สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจต่อเนื่อง

Wang Yi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ให้คำมั่นต่อกัมพูชาในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ ผ่านการส่งออกและการเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังจีนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 6-10 ทุกปี ในด้านการลงทุน Wang Wentian เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา กล่าวว่า การลงทุนโดยตรงของจีนในกัมพูชาในปัจจุบันสูงถึง 206 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่าง จีน-กัมพูชา ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนมีมูลค่าถึง 4,990 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลจากกรมศุลกากรและสรรพสามิต ในขณะที่กัมพูชาส่งออกไปยังจีนมูลค่ารวมอยู่ที่ 519.8 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับการนำเข้าจากจีนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.5 หรือคิดเป็นมูลค่า 4,470 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501106399/china-pledges-continuous-support-for-cambodias-economic-development/

NBC คาดการณ์เศรษฐกิจกัมพูชาปีนี้ โตร้อยละ 5

ธนาคารกลางกัมพูชา (NBC) คาดเศรษฐกิจปีนี้จะโตราวๆ ร้อยละ 5 โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าเกษตร การขนส่ง โทรคมนาคม และกระแสการลงทุนที่ดีขึ้น ในแง่ของการค้าและการลงทุน ประเทศคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคี และการออกกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ ในขณะที่ยังคงต้องคอยติดตามสถานการณ์สงครามระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ไปจนถึงการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่พัฒนาแล้ว โดย NBC กล่าวเพิ่มว่าในปีที่แล้วการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาอยู่ที่ร้อยละ 3 หลังจากหดตัวร้อยละ 3.1 ในปี 2020

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501099597/nbc-projects-5-percent-economic-growth-this-year/

“ธุรกิจเวียดนาม” ยืนหยัดท่ามกลางความปั่นป่วนเศรษฐกิจรัสเซีย

มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรง ทำให้เศรษฐกิจรัสเซียเกิดการสั่นครอน แต่ว่าโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งหนึ่งอย่าง “Ruviteks” มอสโก ประเทศรัสเซีย เจ้าของคนเวียดนาม คุณ Phan Manh Hùng กล่าวกับสำนักข่าวเวียดนามว่าก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้ามีแรงงานมากกว่า 100 คน แต่ปัจจุบันมีจำนวนแรงงานราว 40 คน อย่างไรก็ดีภาพรวมของกิจการยังอยู่ในระดับเสถียรภาพและสามารถจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานได้ ถึงแม้ว่าวัตถุดิบส่วนใหญ่ของอุตสาหกรรมเสื้อผ้าในรัสเซียจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศและได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้องค์กรข้ามปัญหาอุปสรรคได้คือ การรักษาเสียรภาพการผลิต คำนึงผลประโยชน์ของแรงงานและการจัดหาสินค้าเข้าสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1252225/vietnamese-enterprises-stay-firm-in-face-of-economic-turmoil-in-russia.html

สภาดิจิทัลฯ เล็งชวนต่างชาติ ลงทุนสตาร์ทอัพไทย เชื่อฟื้นเศรษฐกิจได้

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธาน สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาดิจิทัลฯ ขอขอบคุณพันธมิตรทุกรายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน หลังจากรัฐบาลได้ประกาศพระราชกฤษฎีกายกเว้นภาษี Capital Gains เป็นเวลา 10 ปี ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพิ่มขีดความสามารถในการระดมทุนสู่วิสาหกิจเริ่มต้น หรือสตาร์ทอัพได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะกระตุ้นการจ้างงานทักษะดิจิทัลขั้นสูงในประเทศ 500,000 ราย ดึงดูดต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทยกว่า 10,000 ราย เชื่อมั่นเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านบาทในปี 2568 เร่งเดินหน้าโรดโชว์ และจัดกิจกรรมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนกลุ่มเป้าหมายทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้งกลุ่มสตาร์ทอัพทันที โดยตั้งเป้าหมายดึงเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของมูลค่าการลงทุนใน Tech Companies ในภูมิภาคอาเซียน เข้ามาลงทุนกับธุรกิจสตาร์ทอัพไทย มั่นใจจะมีจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 4 แสนตำแหน่ง และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวม 790,000 ล้านบาท

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7114463

EIC ปรับขึ้นจีดีพีปี 65 ขยายตัว 2.9% ต่างชาติเที่ยวไทยหนุนปีนี้ 7.4 ล้านคน

นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2565 ขึ้นเป็น 2.9% จากเดิม 2.7% ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและภาคบริการ ผ่านการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของไทยและการผ่อนคลายมาตรการผ่านแดนในหลายประเทศทั่วโลก โดย EIC ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยรวม 7.4 ล้านคนในปีนี้ (เดิม 5.7 ล้านคน) อีกทั้ง กิจกรรมในภาคบริการในประเทศยังมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากการกลับออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ตามอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคของภาครัฐ

ที่มา : https://www.businesstoday.co/business/14/06/2022/84717/

ปริมาณการขนส่งสินค้าในกัมพูชาเพิ่มขึ้น คู่ขนานไปกับค่าขนส่งที่แพงขึ้น

ปริมาณการขนส่งสินค้าทั้งขาเข้าและออกของกัมพูชาปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศ เพื่อทำการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ในเดือน พฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา หลังการปิดประเทศเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ด้าน Sin Chanthy ประธานสมาคมผู้ส่งสินค้าทางเรือกัมพูชา กล่าวว่า การส่งออกและนำเข้าของกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ เนื่องจากการขนส่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีอุปสรรคมาขวางกั้นเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่ในขณะเดียวกันค่าขนส่งกลับเพิ่มขึ้นกว่า 15-20% ตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ร่วมกับปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ ไปจนถึงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ผลักดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501089252/goods-transport-up-but-shipping-cost-too-rising/

รัฐบาลให้คำมั่นแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำมัน กีบอ่อน หนี้สินประเทศ

รัฐบาลให้คำมั่นที่จะดำเนินการที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อจัดการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงและหนี้ที่เป็นหนี้กับบริษัทเอกชนและต่างประเทศ คำมั่นสัญญานี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลในการบรรลุเป้าหมายของสองวาระแห่งชาติ ซึ่งพยายามบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ และควบคุมกับการป้องกันค้ายาเสพติด ในการประชุมประจำเดือนของคณะรัฐมนตรีที่จัดขึ้นที่เวียงจันทน์เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นชอบที่จะจัดหาแหล่งการลงทุนระยะยาวเพิ่มเติมจากภาคเอกชนในประเทศลาวและประเทศอื่นๆ และผลักดันโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ให้ก้าวหน้าตามแผนที่วางไว้ การเคลื่อนไหวเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างงานมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ควบคุมการใช้จ่ายและรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราให้มีเสถียรภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten103_Govtvows.php

“ประยุทธ์” ร่วม Nikkei Forum ชู 3 ประเด็นอาเซียนเดินหน้าเศรษฐกิจ ลงทุนยั่งยืน

นายกฯ กล่าวปาฐกถาในการประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ 27 ที่ญี่ปุ่น ชู 3 เรื่องสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ได้แก่ กระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ต้องสนับสนุนระบบพหุภาคีต่อไป การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจจะต้องเกิดควบคู่ไปกับความยั่งยืน อีกทั้งแนะให้อาเซียนผลักดันบทบาทของอาเซียนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในรูปแบบพหุภาคี การรวมกลุ่มความร่วมมือและสร้างเศรษฐกิจยั่งยืน ทั้งนี้มองควรมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่นมาลงทุน EV  – ดาต้าเซนเตอร์ – BCG

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/1006559

‘อาเซียน’ เร่งขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจก้าวสู่ยุคดิจิทัล คาดปีหน้า GDP อาเซียนโตถึง 5.2%

รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ร่วมถกแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจภูมิภาค เน้นเทคโนโลยีดิจิทัลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งสานสัมพันธ์กับประเทศนอกกลุ่ม ย้ำจุดยืนการเป็นภูมิภาคที่เปิดกว้าง โปร่งใส ยึดมั่นในหลักเกณฑ์ การใช้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมหนุนศึกษาข้อริเริ่มที่ช่วยรับมือกับความมั่นคงทางอาหารและสาธารณสุข มั่นใจ ปีหน้า GDP อาเซียนจะขยายตัวเพิ่มถึง 5.2% ด้าน ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำหรับกลไกในการขับเคลื่อนอาเซียนไปสู่อนาคต ควรให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน ที่เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) ซึ่งเป็นหัวข้อหลักในการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค (APEC) ของไทยในปีนี้ด้วย สำหรับในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค. 2565) การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 31,125.2 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 17.2% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกจากไทยไปอาเซียน มูลค่า 17,906.6 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 17% และการนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 13,218.6 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 17.4%

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/beco/3325478